สาวก Biker ทั้งหลาย ก่อนขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ทุกครั้ง สิ่งที่ไม่ควรลืมเป็นอันขาด ก็คือหมวกกันน๊อค
แล้วเพื่อนๆ ทราบกันหรือไม่ว่า หมวกกันน๊อคที่ตัวเองใส่อยู่นั้น แท้จริงแล้วมันถูกจัดอยู่ในประเภทไหน? แล้วรู้หรือไม่ว่า รูปแบบหมวกกันน๊อค มีกี่ประเภท ซึ่งขอแบ่งแยกโดยละเอียด (ตามมาตรฐานสากล) หากใครยังไม่รู้ วันนี้ MotoRival ของเราจะมาอธิบายให้ฟังกันอย่างละเอียด เพื่อเป็นแนวทางให้กับเพื่อนๆ เลือกใช้หมวกกันน๊อคได้เหมาะกสมกับสไตล์ของคุณ
1. Fullface (เต็มใบ) หมวกกันน๊อคที่มีการปกปิดทั่วทั้งศรีษะตั้งแต่ด้านหลังท้ายทอย ใบหน้าไปจนถึงคาง
ซึ่งหมวกประเภทนี้ ถือเป็นหมวกที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในผู้ขับขี่รถ 2 ล้อขนาดใหญ่ จนไปถึงนักแข่งทางเรียบที่ขับขี่ในสนามก็ล้วนสวมใส่หมวกแบบเต็มใบ เพราะลดอาการบาดเจ็บจากการเกิดอุบัติเหตุได้อย่างดีที่สุด
มอก.บ้านเราได้เรียกหมวกประเภทนี้ว่า “แบบปิดเต็มหน้า”
2. Openface (เปิดหน้า) หมวกประเภทนี้นั้นได้รับความนิยมมากกว่าแบบแรก เนื่องจากผู้ขับขี่รถ 2 ล้อทั่วๆไป มักเลือกใช้กัน เพราะหายใจได้สะดวกกว่าและไม่อึดอัดเท่ากับแบบแรกขณะสวมใส่ มันมีรุปทรงคล้ายกับหมวกแบบเต็มใบ แต่จะไม่ปกปิดในส่วนใบหน้า ตั้งแต่คางขึ้นไปจนถึงบริเวณหน้าผาก (โดยส่วนมากจะมีบังลมหน้าติดตั้งมาให้) จึงถูกเรียกว่า แบบเปิดหน้า แต่ใน มอก.บ้านเรากลับเรียกมันว่า “แบบเต็มใบ” ซึ่งแท้ที่จริงแล้วมันเป็นหมวกกันน๊อคแบบ ¾ เท่านั้น
3. Modular (ยกคาง) หมวกกันน๊อคประเภทนี้หากมองเผินๆ จะดูเหมือนหมวกกันน๊อคแบบเต็มใบ แต่แท้ที่จริงแล้วมันถือเป็นลูกผสมระหว่าง หมวกกันน๊อคแบบแรก และแบบที่ 2 นั่นก็คือ สามารถที่จะกลายร่างเป็นหมวกแบบเปิดหน้าได้ โดยกลไกของตัวหมวกกันน๊อคที่ดีไซน์มาให้สามารถยกบริเวณส่วนคางขึ้นได้ จึงช่วยอำนวยความสะดวก ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุยได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะเห็นได้ว่าหมวกประเภทนี้ ได้รับความนิยมกับผู้ขับขี่รถสไตล์ Touring ไปจนถึงกลุ่มผู้ใช้รถสไตล์ Bagger
4. Halfface (ครึ่งใบ) หมวกกันน๊อคประเภทนี้ จะปกปิดเพียงส่วนด้านบนศรีษะเท่านั้น มีลักษณะครอบลงมาเพียงครึ่งเดียว (บางใบจะมีบังลมหน้าติดตั้งมาให้) หมวกประเภทนี้ได้รับความนิยมใกล้เคียงกับหมวกในประเภทที่ 2 และเป็นหมวกที่ผู้ขับขี่รถทั่วๆไป มักเลือกใช้ เพราะง่าย สะดวกรวดเร็ว เบาคล่องตัว แถมมีราคาถูกที่สุด แต่หมวกประเภทนี้นั้น เป็นหมวกที่มีประสิทธิภาพต่ำที่สุดในการป้องกันการบาดเจ็บ ซึ่งบรรดา Biker ทั้งหลายคงทราบกันดี
5. Dirt (Offroad, Enduro, Motocross) หมวกประเภทนี้มีชื่อเรียกที่หลากหลายในภาษาอังกฤษ แต่คนไทยเรียกกันง่ายๆเข้าใจว่า “หมวกวิบาก” หมวกแบบนี้มีรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์ คือจะเป็นหมวกแบบเต็มใบ แต่มีแก๊ปเหนือศรีษะยื่นยาวออกมา และในส่วนของปลายคางยื่นออกมาเช่นเดียวกัน การดีไซน์แบบนี้นั้น เพื่อเอาไว้ป้องกันโคลนดิน ที่จะกระเด็นเข้ามาสู่ใบหน้า และช่วยบังแสงแดดด้วย แต่หมวกชนิดนี้จะไม่มีบังลมหน้าให้ เนื่องจากรูปแบบของการดีไซน์ ผู้สวมใส่หมวกชนิดนี้จึงมักหาแว่นตา Goggle มาสวมรัดเข้ากับหมวก เพื่อป้องกันสิ่งสกปรกเข้าตา หมวกชนิดนี้เป็นที่นิยมของผู้ที่ขี่รถในแนว Enduro หรือ Motocross มากที่สุด แต่ก็สามารถนำมาใช้งานบนถนนได้เช่นเดียวกัน
6. Hybrid (Dual Sport, Motard) หมวกชนิดนี้ เป็นหมวกที่ออกแบบมาสำหรับการขับขี่ทั้งรูปแบบ Onroad หรือ Offroad ซึ่งมันเป็นลูกผสม Fullface กับแบบ Dirt จึงเรียกได้อีกชื่อว่า Dual Sport คนไทยบางกลุ่มเรียกหมวกประเภทนี้ว่าหมวก Motard ซึ่งต่างประเทศอาจจะเรียก Supermoto หมวกประเภทนี้จะมีลักษณะที่ดูคล้ายหมวกวิบาก แต่จะมีบังลมหน้าติดตั้งมาให้ พร้อมทั้งมีลักษณะที่ดูโค้งมนกว่า ซึ่งนั่นเป็นการผสมผสานการออกแบบสำหรับการใช้งานทั้งทางฝุ่นและทางเรียบ ซึ่งเรามักจะพบผู้ขี่รถสไตล์ Adventure Touring ผู้รักการผจญภัย ในทุกสภาพผิวถนนเลือกใส่หมวกรูปแบบนี้
คลิ๊กชมสาระ Tips Technique อื่นๆ ได้ที่นี่