รีวิว Honda CB500X 2022 พร้อมแล้วที่จะให้เพื่อนๆได้อ่านกันในวันนี้ หลังจากที่ทางค่ายได้มีการเปิดตัวร่างปรับโฉมของมันไปเมื่อสัปดาห์ก่อน โดยแม้มองในผิวเผินหน้าตาภายนอกของมันอาจจะคล้ายเดิม แต่การเสริมออพชันใหม่ที่เน้นหนักในเรื่องระบบกันสะเทือน และระบบเบรกย่อมส่งผลถึงความเปลี่ยนแปลงในเรื่องการใช้งานแน่นอน แต่จะต่างจากเดิมมากแค่ไหน ? เรามาดูกันเลยดีกว่าครับ
อย่างที่เราได้เกริ่นไว้ในข้างต้น Honda CB500X 2022 จะยังคงมาพร้อมกับชุดแฟริ่งเปลือกนอกที่คล้ายเดิมกับโมเดลปี 2019-2021 แทบทุกจุด ตั้งแต่ชิลด์หน้า, ถังน้ำมัน 17.5 ลิตร, แฟริ่งข้าง, แฟริ่งกลาง, และแฟริ่งท้าย แม้แต่ชุดเมนเฟรม, แฮนด์บาร์, เบาะนั่ง, พักเท้า, หรือเครื่องยนต์ก็ยังคงเหมือนเดิมทั้งหมด
แต่ในส่วนของไฟหน้า ที่อาจจะมาพร้อมกรอบโคมเดิม ทว่าตำแหน่งและจำนวนหลอดไฟด้านในได้ถูกปรับใหม่ จากเดิมที่จะเป็นแบบดวงไฟต่ำ-สูง แยกชั้นบนล่างอย่างละ 3 ดวง คราวนี้ ไฟต่ำจำเพิ่มเป็น 4 ดวง โดยติดตั้งไว้ที่ตำแหน่งมุมของโคมไฟทั้ง 4 ขณะที่ไฟสูงที่ลดเหลือ 2 ดวง จะติดตั้งอยู่ตรงกลางของดวงไฟทั้งชั้นบนและชั้นล่าง ซึ่งทาง Honda ระบุว่าการติดตั้งดวงไฟแบบใหม่ทำให้ความสว่างของไฟหน้าเพิ่มขึ้นอีก 25% และยังลดการใช้พลังงานจากแบตเตอรี่อีกด้วย
นอกจากนี้ ตัวบังโคลนหน้าของ CB500X 2022 ยังถูกปรับดีไซน์ใหม่ ให้ดูหน้า ใหญ่โต และบึกบึนมากยิ่งขึ้น ซึ่งนี่เป็นดีไซน์ที่หยิบยืมมาจากพี่ใหญ่สายลุยอย่าง Africa Twin 1100
ส่วนหน้าจอมาตรวัดของมัน ก็ยังคงเป็นแบบฟูลดิจิตอล LCD แสดงผลทั้งรอบเครื่องยนต์แบบแถบวัด และตัวเลข, ความเร็ว, ตำแหน่งเกียร์, ระดับความร้อน, อัตราสิ้นเปลือง, ระยะทางรวม, ระยะทางทริป, ปริมาณน้ำมันคงเหลือ, ปริมาณน้ำมันที่สามารถเดินทางต่อไปได้, เวลา, เวลาทริป, และมีชิฟไลท์มาให้เช่นเคย
และอย่างที่ได้ระบุไว้ก่อนหน้านี้ ว่า CB500X 2022 ยังใช้ชุดเฟรมเดิม, แฮนด์บาร์เดิม, เบาะนั่งเดิม พักเท้าเดิม จึงทำให้ท่าทางในการควบคุมรถนั้นยังคงเหมือนกันกับ CB500X โฉมก่อนทุกอย่าง ทั้งเบาะนั่งที่สูง 830 มิลลิเมตร เท่าเดิม ซึ่งแน่นอนว่าสำหรับผู้ขี่ที่ตัวสูงไม่ถึง 170 เซนติเมตร ก็จะต้องเขย่งกันสักหน่อยหากต้องยืนจอดด้วยสองเท้า แต่ด้วยความกว้างของเบาะนั่งช่วงหว่างขาที่อยู่ในระยะกำลังดีค่อนไปทางแคบนิดๆ ทำให้ผู้ขี่ยังสามารถใช้ท่ายืนจอดขาเดียวแล้ววางเต็มเท้าได้สบายๆอยู่
ส่วนท่านั่งตอนขี่จริง สำหรับลำตัวครึ่งล่าง ตำแหน่งพักเท้าของ CB500X รุ่นนี้ก็ยังคงอยู่ในระดับที่นั่งสบาย ไม่ได้ถอยไปด้านหลังมากเกินไป หรือห่างจนเกินไป เมื่อบวกกับความกว้างของลำตัวรถช่วงหว่างขาที่ค่อนข้างแคบ(เมื่อเทียบกับแอดเวนเจอร์ไบค์ด้วยกัน) เช่นเดียวกับแฮนด์บาร์ที่ออกแบบมาค่อนข้างสูงและกว้าง ก็ยิ่งทำให้การออกแอคชันต่างๆในยามที่ต้องบุกตะลุยอุปสรรคต่างๆสามารถทำได้อย่างคล่องตัวมากยิ่งขึ้น เพียงแต่ในตอนนั่งขี่อาจจะทำให้รู้สึกว่าต้องยกแขนสูงกว่าปกติสักเล็กน้อยก็เท่านั้นสำหรับผู้ขี่ไซส์เล็ก และในจังหวะที่ต้องมุดช่องจราจรก็อาจจะต้องมีการเผื่อเรื่องของระยะแฮนด์สักหน่อย (แต่เรื่องความกว้างลำตัวรถหายห่วง เพราะอยู่ในระดับพอๆกับสกู๊ตเตอร์ 150cc)
ขณะที่ตัวเบาะแบบตอนยาวที่แบ่งชั้นกันชัดเจนระหว่างผู้ขี่กับผู้ซ้อนก็ให้สัมผัสการนั่งที่สบาย รองรับการเดินทางระยะไกลได้เหลือเฟือทั้งผู้ขี่และผู้ซ้อน แม้ว่าผู้ขี่จะตัวหนาก็ไม่ใช่ปัญหาเท่าไหร่นัก อาจจะติดเพียงนิดเดียวก็คือหากผู้ซ้อนตัวหนักมากๆ อาจจะรู้สึกเหมือนหงายหลังนิดๆ เพราะท้ายรถเริ่มห้อยจากช่วงยุบของโช้กที่ค่อนข้างเยอะและการปรับพรีโหลดเดิมๆของโช้กที่ค่อนไปทางอ่อนนิดๆ แต่ก็ไม่ได้น่าหวาดเสียวแต่อย่างใด เพราะยังไงพื้นที่เบาะผู้ซ้อนก็ค่อนข้างยาวอยู่แล้ว
เครื่องยนต์ ของ Honda CB500X 2022 ก็ยังคงเป็นบล็อกเดิมกับ CB500X โมเดลปี 2021 ที่ได้รับการอัพเกรดระบบบำบัดไอเสียให้ดีขึ้นอีกนิดมาอยู่ในระดับ Euro5 แต่นอกนั้นรายละเอียดทางเทคนิคต่างๆยังคงแทบจะเหมือนกับโมเดลปี 2019-2020 นั่นคือ บล็อค 2 สูบเรียง DOHC ระบายความร้อนด้วยน้ำ ความจุ 471cc แต่มีการปรับปรุงการทำงานของ ECU และเซนเซอร์ในบางจุดใหม่, ทางเดินอากาศใหม่, โซ่ราวลิ้นที่เงียบกว่าเดิม, และหม้อน้ำที่เบาลง 100 กรัม แต่ยังคงให้กำลังสูงสุด 47 แรงม้า ที่ 8,600 รอบ/นาที กับแรงบิดสูงสุด 43 นิวตันเมตร ที่ 6,500 รอบ/นาที เช่นเดิม รวมถึงระบบส่งกำลังก็ยังคงเป็นแบบชุดเกียร์ 6 สปีดทำงานร่วมกลไกสลิปเปอร์คลัทช์ เหมือนเดิมเช่นกัน
จากการใช้งานจริงผู้ทดสอบรู้สึกว่าอัตราเร่งของมัน มีความติดมือตั้งแต่รอบต่ำถึงสูงอย่างมีชีวิตชีวาอย่างที่เราคุ้นเคย ซึ่งแม้ว่ามันจะไม่ได้ดีดออกจากหยุดนิ่งแบบปุบปับได้ดีเหมือนกับแฝดร่างเนคเก็ทที่เบากว่าอย่าง CB500F หรือตัวรถโฉมก่อนที่เบากว่าโฉมนี้ 2 กิโลกรัม เท่าไหร่นัก (CB500X 2021 หนัก 197 กิโลกรัม / 2022 หนัก 199 กิโลกรัม) แต่มันก็ยังคงเป็นอัตราเร่งที่ผู้ขี่สามารถเรียกใช้เพื่อเร่งแซงรถคันข้างหน้าตามมือที่บิดขึ้นได้สบายๆแทบทุกย่าน ไปจนถึงช่วงความเร็วสูงสุดตามหน้าจอมาตรวัดราวๆ 180 กิโลเมตร/ชั่วโมง และดูเหมือนจะยังคงไหลต่อไปได้อีกนิด (แต่ความเร็วตาม GPS จะได้ตัวเลขเท่าไหร่ ลองดูกันได้เลยที่คลิปด้านบน)
ด้านตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของเครื่องยนต์ หากอิงตาม Eco Sticker ที่แปะเอาไว้ท้ายรถ ทาง Honda มีการเคลมตัวเลขที่ 32.5 กิโลเมตร/ลิตร และจากการใช้งานจริง หากเป็นการขี่แบบไม่ซัด ใช้ความเร็วเฉลี่ยนในระดับทั่วๆไป บิดไม่เกิน 110 กิโลเมตร/ชั่วโมง ผู้ทดสอบพบว่าเครื่องยนต์ลูกนี้ยังคงโดดเด่นในเรื่องความประหยัดตามตัวเลขที่ระบุไว้เช่นเคย ซึ่งถือว่าน่าประทับใจมากๆเมื่อเทียบกับความจุเครื่องยนต์ที่มากถึง 471cc (เลขอัตราสิ้นเปลืองเช่นนี้รถมอเตอร์ไซค์ 250cc บางรุ่นยังกินกว่าด้วยซ้ำ) แต่ถ้าหากจะบิดกระแทกคันเร่งเพื่อเค้นความเร็วทะลุหลัก 140 – 170 กิโลเมตร/ชั่วโมงบ่อยๆขึ้นมา ก็เตรียมเติมน้ำมันถี่ขึ้นกันสักหน่อยนะครับ
ระบบกันสะเทือน ถือเป็นหนึ่งในจุดไฮไลท์สำคัญของ CB500X 2022 เนื่องจากในคราวนี้ ทาง Honda ได้อัพเกรดให้มันใหม่ จากโช้กตะเกียบคู่หัวตั้ง ที่สามารถปรับพรีโหลดได้ ให้เป็นโช้กอัพตะเกียบคู่หัวกลับ ขนาดแกน 41 มิลลิเมตร ใช้กลไกภายในแบบ Separate Function Fork – Big Piston จาก Showa ซึ่งเป็นกลไกแบบเดียวกันกับที่พวกเขาเคยใช้มาแล้วใน 650-Series, CBR250RR, CBR150R, หรือแม้แต่ CBR600RR กับ CBR1000RR ส่วนโช้กหลังแม้จะเป็นแบบทวินทูป ปรับพรีโหลดได้ 5 ระดับเหมือนเดิม แต่ก็มีการปรับเซ็ทใหม่ และสวิงอาร์มแขนคู่ก็ถูกไล่น้ำหนักให้เบาลงกว่าเดิมถึง 1 กิโลกรัมอีกด้วย จากการลดความหนาของแผ่นเหล็กที่ใช้ขึ้นรูป แต่ก็มีการปรับรูปทรงสวิงอาร์มใหม่เล็กน้อยเพื่อคงความแข็งแรง
จากการปรับปรุงระบบกันสะเทือนดังกล่าว รวมถึงการไล่น้ำหนักส่วนเกินของล้อหน้าด้วยการรีดก้านให้บางลงอีกเล็กน้อย (แต่ล้อหลังยังคงเป็นล้อเดิมกับ CB500X Gen3 เช่นเดียวกันกับชุดยาง) ทำให้นิสัยในการพลิกเลี้ยวของ CB500X รุ่นใหม่นี้ มีความฉับไวน้อยลงกว่าโฉมก่อนหน้า แต่ก็แลกมาซึ่งความนิ่ง และความมั่นคงที่มากกว่าอย่างเห็นได้ชัดแทน ซึ่งนั่นช่วยให้ผู้ขี่สามารถเลี้ยวและเอียงรถเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงๆได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้น และอาการหน้าส่ายที่ใครหลายๆคนเคยบ่นในตัวรถรุ่นก่อน ก็น้อยลงอย่างเห็นได้ชัดเช่นกัน แม้จะเป็นการขี่แบบมีผู้ซ้อน เนื่องจากศูนย์ถ่วงตัวรถได้ถูกส่งมากดที่ล้อหน้ามากขึ้น ติดเพียงนิดเดียวคืออาการท้ายโยกเล็กๆตอนเทโค้งด้วยความเร็วสูงๆยังคงมีอยู่ แม้จะน้อยลงมาบ้างแล้วก็ตาม
ส่วนอีกจุดที่ต้องระบุเพิ่มเติมอีกก็คือ ด้วยการปรับเซ็ทระบบกันสะเทือนใหม่เช่นนี้ รวมถึงการไล่เบาน้ำหนักที่ล้อหน้าให้น้อยลง และสวิงอาร์มหลังก็เบาลง ทำให้ในจังหวะที่ผู้ทดสอบได้ลองนำรถไปลุยผ่านอุปสรรคทางดิน พบว่าอาการของตัวรถทั้งการลื่นไถล การสะบัด หรือการซับแรงสะเทือนนั้นน้อยลงกว่ารุ่นก่อนพอสมควร หรือว่าง่ายๆก็คือรถมีความนิ่งมากขึ้นในตอนที่ขี่บนทางฝุ่น ซึ่งก็เป็นอีกจุดที่ต้องชื่นชมสำหรับการปรับปรุงในจุดนี้
ระบบเบรกเอง ก็เป็นอีกจุดที่น่าสนใจอย่างมากของ CB500X 2022 เนื่องจากในคราวนี้ มันมาพร้อมกับจานเบรกคู่หน้าขนาด 296 มิลลิเมตร แบบ Semi-Floating เพียงรุ่นเดียวของตระกูล แต่ก็แลกกับปั๊มเบรกที่ยังคงเป็นแบบโฟลทติ้งเมาท์ 2 ลูกสูบอยู่ ในขณะที่เพื่อนๆไปใช้ปั๊มเรเดียลเมาท์ 4 ลูกสูบกันแล้ว และแน่นอนว่าตัวปั๊มเบรกบนเองก็เปลี่ยนใหม่ ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น แต่ระบบเบรกด้านหลังยังคงเป็นแบบจานเดี่ยว ขนาด 240 มิลลิเมตร ทำงานร่วมปั๊มโฟลทติ้งเมาท์ 1 ลูกสูบ พร้อมระบบ ABS แบบ Dual Channel เช่นเดิม
และด้วยการปรับปรุงระบบเบรกด้านหน้าขนานใหญ่เช่นนี้ แม้การไล่น้ำหนักเบรกในช่วงต้นจะยังคงทำได้ง่ายเช่นเดิม แต่ความหนักแน่นของแรงเบรกตอนที่กำหนักๆ นั้นดีขึ้น ฉับไวขึ้นกว่าโฉมก่อนมาก ชนิดที่ว่าเพื่อนๆหายห่วงในเรื่องของระยะเบรกไปได้เลย เนื่องจาก อาการไหลเล็กๆตอนปลาย ที่เคยมีอยู่ใน CB500X รุ่นก่อนนั้นหายไปแล้ว และควรไประวังในเรื่องโช้กหน้าที่ยุบลงค่อนข้างเยอะจนอาจจะใจหายวาบไปบ้างในช่วงแรกของการทำความรู้จักตัวรถ
โดยถึงแม้มันจะไม่ได้ใช้ปั๊มเบรกแบบเรเดียลเมาท์เหมือนกับเพื่อนๆ 500-Series ด้วยกัน แต่ส่วนตัวทีมงานมองว่า ปั๊มเบรกแบบโฟลทติ้งเมาท์เช่นนี้ ค่อนข้างจะตอบโจทย์การใช้งานที่ต้องเน้นความสมบุกสมบันเป็นหลักมากกว่า ทั้งในเรื่องของการดูแลรักษา ค่าบำรุงรักษา และน้ำหนักของตัวระบบเบรกเองที่ควรเบาไว้ก่อน เนื่องจากในยามที่ต้องบุกตะลุยทางฝุ่น หากน้ำหนักของชุดล้อมีมาก อาการสะท้านสะเทือนของช่วงล่างก็จะสูงตามไปด้วยนั่นเอง
สรุป รีวิว Honda CB500X 2022 แอดเวนเจอร์ตัวลุยยอดนิยมคันนี้ แม้จะไม่ได้ถูกปรับปรุงใดๆมากเท่าไหร่นักในส่วนเครื่องยนต์ แต่อันที่จริงขุมกำลังเดิมๆของมันก็ถือว่าให้กำลังเหลือเฟือสำหรับการใช้งานอยู่แล้ว และสิ่งที่น่าสนใจของมันจริงๆก็คือการมาพร้อมกับออพชันที่ไม่ได้มีแค่ความหล่อ ทว่ายังทำให้สมรรถนะของตัวรถดีขึ้นมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องความนิ่งของตัวรถในทุกๆจังหวะการควบคุม จะทางตรง ทางโค้ง ทางฝุ่น หรือการเบรก ก็ดีขึ้นกว่ารุ่นพี่อย่างเห็นได้ชัด และด้วยราคาตัวรถที่ยังคงถูกตั้งไว้เท่าเดิมกับโมเดลปี 2021 จึงถือว่านี่คือการปรับสเป็ครถที่คุ้มค่าเป็นอย่างมาก
โดย Honda CB500X 2022 สนนราคาที่ 224,900 บาท มีเฉดสีให้ลูกค้าได้เลือกซื้อทั้งหมด 3 แบบ ได้แก่
– ดำ MAT GUNPOWDER BLACK METALLIC
– ดำ/เขียว PEARL ORGANIC GREEN
– ดำ/แดง GRAND PRIX RED
ซึ่งหากเพื่อนๆคนไหนสนใจ ก็สามารถสอบถามข้อมูลตัวรถที่ศูนย์บริการ Honda Big Bike ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปได้เลยครับ
ขอขอบคุณ บริษัท Thai Honda ในการสนับสนุนตัวรถ Honda CB500X 2022 เพื่อการทดสอบและรีวิวโดยทีมงาน MotoRival ในครั้งนี้
รณกฤต ลิมปิชาติ : Test Rider & Photo
อ่านข่าว Honda เพิ่มเติมได้ที่นี่