เมื่อวานนี้มีประเด็นเรื่องค่าปรับจราจรและใบสั่งจราจรไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยคำสั่งจากศาลปกครอง ล่าสุดวันนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ออกคำสั่งให้ตำรวจทุกพื้นที่ปฏิบัติออกใบสั่งเหมือนเดิม
เนื่องจาก นางสุภา โชติงาม อดีตผู้ตรวจการกรมการขนส่งทางบก ผู้ร้อง ได้ยื่นฟ้อง ผบ.ตร. และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่อง กำหนดแบบใบสั่งเจ้าพนักงานจราจร พ.ศ.2563 ลงวันที่ 20 กรกฎาคม 2563 และประกาศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่อง การกำหนดจำนวนค่าปรับตามที่เปรียบ สำหรับความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522, พ.ศ.2563 ลงวันที่ 20 กรกฎาคม 2563 ที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ใจความเข้าใจง่ายๆ คือ
1.ใบสั่งนั้น ประชาชนไม่มีสิทธิโต้แย้ง เป็นการยังคับให้ต้องจ่ายค่าปรับ ซึ่งขัดต่อกฎหมาย
2. ใบสั่งมีการกำหนดจำนวนเงินค่าปรับไว้ชัดเจน ทั้งๆ ที่ควรใช้ดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ รวมถึงหากไม่จ่ายค่าปรับ จะไม่สามารถต่อ พ.ร.บ.รถได้ มองว่าการกระทำความผิดส่วนบุคคล ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องรถ
ซึ่งคำสั่งของศาลปกครองกลาง พิพากษาให้เพิกถอนประกาศทั้ง 2 ฉบับ โดยให้มีผลย้อนหลังถึงวันที่ออกประกาศ คือ นับตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม 2563
และให้ทุเลาการบังคับตามประกาศทั้ง 2 ฉบับ ไว้จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด
เนื่องจาก ประกาศฯ 2 ฉบับ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ และกฎหมายจราจรทางบก ให้มีการลงโทษผู้กระทำผิดด้วยความเสมอภาค
แต่วันนี้ สตช. ได้ทำหนังสือ ยืนยัน ให้ทุกหน่วยถือปฏิบัติตามเดิม จนกว่าจะมีกฎ ระเบียบ คำสั่ง กำหนดการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น
ซึ่งถ้าเราสรุปเอาตามจริง ศาลพิพากษามีผลย้อนหลัง นั่นอาจจะหมายความว่า ใบสั่งทั้งหมดที่ออกมาแล้ว ตั้งแต่ 20 ก.ค. 63
ถือว่าเป็นโมฆะ คือ ไม่มีผลมาตั้งแต่ต้น ฉะนั้นผู้รับใบสั่งที่จ่ายค่าปรับไปแล้วควรจะต้องได้รับค่าปรับคืนมา ส่วนคนที่ยังไม่ได้ชำระ ก็ควรรอก่อน
แต่ทั้งนี้ทาง ตำรวจจะเตรียมอุทธรณ์ ภายใน 30 วัน ต่อคำพิพากษาศาลปกครองกลาง ซึ่งยืนยันให้ตำรวจออกใบสั่งตามเดิม
ส่วนตัวผมมองว่า ใครยังไม่ได้จ่ายก็ควร รอคำตัดสินสูงสุดออกมาอีกครั้งว่า จะเป็นเช่นไร
ส่วนคนจ่ายแล้วก็ ต้องรอคำตัดสินสูงสุดเช่นกัน แต่คิดว่าน่าจะได้เงินคืนกลับมายาก
เพื่อนๆ คิดเห็นอย่างไรกับข่าวนี้ เป็นคุณ จะชะลอการชำระค่าปรับหรือไม่ หรือ จะชำระตามคำแนะนำ ของสตช.