เรียกได้ว่าเป็นที่นิยมขึ้นเรื่อยๆ สำหรับรถมอเตอร์ไซค์ขนาดใหญ่ในบ้านเรา (BigBike) ยิ่งถ้าเป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่ออกแบบให้มีความโฉบเฉี่ยว ดุดัน และปราดเปรียวเป็นพิเศษแล้วล่ะก็ จะได้รับความนิยมมากขึ้นเป็นเท่าตัว ซึ่งไม่ใช่แค่ในประเทศเราเท่านั้น แม้แต่ชาวไบค์เกอร์ประเทศอื่นๆ ก็ให้ความสนใจในรถที่ดีไซน์ในรูปแบบนี้เช่นกัน
ในปัจจุบันไม่ได้มีเพียงแค่รถในกลุ่ม Sport Full Fairing เท่านั้น แม้กระทั่งกลุ่ม Naked Bike ที่เมื่อก่อนเป็นเพียงแค่รถเปลือยโคมไฟหน้าทรงกลม ตอนนี้ก็ถูกออกแบบให้มีความเป็นสปอร์ตและดุดันมากขึ้น ทั้งในด้านของรูปทรง เครื่องยนต์ และออปชั่นติดรถต่างๆ ตามกระแสความต้องการของคนยุคสมัยใหม่ที่เปลี่ยนไปในทิศทางเดียวกับ Sport Full Fairing ด้วย
และในครั้งนี้ MotoRival เราก็จะขอยกตัวอย่างรถคู่หู Honda 500 Series จากค่ายปีกนก ได้แก่ CBR500R และ CB500F ที่ได้รับการออกแบบใหม่หมดจดจากโมเดลก่อนหน้าให้มีความสปอร์ตยิ่งขึ้นพอสมควร และเมื่อประกอบกับการที่ว่ามันเป็นหนึ่งในบิ๊กไบค์ที่จัดว่าคุ้มค่าเงินที่จ่ายไปอย่างที่เราได้เคยเสนอไปก่อนหน้านี้ เราขอพาเพื่อนๆ มาทำความรู้จักกันอีกครั้งกับ 2 โมเดลนี้ ที่ไม่ได้มีเพียงแค่ความคุ้มค่า แต่มันยังถือเป็น BigBike ที่โดดเด่นในรูปลักษณ์ความสปอร์ต โฉบเฉี่ยว ดุดัน และทันสมัย ไม่แพ้รถ Sport Full Fairing และ Naked Bike คันใด
สิ่งแรกที่เราจะพูดถึงนั้น แน่นอนว่าจะต้องเป็นเรื่องของรูปโฉมภายนอกซึ่ง Honda 500 Series ทั้งสองคันนั้นต่างถูกออกแบบให้เป็น BigBike ที่มีเส้นสายรอบคันเฉียบคม และดุดันตามแบบฉบับของรถสปอร์ตสมัยใหม่
ทางด้านหน้า CBR500R จะเป็นโฉมสปอร์ตฟูลแฟริ่ง สังเกตเห็นได้ว่า ทางส่วนหัวจะถูกเชื่อมต่อกับแฟริ่งด้านข้าง และชุดแฟริ่งข้างนี้จะต่อเนื่องเป็นชิ้นเดียวลงไปจนถึงอกไก่ล่าง ปกคลุมบริเวณคอท่อ ซึ่งการดีไซน์ของรูปลักษณ์ Sport Full Fairing นี้ ช่วยให้มีอากาศพละศาสตร์ที่ดี นับว่าสำคัญอย่างยิ่งกับสไตล์รถแบบ Racing Replica เช่นนี้
ไฟเลี้ยวติดตั้งอยู่ทางแฟริ่งด้านข้าง กระจกมองข้างจะอยู่บนชุดแฟริ่งหน้า มีวินชิลด์หน้าปิดปกคลุม เพื่อช่วยบังลมปะทะลำตัว ขณะที่ชุดโคมไฟหน้าทางค่ายได้จัดแบบ Full LED มาให้แบบโคมไฟคู่แบบเดียวกับซุปเปอร์ไบค์เรือธงของทางค่าย CBR1000RR
ส่วน CB500F จะใช้ไฟหน้าเป็นแบบโคมเดี่ยวมีการดีไซน์ให้มีความแหลมคม และโดดเด่นในทุกมุมมอง โฉบเฉี่ยวแบบรถ Street Fighter พร้อมลุยการจราจรในเมือง ไฟเลี้ยวได้ถูกติดตั้งอยู่บนชุดแฟริ่งโคมไฟหน้า หัวของตัวรถจะแยกกับชุดแฟริ่งด้านข้างอย่างชัดเจน ซึ่งเวลาหักแฮนด์เลี้ยว ชุดไฟหน้าก็จะหันตามแฮนด์ไปด้วย แตกต่างจาก CBR500R ที่เวลาหันเลี้ยวจะหันไปแค่ช่วงแผงคอกับล้อหน้าเท่านั้น
ชุดปีกแฟริ่งด้านข้างมีขนาดเล็กสั้น แยกออกจากตัวถังน้ำมัน และชุดโคมไฟหน้า จึงทำให้ CB500F มีรูปลักษณ์ เปลือยเผยรายละเอียดด้านหน้า และตัวเครื่องยนต์ มอบภาพลักษณ์ Naked Bike แตกต่างจาก CBR500R ที่จะมีชุดสีปกคลุมมิดชิด
อีกจุดที่ถือเป็นสิ่งสำคัญนั่นคือ เรื่องของท่านั่งของทั้ง 2 คัน ที่แตกต่างกันจากสไตล์แฮนด์
CBR500R จะใช้แฮนด์จับโช้กยึดเหนือชุดแผงคอด้านบน องศางอเข้าหาลำตัว ช่วยให้ผู้ขี่ไม่ต้องเอื้อมมือไปไกลจากลำตัวนัก ตำแหน่งแฮนด์จะอยู่ต่ำกว่า CB500F เอื้อต่อการหมอบขี่สายซิ่งแบบรถ Racing Replica
มอบฟีลลิ่งการขับขี่ที่สนุกเร้าใจ หากต้องใช้ความเร็วสูง หรือลงไปขี่ในสนาม
ขณะที่ CB500F จะเป็นแฮนด์บาร์ กางออกสไตล์ Fatbar องศาแฮนด์แบะออก ไม่งุ้มเข้าหาลำตัว รวมไปถึงตำแหน่งแฮนด์จะยกขึ้นจากแผงคอ สูงกว่า CBR500R เอื้อต่อการหักเลี้ยวลัดเลาะในวงแคบ ช่วยให้การขี่ควบคุมรถนั้นง่ายดาย สบายเหมาะแก่การใช้งานทั้งในชีวิตประจำวัน และเดินทางไกล เพียงแต่โฉม F เป็นสไตล์รถเปลือย จะไม่มีวินชิลด์หน้า การขี่ด้วยความเร็ว ลมจะปะทะลำตัวมากกว่า CBR500R
ในด้านของชุดแฟริ่งด้านหลังของทั้งสองคันนั้นเหมือนกันมีการเว้าช่องลมไว้แบบเดียวกับสปอร์ตไบค์ตัวท็อปหลายๆรุ่น ซึ่งจุดนี้จะช่วยให้การไหลเวียนของอากาศด้านหลังตัวรถนั้นมีความเสถียรและไหลลื่นมากยิ่งขึ้นในช่วงความเร็วสูง และที่สำคัญ มันช่วยเสริมบุคลิกให้ดูเท่ ดุดันมากยิ่งขึ้น
แม้กระทั่งชุดโคมไฟท้ายยังเป็นแบบ Full LED รมดำซึ่งช่วยเสริมความเคร่งขรึมของตัวรถอย่างเต็มที่
ท่อไอเสียออกข้าง ทรงกระบอกเหลี่ยมขนาดใหญ่ บางบอกว่าเป็นรถ BigBike สปอร์ตทรงพลัง ในแบบรุ่นพี่รถซุปเปอร์ไบค์ตัวพัน
ถังน้ำมันของทั้งสองรุ่นนั้นก็ได้รับการออกแบบให้มีการเว้ารับหัวเข่า, มีสันนูนด้านบนที่ชัดเจน และยังมีฝาถังน้ำมันแบบบานพับซึ่งสะดวกกว่าการยกติดมือขึ้นมาเป็นไหนๆ ความจุถังน้ำมันก็ให้จุใจถึง 16.7 ลิตร ทำให้เราสามารถสนุกไปกับการขับขี่ Honda 500 Series คู่นี้ได้ระยะทางที่ยาวไกล
สำหรับขุมพลังติดรถนั้นเป็นแบบสองสูบเรียง ขนาดความจุ 471cc สามารถปั่นแรงม้าได้สูงสุด 47.5 แรงม้า และแรงบิด 43 นิวตันเมตร ซึ่งได้มีการยอมรับว่าเป็นเครื่องยนต์ที่ให้อัตราการตอบสนองของคันเร่งที่ดีอยู่แล้ว และเมื่อประกอบกับการปรับปรุงระบบส่งกำลังใหม่ทำให้อัตราเร่งเป็นไปอย่างว่องไวและต่อเนื่องยิ่งขึ้น ขี่สนุก ครอบคลุมทุกรูปแบบการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในเมืองเพื่อเดินทางในชีวิตประจำวัน หรือ การเดินทางไกลเพื่อออกทริปท่องเที่ยว ก็ถือเป็น BigBike ที่ตอบโจทย์และจบได้ในคันเดียว
นอกจากนี้ Honda ยังได้ทำการยัดลูกเล่นช่วยเสริมความเป็นสปอร์ตให้กับตัวรถเข้ามาอีกหลายอย่างด้วยกัน ทั้งมือเบรกปรับระดับได้, โช้กหลังแบบมีกระเดื่องทดแรง Pro-Link สามารถปรับความแข็ง-อ่อนได้ 9 ระดับ
และอีกจุดเด่นสำคัญที่ทำให้เจ้าคู่หู 500 Series โดดเด่นจากคู่แข่งร่วมคลาสด้วยกัน คือ โช้กหน้าสามารถปรับค่าแข็งอ่อนเป็นออปชั่น
พื้นฐานให้ตั้งแต่ออกจากโรงงาน ซึ่งยังไม่มีคันไหนจากค่ายอื่นในช่วงราคานี้ให้ติดรถมาแม้แต่รุ่นเดียว
นอกจากนี้ระบบเบรก แบบจานดิสก์หน้า-หลัง นั้น มีรูปลักษณ์แบบ Wave Disc ซึ่งให้ความสปอร์ตมากยิ่งขึ้นกว่ารถคันอื่นๆ และมาพร้อมระบบป้องกันล้อล็อก ABS ให้มาเป็นพื้นฐาน ช่วยเสริมความปลอดภัยในการหยุดรถอย่างฉุกเฉินได้ดียิ่งขึ้น
ปิดท้ายด้วยระบบกุญแจนิรภัยฝังชิพ ที่มีชื่อย่อว่า H.I.S.S (Honda Ignition Security System) ซึ่งช่วยป้องกันการโจรกรรม หากคุณไปจอดรถที่ใด พวกหัวขโมยที่จะมักใช้กุญแจผี จะไม่สามารถติดเครื่องยนต์รถ Honda 500 Series และขี่ BigBike คันเก่งของคุณหนีไปได้อย่างง่ายๆ แน่นอน
จากข้อมูลเบื้องต้นนั้น เรียกได้ว่า Honda 500 Series ทั้ง CBR500R และ CB500F ใหม่ ถือเป็นรถ BigBike สไตล์ Sport Full Fairing และ Naked Bike ที่ครบเครื่องในราคาที่ไม่แพงจนเกินจับต้อง
ซึ่งผู้ที่กำลังมองหารถ 2 สไตล์ ที่ต้องการความเป็นสปอร์ตนั้นไม่ควรมองข้ามเลยทีเดียว
Honda CBR500R ใหม่ ราคา 215,000 บาท มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ แดง Millennium Red, ส้มดำ Orange Black และดำด้าน Mat Gun Powder Black Metallic
Honda CB500F ใหม่ ราคา 210,000 บาท มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ แดง Millennium Red, ส้ม Candy Energy Orange และดำด้าน Mat Gun Powder Black Metallic เช่นกัน
อ่านข่าว Honda เพิ่มเติมได้ที่นี่
เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ