อย่างที่เพื่อนๆหลายคนคงพอทราบกันบ้างแล้วว่า ทาง Kawasaki ได้มีแผนจะอัพเกรดเจ้า ZX-10R ใหม่สำหรับทำตลาดในปี 2019 ซึ่งเอาจริงๆเราได้มีการเปิดข้อมูลคร่าวๆของมันไปแล้วเมื่อวันก่อน แต่ในวันนี้เราจะพาเพื่อนๆมาเจาะลึกกันอีกครั้งว่ามีสิ่งใดบ้างที่เปลี่ยนไปในซุปเปอร์ไบค์ตัวแรงจากค่ายเขียวกันนี้บ้าง
สำหรับไฮไลท์สำคัญของ Kawasaki ZX-10R รุ่นอัพเดทปี 2019 นั้น เพื่อนๆหลายคนก็คงทราบกันดีอยู่แล้วว่ามันก็คือเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง 1,000cc ที่แต่เดิมก็สามารถทำแรงม้าสูงสุดได้ถึง 200 แรงม้า (PS) จะถูกอัพเกรดให้ทำแรงม้าสูงสุดได้มากขึ้นอีกนิดเป็น 203 แรงม้า (PS) สำหรับ ZX-10R รุ่นธรรมดา และรุ่นย่อย SE ในขณะที่รุ่นจำนวนจำกัด 500 คันทั่วโลกอย่าง ZX-10RR จะมีตัวเลขสูงกว่าเล็กน้อยคือ 204 แรงม้า (PS) แถมยังเพิ่มเรดไลน์ขึ้นอีก 600 รอบ/นาที ซึ่งแรงม้าทั้งหมดที่ว่ามานี้ยังไม่รวมถึงตอนที่ Ram-Air ด้านหน้ารถทำงานอีกด้วย (คาดว่าถ้าหาก Ram-Air ทำงานแล้ว แรงม้าอาจจะพุ่งขึ้นอีกเป็น 214 แรงม้า เลยทีเดียว)
โดยการปรับปรุงที่ว่านี้ไม่ได้ทำง่ายๆแค่ Remap ECU ใหม่ อย่างที่ใครๆเข้าใจ เพราะทาง Kawasaki ใส่ใจในรายละเอียดยิบย่อย ภายในเครื่องยนต์ อาทิ การเสริมชุดกระเดื่องกดวาล์วเข้าไปเพืื่อให้เครื่องยนต์สามารถทำงานได้เสถียรขึ้น, มีย่านแรงบิดกว้างขึ้น, และมีลดแรงเสียดทานที่เกิดขึ้นจากแคมชาฟท์ ซึ่งเจ้าแคมชาฟท์ใหม่ที่ว่านี้ก็เป็นแบบ แคมองศาสูง สำหรับเพิ่มอัตราการยกตัวของวาล์วไอดี-ไอเสียให้สามารถดูดไอดีเข้ามาเผาไหม้ และระบายไอเสียได้ดียิ่งขึ้น
ยังไม่หมดแค่นั้น สำหรับรุ่น RR จะมีการเปลี่ยนก้านลูกสูบใหม่ โดยหันไปใช้ก้านไทเทเนียมของ Pankl ที่เบากว่าก้านอลูมิเนียมของเดิมถึง 102 กรัม เท่ากับว่าช่วยเซฟน้ำหนักเครื่องยนต์ไปได้ถึงเกือบครึ่งกิโลเลยทีเดียว และนอกจากน้ำหนักจะเบาลงแล้ว อัตราเร่งกับอัตราตอบสนองต่อคันเร่งยังดีขึ้นด้วย เพราะแรงเฉื่อยที่เกิดระหว่างเครื่องยนต์หมุนอยู่นั้นลดน้อยลงนั่นเอง
เกี่ยวกับระบบซอฟท์แวร์อื่นๆของตัวรถ ทาง Kawasaki ก็ได้ทำการอัพเดทโปรแกรมใหม่ให้สามารถทำงานได้อย่างชาญฉลาดมากขึ้นในทุกรุ่นย่อย ขณะที่ในรุ่นเล็กสุดอย่าง ZX-10R ก็ได้รับการติดตั้งชุดควิกชิฟท์เตอร์แบบ 2-Way (ขึ้น/ลง) กับเขาซักที ส่วนรุ่นโช้กไฟฟ้าอย่าง ZX-10R SE เองก็ได้รับชุดแฟริ่งที่ถูกฉาบด้วยสีพิเศษที่สามารถซ่อมแซมตัวเองจากรอบขีดข่วนเล็กๆได้ ซึ่งทางค่ายเรียกเทคโนโลยีนี้ว่า “Self-Healing” แบบเดียวกับ Ninja H2 รุ่นปี 2019 ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้
ด้านข้อมูลในเรื่องราคาค่าตัว เรายังคงต้องรอให้ทาง Kawasaki ประเทศญี่ปุ่นเปิดตัวเจ้า 2019 ZX-10R / RR / SE อย่างเป็นทางการเสียก่อน ถึงจะมีข้อมูลตรงนี้ออกมา ส่วนบ้านเราเองก็คาดว่าคงใช้เวลาถัดจากนั้นไม่นานนัก เพราะอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ก็จะมีงานมหกรรมยานยนต์ Motor Expo 2018 ที่จะจัดขึ้นในช่วงเดือน พฤศจิกายน นี้แล้ว ดังนั้นหากเพื่อนๆคนไหนสนใจ ก็กำเงินรอได้เลยครับ ปลายปีนี้เราได้เจอกันแน่นอน
อ่านข่าว Kawasaki เพิ่มเติมได้ที่นี่
เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ