Harley-Davidson™ ผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์ชั้นนำระดับโลกสัญชาติอเมริกันซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 115 ปี จัดแสดงนวัตกรรมมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเจเนอเรชั่นแรกของแบรนด์ภายใต้ชื่อ “ไลฟ์ไวร์ (LiveWire™)” ภายในงาน Consumer Electronics Show เมืองลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา พร้อมเปิดเผยรายละเอียดฟังก์ชั่นการทำงาน ประสิทธิภาพการเชื่อมต่อ และเทคโนโลยีขั้นสูงของตัวรถ และราคา โดยเชื่อมั่นว่า ไลฟ์ไวร์จะเป็นมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่นแรกของฮาร์ลีย์-เดวิดสัน™ ที่มอบประสบการณ์การเดินทางที่ผสานประสาทสัมผัสของนักขี่ให้เป็นหนึ่งเดียวกับมอเตอร์ไซค์อย่างแท้จริง โดยบริษัทกำหนดวันวางจำหน่ายและส่งมอบรถแก่ลูกค้าภายในปีนี้
มอเตอร์ไซค์รุ่นไลฟ์ไวร์แสดงให้เห็นถึงอนาคตของแบรนด์ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน™ ในการนำเสนอการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง ภายใต้ดีไซน์คลาสสิก และการเชื่อมต่อออนไลน์กับผู้ขับขี่ในปัจจุบัน ไลฟ์ไวร์คือมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่นแรกที่มอบประสบการณ์การเดินทางแบบสองล้อรูปแบบใหม่ ด้วยอัตราเร่งที่แรงเร้าใจ การควบคุมที่ฉับไวคล่องตัว โดดเด่นด้วยวัสดุและการเคลือบสีระดับพรีเมียมในทุกชิ้นส่วน มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกในการขับขี่ด้วยระบบไฟฟ้าเต็มอัตราและอินเตอร์เฟซเพื่อมอบประสบการณ์การเชื่อมต่ออันไร้ที่ติ
“เรากำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อบนหน้าประวัติศาสตร์แห่งวิวัฒนาการการเดินทาง และฮาร์ลีย์-เดวิดสัน™ ก็อยู่แนวหน้าของเรื่องนี้” มร. แมตต์ ลาวาทิช ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน™ กล่าว “นวัตกรรมที่ขับเคลื่อนทั้งร่างกายและจิตวิญญาณถือเป็นหัวใจสำคัญของแบรนด์ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน™ มาโดยตลอด และการเดินทางบทใหม่ในหน้าประวัติศาสตร์ของเราครั้งนี้ ก็คือการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และโอกาส ทั้งเพื่อนักขี่มอเตอร์ไซค์ในปัจจุบันและนักขี่หน้าใหม่ในทุกระดับอายุและทุกวิถีชีวิต”
ประสบการณ์การเดินทางรูปแบบใหม่อันเปี่ยมด้วยพลังในแบบฉบับฮาร์ลีย์-เดวิดสัน™
ไลฟ์ไวร์คือการผสมผสานที่สมบูรณ์แบบของขุมพลัง ประสิทธิภาพ และเทคโนโลยีการขับขี่ ที่เปิดกว้างสำหรับนักขี่มอเตอร์ไซค์หน้าใหม่ และมอบความเร้าใจสุดพลังแก่นักขี่ตัวจริง ด้วยการนำเสนอฟีเจอร์สุดล้ำมากมาย ได้แก่
1. อัตราเร่งแรงเร้าใจ : ไลฟ์ไวร์สามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 60 ไมล์ต่อชั่วโมงในเวลาเพียง 3.5 วินาที ด้วยระบบส่งกำลังไฟฟ้า H-D Revelation™ จึงมอบแรงบิดได้เต็ม 100% ในทันทีที่บิดคันเร่ง และคงแรงบิดแบบเต็มร้อยได้ทุกเวลาที่ต้องการ
2. ขับขี่ง่ายสไตล์ Twist-and-go : เนื่องจากระบบไฟฟ้าไม่ต้องใช้คลัทช์และการเปลี่ยนเกียร์ ทำให้ไลฟ์ไวร์เป็นมอเตอร์ไซค์ที่ง่ายต่อการขับขี่สำหรับมือใหม่ มาพร้อมระบบชาร์จอัตโนมัติเมื่อผู้ขับเบรกเพื่อสร้างพลังงานสำหรับนำกลับมาใช้ใหม่ โดยจะประจุไฟเข้าสู่แบตเตอรี่ จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการขับขี่ในเขตเมืองใหญ่ที่ต้องหยุดรถและออกตัวบ่อยครั้ง
3. เชื่อมต่อด้วย H-D™ Connect : ไลฟ์ไวร์ติดตั้งระบบ H-D™ Connect ซึ่งเชื่อมต่อนักขี่เข้ากับมอเตอร์ไซค์ผ่านหน่วยควบคุมเทเลแมติกส์บนคลื่นความถี่แอลทีอี (LTE-enabled Telematics Control Unit) พร้อมการเชื่อมต่อและบริการคลาวด์ด้วยแอปพลิเคชั่นเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดของฮาร์ลีย์-เดวิดสัน™ ด้วยระบบ H-D™ Connect นี้ ข้อมูลการขับขี่จะถูกเก็บรวบรวมและส่งต่อไปยังแอปพลิเคชั่น เพื่อนำเสนอชุดข้อมูลในสมาร์ทโฟน ซึ่งครอบคลุมข้อมูลด้านต่าง ๆ ได้แก่
3.1 สถานะของมอเตอร์ไซค์ : ระบบ H-D™ Connect จะบอกสถานะแบตเตอรี่และระยะทางที่เดินทางไปถึงได้จากที่ตำแหน่งตั้งหากมีสัญญาณโทรศัพท์เข้าถึง ซึ่งช่วยให้นักขี่สามารถตรวจสอบสถานะการชาร์จไฟ ทั้งระดับการชาร์จและเวลาสำหรับการชาร์จเต็ม นักขี่ยังสามารถค้นหาสถานีจุดชาร์จไฟจากฟังก์ชั่นการค้นหา ซึ่งติดตั้งมาให้พร้อมใช้งานในแอปพลิเคชั่น H-D App
3.2 สัญญาณเตือนการรบกวนและแจ้งตำแหน่งยานพาหนะ : ระบบ H-D™ Connect จะระบุตำแหน่งที่จอดของไลฟ์ไวร์และสามารถส่งสัญญาณเตือนมายังสมาร์ทโฟนหากตัวรถถูกรบกวนหรือถูกเคลื่อนย้าย ทั้งยังมีฟังก์ชั่นติดตามการโจรกรรมผ่านเครือข่ายดาวเทียมจีพีเอส เพื่อมอบความอุ่นใจให้สามารถติดตามตำแหน่งของมอเตอร์ไซค์ได้ตลอดเวลา (ฟังก์ชั่นนี้ใช้ได้เฉพาะบางประเทศที่มีกฎหมายรองรับ)
3.3 ระบบเตือนความจำและการแจ้งเตือน : แอปพลิเคชั่นมีบริการแจ้งเตือนการเข้ารับบริการที่ใกล้จะมาถึง รวมถึงการแจ้งเตือนกำหนดการบำรุงรักษาอื่น ๆ นอกจากนี้ ยังมีการเตือนความจำเกี่ยวกับตารางการรับบริการแบบอัตโนมัติ
ประสิทธิภาพและระยะทางการขับขี่ที่ปรับปรุงขึ้นเพื่อการเดินทางในเมือง: ด้วยการชาร์จไฟเพียงหนึ่งครั้ง ไลฟ์ไวร์สามารถขับขี่เป็นระยะทางไกลถึง 110 ไมล์บนถนนทางเรียบ
4. ประสิทธิภาพการควบคุมและการบังคับ : แชสซีของไลฟ์ไวร์ได้รับการออกแบบให้สามารถควบคุมได้อย่างคล่องตัว ทั้งเพื่อสร้างความมั่นใจของการเดินทางในเขตเมือง และมอบความเร้าใจในการเดินทางบนเส้นทางที่คดเคี้ยว ระบบส่งกำลังไฟฟ้า H-D Revelation™ ติดตั้งในส่วนล่างของตัวรถเพื่อลดระดับจุดศูนย์ถ่วงให้ต่ำลงและช่วยให้สามารถควบคุมการทรงตัวได้ดีขึ้นในทุกระดับความเร็ว ทั้งยังทำให้ควบคุมตัวรถได้ง่ายขึ้นในขณะหยุดรถ นอกจากนี้ ยังติดตั้งเทคโนโลยีระดับพรีเมี่ยม ทั้ง Electronic Chassis Control ซึ่งกำหนดเป็นค่ามาตรฐาน รวมถึงระบบเบรกป้องกันล้อล็อกขณะเข้าโค้ง (Cornering-enhanced Anti-lock Braking System) และระบบป้องกันการลื่นไถล (Traction Control) โดยระบบต่าง ๆ ควบคุมด้วยไฟฟ้าและเครื่องวัดแรงเฉื่อยรุ่นใหม่ล่าสุด รวมถึงเทคโนโลยีเซ็นเซอร์ป้องกันการเบรกจนล้อล็อกตาย (ABS) ที่ทันสมัย
5. เสียงเครื่องยนต์แบบฉบับฮาร์ลีย์-เดวิดสัน™ และการสั่นระะดับต่ำสุด : ด้วยระบบส่งกำลังไฟฟ้า H-D Revelation™ ของไลฟ์ไวร์ ทำให้เกิดการสั่น ความร้อน และเสียงรบกวนในระดับต่ำสุด เพื่อมอบความรู้สึกสบายในการขับขี่ ทั้งยังถูกออกแบบให้มีเสียงเครื่องยนต์อันเป็นเอกลักษณ์ตามแบบฉบับของมอเตอร์ไซค์ ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน™ ทั้งในขณะเร่งเครื่องและรักษาระดับความเร็ว โดยรูปแบบเสียงแห่งอนาคตนี้แสดงถึงระบบไฟฟ้าที่ทำงานได้อย่างราบรื่นของไลฟ์ไวร์อย่างชัดเจน
จากโครงการไลฟ์ไวร์สู่การสร้างสรรค์มอเตอร์ไซค์ไลฟ์ไวร์ที่เป็นรูปธรรม
วิสัยทัศน์เบื้องหลังการสร้างสรรค์มอเตอร์ไซค์รุ่นไลฟ์ไวร์เริ่มต้นจากโครงการไลฟ์ไวร์ (Project LiveWire) ซึ่งมีการผลิตรถต้นแบบเมื่อปี ค.ศ. 2014 ตลอดระยะเวลาการสร้างรถตัวอย่าง โครงการไลฟ์ไวร์ได้มอบโอกาสให้ลูกค้าสามารถส่งความคิดเห็นถึงสิ่งที่พวกเขาต้องการจากมอเตอร์ไซค์ระบบไฟฟ้าของฮาร์ลีย์-เดวิดสัน™ และร่วมกำหนดทิศทางการพัฒนามอเตอร์ไซค์รุ่นนี้เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าบริษัทเป็นสำคัญ ซึ่งบริษัทได้รับผลตอบรับอย่างดีเยี่ยม ทำให้การผลิตมอเตอร์ไซค์ไลฟ์ไวร์มีการผนวกรวมองค์ความรู้ทั้งจากการพัฒนาต้นแบบ ความคิดเห็นจากลูกค้าที่ทดลองใช้รถตัวอย่าง ความก้าวหน้าด้านการออกแบบของฮาร์ลีย์-เดวิดสัน™ และเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นใหม่ล่าสุด
ดูข้อมูลเกี่ยวกับมอเตอร์ไซค์รุ่นฮาร์ลีย์-เดวิดสัน™ ไลฟ์ไวร์ รวมถึงรุ่นอื่น ๆ ได้ที่เว็บไซต์ Harley-Davidson.com/Electric
และติดตามข่าวสารได้ที่ช่องทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ หรือ อินสตาแกรม
อ่านข่าวสาร รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่านข่าวสาร Harley-Davidson เพิ่มเติมได้ที่นี่
เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ