S1000R 2021 ได้ฤกษ์เผยโฉมอย่างเป็นทางการเรียบร้อยในคืนที่ผ่านมา หลังจากที่เป็นข่าวมานานตั้งแต่ปลายปีก่อน ซึ่งในการปรับโฉมครั้งนี้ถือว่าเป็นการปรับโฉมครั้งใหญ่ที่สามารถเรียกได้อย่างเต็มปากว่า “All-New”
6 ปี หลังจากดองรูปโฉมเดิมมานาน ในที่สุด S1000R 2021 ก็ถูกปรับหน้าตาใหม่ให้แตกต่างจากเดิมแบบทั้งคัน โดยในคราวนี้มันก็จะมาพร้อมกับภาพลักษณ์ที่ดูแน่นหนา และบึกบึนมากขึ้น ไม่เพียงเท่านั้นยังอำลาชุดโคมไฟหน้าแบบตาเหล่ทิ้งไป แล้วติดตั้งชุดไฟหน้าแบบโคมเดี่ยวแยก 3 ชั้นบน-กลาง-ล่าง เข้ามาแทน ซึ่งอันที่จริงเส้นสายนี้เชื่อว่าเพื่อนๆหลายคนก็เคยเห็นมาแล้วกับตัวรถ F900R
แน่นอน ด้วยความที่มันถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานของ BMW S1000RR โฉมล่าสุด ดังนั้นมันจึงมาพร้อมกับเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง ความจุ 999cc บล็อคใหม่ เบากว่าเดิม 5 กิโลกรัมเช่นกัน แต่ถูกถอดระบบวาล์วแปรผัน ShiftCam ออกไป ไม่เพียงเท่านั้นยังถูกปรับทอนแรงม้าลงเหลือ 162.3 แรงม้า ที่ 11,000 รอบ/นาที (ซึ่งอันที่จริงก็เท่ากับ S1000R โฉมก่อน) และปรับจูนแรงบิดใหม่ให้พร้อมใช้งานแตะหลัก 80 นิวตันเมตร ตั้งแต่ 3,000 รอบ/นาทีขึ้นไป รวมถึงแตะหลัก 90 นิวตันเมตร ตั้งแต่ 5,500 รอบ/นาที จนถึง 12,000 รอบ/นาที โดยแรงบิดสูงสุดจริงๆก็อยู่ที่ 114 นิวตันเมตร ที่ 9,250 รอบ/นาที
ด้านน้ำหนักโดยรวมของรถ จะถูกลดลงไปจากเดิม 6.5 กิโลกรัมจนเหลือ 199 กิโลกรัม (ในรุ่นล่างสุด) เป็นผลมาจาก ชุดเฟรมแบบ Flex Frame แบบใหม่ที่นอกจากจะบางลงแล้วยังออกแบบให้มีจุศูนย์ถ่วงต่ำลง ขณะที่แฮนด์บาร์มีการออกแบบให้กว้างและเตี้ยกว่าเดิม เพื่อท่านั่งที่ดุดันขึ้น, ส่วนชุดเบรกกับระบบกันสะเทือนถือว่ายกมาจาก S1000RR รุ่นล่าสุดทั้งหมด ไม่เว้นแม้แต่ระบบ Dynamic Damping Control (ในรุ่นท็อป) หรือระบบปรับความหนืดด้วยไฟฟ้ากึ่งอัตโนมัติ
รวมถึงชุดหน้าจอแสดงผล TFT ขนาด 6.5 นิ้ว, Riding Mode 3 รูปแบบ (Rain, Road, Dynamic), DynamicTraction Control, Wheelie Control, ABS Pro, Hillstart Control, Shift Assistant Pro ต่างก็ถูกปรับปรุงและใส่มาให้ใน 2021 BMW S1000R คันนี้ทั้งหมด
ด้านราคาของ 2021 BMW S1000R ก็จะสนนตัวเลขไว้ที่ 12,055 ปอนด์ (ราวๆ 485,000 บาท)ในรุ่นเริ่มต้น และปรับขึ้นเป็น 14,000 ปอนด์ (ราวๆ 563,000 บาท) ในรุ่น S1000R Sport ที่จะมาพร้อมระบบอิเล็กทรอนิกส์จัดเต็มกว่า เช่น ชุดระบบกันสะเทือนไฟฟ้า ส่วนกำหนดการเปิดตัวและวางจำหน่ายในประเทศไทยคาดว่าจะเกิดขึ้นอย่างเร็วที่สุดในช่วงกลางปีหน้า
อ่านข่าวสาร BMW เพิ่มเติมได้ที่นี่