อย่างที่เพื่อนๆหลายคนทราบกันว่าในตอนนี้ ทางภาครัฐได้มีมติที่จะผ่อนปรนการล็อกดาวน์พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 29 จังหวัด จากการระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ลงแล้ว ในวันที่ 1 กันยายน จากการประกาศเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม ที่ผ่านมา ดังนั้นเราจึงขอพาเพื่อนๆมาดูกันสักหน่อยดีกว่าครับว่าสำหรับพวกเราที่อยากจะเดินทางเพื่อออกไปพักผ่อนหย่อนใจในต่างจังหวัดนั้น ต้องเจอกับเงื่อนไขในการเดินทางอย่างไรบ้าง ? หรือเราสามารถทำอะไรได้บ้างหลังมีการบังคับใช้มาตรการในครั้งนี้
เบื้องต้นการเคอร์ฟิว ช่วงเวลา 21.00 – 04.00 น. ยังคงมีอยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 29 จังหวัด
1. การเดินทางข้ามจังหวัดทำได้แต่..
– ขอความร่วมมือหลีกเลี่ยงการเดินทาง หรือเดินทางเมื่อมีเหตุจำเป็นเท่านั้น
– สื่อสารให้ผู้ที่มีประวัติเสี่ยงต่อการติดเชื้อ หรือผู้ติดเชื้อให้เดินทางตามโครงการรับคนกลับบ้าน/รับผู้ป่วยกลับภูมิลำเนา เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อระหว่างและหลังการเดินทาง
– ระบบขนส่งสาธารณะจำกัดจำนวนผู้โดยสาร ไม่เกิน 75 % สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาห้ามรับประทานอาหาร
– มาตรการสำหรับรถโดยสาร หรือรถตู้ ระยะทางไกลควรแวะพักทุก 2- 3 ชั่วโมง เพื่อระบายอากาศ
– การเดินทางไปทำงานของแรงงาน ให้ใช้ระบบ seal route ตามมาตรการ Bubble and Seal
– การกำกับติดตามมาตรการโดย ผู้ประกอบการ กระทรวงคมนาคม และ สำนักงานการบินพลเรือน
2. การเปิดบริการร้านอาหาร
– ร้านอาหาร มีเครื่องปรับอากาศ นั่งในร้านได้ 50%, ไม่มีเครื่องปรับอากาศ ให้นั่งกินในร้านได้ 75% เปิดได้ไม่เกิน 20.00 น.
– ยังคงงดการจำหน่ายและดื่มสุราในร้าน
– ร้านอาหารในห้าง ใช้มาตรการเดียวกับ ร้านอาหารมีเครื่องปรับอากาศ
3. ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ เปิดได้ถึงเวลา 20.00 น.
– เปิดห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ได้ไม่เกิน 20.00 น. ทุกแผนก “ยกเว้นบางกิจการ” นั่นคือ
กิจการที่เปิดได้แบบมีเงื่อนไข
– ร้านเสริมสวย ร้านตัดผมหรือแต่ผม เปิดได้เฉพาะตัดผมเท่านั้น ไม่เกิน 1 ชั่วโมง
– ร้านนวดเปิดได้เฉพาะนวดเท้า
– คลินิกเสริมความงาม เปิดจำหน่ายสินค้าเท่านั้น
กิจการในห้างที่ยังเปิดไม่ได้
– สถาบันกวดวิชา
– โรงภาพยนตร์
– สวนสนุก สวนน้ำ
– ฟิตเนส ห้องออกกำลังกาย สระว่ายน้ำ
– สปา
– ห้องจัดประชุม จัดเลี้ยง
ใช้อาคารของสถานศึกษาได้ โดยต้องผ่านความเห็นชอบ
สนามกีฬา, สวนสาธารณะ
– เปิดได้ทั้งที่เป็นที่โล่งแจ้งหรือในร่มที่เป็นที่โล่ง
– เปิดสนามกีฬาฝึกซ้อมสำหรับทีมชาติไทยได้ทุกประเภทแบบไม่มีผู้เช้าชม
– เปิดได้ถึงเวลา 20.00 น. เช่นเดียว ห้าง และร้านอาหาร
เพิ่มเติม* สำหรับการเดินทางไปยังพื้นที่จังหวัดสีแดงเข้ม 29 จังหวัด ยังมีเงื่อนไขในการเดินทางที่แตกต่างกันไปดังนี้ด้วย
1. พิษณุโลกและชุมพร ดาวโหลดแอปฯ ติดตามตัว, กักตัวปลายทาง 14 วันทุกกรณี
2. ภูเก็ตและกระบี่ ดาวโหลดแอปฯ ติดตามตัว และแสดงใบรับรองผลตรวจโควิด 19 ในรูปแบบของ RT-PCR หรือ ATK ที่ตรวจคัดกรองโดยแพทย์เท่านั้น และใบรับรองการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม หรือเคยติดเชื้อไม่เกิน 90 วัน
3. หัวหินและตรัง ดาวน์โหลดแอปฯ ติดตามตัว และแสดงใบรับรองการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม หรือเคยติดเชื้อไม่เกิน 90 วัน
4. แพร่ น่าน สกลนคร อุดรธานี เชียงใหม่ และบุรีรัมย์ ดาวน์โหลดแอปฯ ติดตามตัว แสดงใบรับรองฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม และอาจจะมีการถูกตรวจการติดเชื้อที่ปลายทาง
5. ขอนแก่น อุบลราชธานี และลำปาง ดาวน์โหลดแอปฯ ติดตามตัว แสดงใบรับรองฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม และ แสดงใบรับรองการปลอดเชื้อโควิด-19 จากการตรวจแบบ RT-PCR
6. เชียงราย หาดใหญ่ นครพนม และนครศรีธรรมราช ดาวน์โหลดแอปฯ ติดตามตัว แสดงใบรับรองฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม และแสดงใบรับรองการปลอดเชื้อโควิด 19 ในรูปแบบของ RT-PCR หรือ ATK ที่ตรวจคัดกรองโดยแพทย์เท่านั้น
7. ระนอง ดาวน์โหลดแอปฯ ติดตามตัว แสดงใบรับรองฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม และแสดงใบรับรองการปลอดเชื้อโควิด 19 ในรูปแบบของ RT-PCR หรือ ATK ที่ตรวจคัดกรองโดยแพทย์เท่านั้น
8. สุราษฎร์ธานี ดาวน์โหลดแอปฯ ติดตามตัว
9. กรุงเทพ (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ) เลย นราธิวาส และสนามบินอู่ตะเภา ไม่มีมาตรการคัดกรอง
ขอบคุณข้อมูลจาก Workpoint