เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา เราได้นำเสนอข่าว เรื่องรองนายกฯ ชี้ใช้รถวันคู่วันคี่ ไม่สามารถปฏิบัติจริงได้ไปแล้ว ล่าสุด สนข. จ่อเสนอมาตรการคุมรถส่วนตัว ดังกล่าวอีก เมื่อลดปริมาณรถหนาแน่นใน กทม. ระยะยาว แถมเพิ่มไอเดียจัดเก็บเงินรถเข้าเมือง
เมื่อวานนี้ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เผยถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาจราจรในกรุงเทพฯ เพื่อแก้ปัญหารถติดในกรุงเทพฯ ซึ่งจะเกิดขึ้นเฉพาะช่วงเร่งด่วนเช้า-เย็นเท่านั้น สนข. จึงได้วางกรอบ 3 ระยะ ดังนี้
1. ระยะสั้นทำได้ทันที เช่น เข้มงวดให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเคารพกฎจราจรมากขึ้น ห้ามจอดรถบนถนน ห้ามฝ่าฝืนสัญญาณจราจร เพราะหากประชาชนมีวินัยจะช่วยแก้ปัญหารถติดได้ถึงครึ่ง และตำรวจต้องทำกฎหมายให้ศักดิ์สิทธิ์ หรือเพิ่มโทษให้หนักขึ้น เช่น การยึดหรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ในกรณีทำผิดในข้อหาหนัก เพิ่มเติมจากการเสียค่าปรับตามปกติ
2. ระยะกลาง 1-2 ปี เช่น มาตรการจัดการจราจรบนถนนสายหลักตามปริมาณรถ เช่น จัดเลนรถสวน ซึ่ง สนข. จะพิจารณารายละเอียดของถนนที่ต้องปรับการจราจรใหม่ ขณะนี้ดำเนินการบางเส้นทางเท่านั้น โดยต้องปรับการจราจรทั้งระบบและต้องหารือตำรวจจราจรถึงความเหมาะสม ต้องติดสัญญาณไฟและป้ายสัญญาณต่าง ๆ เพื่อความปลอดภัย รวมถึงการเพิ่มช่องบัสเลน (ช่องรถเมล์) บนถนนสายหลักให้มากขึ้น เพื่อให้รถเมล์ไปได้เร็ว หากรถส่วนตัวเข้าใช้ช่องบัสเลนต้องถูกจับปรับ
3. ระยะยาว 5-6 ปี โดยจะรอให้รถไฟฟ้าตามแผนแม่บท 10 สายแล้วเสร็จในปี 2565 ทำให้ประชาชนมีทางเลือกในการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า ส่วนมาตรการควบคุมปริมาณรถส่วนตัวนั้นอยู่ระหว่างศึกษารูปแบบซึ่งกำหนดไว้ 2 วิธี คือ
3.1 การกำหนดโซนนิ่งเก็บเงินรถเข้าเมือง ในถนนที่มีปริมาณการจราจรหนาแน่น หากจะเข้าต้องเสียเงินในอัตราสูง มีด่านเก็บเงินคล้าย ๆ กับการขึ้นทางด่วน
3.2 การกำหนดวันใช้รถด้วยเลขทะเบียนรถวันคู่หรือวันคี่ หากตรงกับวันคี่ให้รถยนต์ที่มีเลขทะเบียนวันคี่ใช้ รถเลขคู่ห้ามใช้ ส่วนวันคู่ เลขทะเบียนวันคู่ใช้ได้ ทำให้รถแต่ละคันสามารถใช้บนท้องถนนได้เพียงเดือนละ 15 วัน ช่วยให้รถหายไปจากท้องถนนถึง 50% พร้อมหาแนวทางลดผลกระทบหรือผ่อนปรนกับประชาชนบางกลุ่มที่จำเป็นต้องใช้รถส่วนตัว อาทิ ผู้ป่วยที่ต้องไปพบแพทย์ รวมทั้งผู้สูงอายุหรือกลุ่มคนพิการ ควบคู่กับการพิจารณามาตรการอื่น ๆ
เอาล่ะเพื่อนๆ มีความเห็นอย่างไรกันบ้างกับ มาตรการคุมการใช้รถส่วนตัวนี้ Comment ด้านล่างให้เรารับรู้กันได้เลย
ขอบคุณที่มา TNN 24
เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ