คณะอนุกรรมการกลั่นกรองด้านการกีฬา สั่งทบทวนโครงการ 2018 MotoGP ในประเทศไทย เหตุใช้งบประมาณมหาศาล แผนยังไม่ชัด ตีกลับให้ บอร์ด กกท.รับรองอีกครั้ง ศ.อรรถ นานา เผยอาจจะเป็นการส่งสัญญาณที่ผิดไปยังประชาชน เพราะไทยเป็นประเทศที่มีอุบัติเหตุในการใช้จักรยานยนต์มากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ด้าน “บิ๊กเสือ” สกล วรรณพงษ์ ผู้ว่า กกท.ยังมั่นใจได้ไฟเขียวจากบอร์ด กกท. ระบุหากไม่ทันเซ็นสัญญาภายในเดือน เม.ย. ชวดจัดปีหน้าแน่ ต้องเลื่อนจัดไปเป็น ค.ศ.2019 หรือ ค.ศ.2020
ทาง กกท. ได้มีการประชุม เรื่องการพิจารณางบประมาณค่าลิขสิทธิ์การจัดการแข่งขันมอเตอร์ไซค์ทางเรียบชิงแชมป์โลก MotoGP จำนวน 100 ล้านบาท โดยการจัดการแข่งขัน MotoGP จะใช้งบประมาณราว 374 ล้านบาทต่อปี สัญญา 3 ปี ซึ่งจากการเจรจาล่าสุดหากลงตัวไทยจะได้จัดการแข่งขันในช่วง เดือน มี.ค. ปี ค.ศ.2018 ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต หากได้รับการอนุมัติงบประมาณ ดังกล่าวจะสามารถเซ็นสัญญากับทาง “Dorna” ผู้ถือลิขสิทธิ์ MotoGP ภายใน เม.ย.นี้ และสามารถเตรียมการจัดการแข่งขันได้ทันทีในปี 2018
อย่างไรก็ตาม นางสุปราณี คุปตาสา คณะกรรมการได้ตั้งข้อสังเกตเรื่องของการใช้งบประมาณดังกล่าว โดยต้องการให้มีแนวทางในการของบประมาณเพื่อการจัดกีฬาอาชีพที่เป็นแบบแผนตามระเบียบมากกว่านี้ เนื่องจากจากต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก และเสนอให้นำเรื่องนี้ขอความชัดเจนจากคณะกรรมการบริหารการกีฬาแห่งประเทศไทย (บอร์ด กกท.) ซึ่งมี นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธาน รับรองอีกครั้ง ก่อนจะกลับมาที่คณะอนุกรรมการ และเข้าสู่บอร์ดกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติต่อไป
ด้าน ศ.อรรถ นานา มีความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า การจัดการแข่งขันโมโตจีพี อาจจะเป็นการส่งสัญญาณที่ผิดไปยังประชาชน เพราะไทยเป็นประเทศที่มีอุบัติเหตุในการใช้จักรยานยนต์มากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก และการนำเสนอข้อมูลเป็นการมองแต่ในแง่ดีเท่านั้น ควรศึกษาข้อมูลด้านอื่นๆ ให้รอบด้าน
“บิ๊กเสือ” นายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการ กกท. กล่าวว่า กรณีที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่ายังไม่มีผู้รับจัดการแข่งขันนั้น อยากให้มองว่าตอนนี้จำเป็นต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ก่อน จึงจะสามารถดำเนินการได้ แต่เพื่อความรอบคอบตามที่คณะอนุกรรมการตั้งข้อสังเกต จึงจะนำเรื่องนี้กลับไปยังบอร์ดกกท.อีกครั้ง ส่วนตัวมั่นใจว่าจะไม่มีปัญหา และจะสามารถดำเนินการได้ทันก่อนการเซ็นสัญญา เม.ย.นี้ แต่หากไม่ทันก็คงต้องรอไปอีกปี ค.ศ.2019 หรือ ค.ศ.2020
อ่านข่าวสาร MotoGP เพิ่มเติมที่ได้ที่นี่
เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ