หลังจากที่ Valentino Rossi ได้ออกโรงให้สัมภาษณ์ในงานแถลงข่าว 2017 CatalanGP แบบหมดเปลือกถึงการมาแข่งขัน 2018 MotoGP ในประเทศไทย ว่าเจ้าตัวไม่แฮปปี้นัก ด้วยเหตุผลเกี่ยวกับสนามช้างฯ
แต่ทางฝั่ง Maverick Vinales และ Marc Marquez กลับอยากมาประเทศไทย ทำไมเพราะอะไร? ทาง MotoRival เราจะขอวิเคราะห์มุมมองดังกล่าวกันครับ
ตัวผู้เขียนเอง ถือเป็นนักข่าวคนหนึ่งที่ได้มีโอกาสไปทำข่าว Valentino Rossi มาประเทศไทยถึง 2 ปีซ้อนด้วยกัน ตั้งแต่งานเปิดตัว YZF-R3 ครั้งแรกในประเทศเมื่อปี 2015 ที่สนามช้างฯ และงาน Rev Comunity เมื่อปี 2016 ที่ผ่านมา
และได้ไปทำข่าว Maverick Vinales มาประเทศไทย เผยโฉม 2017 YZF-R15 เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาในงาน Rev Community 2017
รวมทั้งทำข่าว Marc Marquez มาเมืองไทย โดย Alpinestars ได้เชิญมาเมื่อ 3 ปีที่แล้ว (ปี 2014 สมัยที่ผู้เขียนยังเป็นนักข่าวเว็บยานยนต์ชื่อดังแห่งหนึ่ง)
จึงขอมาวิเคราะห์ในมุมเหตุผล กับความเห็นที่แตกต่างกันของ นักบิดรุ่นเก๋า VR46 กับนักบิดหนุ่มไฟแรงชาวสเปนทั้ง 2 คนกันว่าเพราะอะไรถึงอยากมา และทำไมถึงไม่อยากมาแข่ง MotoGP ในประเทศไทยกัน
เริ่มที่ The Doctor Valentino Rossi นั้น ได้เคยมาประเทศไทยครั้งแรกในการเปิดตัว YZF-R3 ร่วมกับ Jorge Lorenzo, Pol Espagaro และ Bradley Smith
ในครั้งนั้นได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อไทยในมุม + ว่าเป็น Track ที่ยอดเยี่ยมเจ๋งกว่าหลายๆ สนามในโลก และหวังอยากให้ไทยจัด MotoGP
และทำไมครั้งนี้ กลับพูดจากหน้ามือกลับเป็นหลังมือกันเลยทีเดียว
เหตุผลน่าจะเป็นเพราะการที่ VR46 ได้มาเมืองไทยถึง 2 ปีติด และไปสนามช้างฯ 2 ปีซ้อนด้วยกัน เนื่องจากเหตุผลด้าน Sponsor ก็คือ Yamaha YZF-R-Series มีความเป็นไปได้ว่าครั้งนั้นเจ้าตัวอาจตอบในฐานะ Brand Ambassador หรือ อาจเป็นความรู้สึก 1st Impression จริงๆ ณ ขณะนั้น ที่ยังไม่ได้คิดทีเล่นจริงว่า ถ้า MotoGP จะมาจัดที่ช้างฯ จริงตนจะเป็นเช่นไรบ้าง
และการที่เจ้าตัวได้มาประเทศไทยถึง 2 ปีติด ทำให้เจ้าตัวนั้น ต้องเดินทางไกล เพื่อไปสนามช้างจาก กทม.ใช้เวลาเดินทางด้วยรถก็นานถึง 5 ชม. จึงอาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่เจ้าตัวเริ่มเหนื่อยล้ากับการเดินทาง รวมถึงการมองว่ามาแข่ง MotoGP นั้นไม่ใช่แค่แข่งแล้วกลับ บางทีก็อาจต้องการมาเที่ยวพักผ่อน อยากมาหาความบันเทิงด้วย จึงตอบด้วยเหตุผลว่าไกลจากสิ่งต่างๆ (น่าจะหมายถึง แหล่งท่องเที่ยวในประเทศไทย ในภาคอื่นๆ เช่น ทะเลใต้ หรือ เมืองหลวงอย่าง กทม.)
ในส่วนของตัวสนามที่บอกว่า Track น่าเบื่อมีแต่ทางตรง โค้งน้อย เจ้าตัวอาจวิเคราะห์ว่าสนามช้างฯ มีเอกลักษณ์เช่นเดียวกับสนาม Redbull Ring ที่ส่วนใหญ่เป็นทางตรงยาว และเป็นสนาม High Speed ทำความเร็วเฉลี่ยได้สูงที่สุดใน MotoGP 2016 (Redbull Ring) แน่นอน Ducati สามารถทำผลงานในสนามนี้ได้ดีตั้งแต่รอบ FP วันแรก, Qualified คว้า Pole Position ไปจนถึงจบการแข่งขันในอันดับ 1-2 ก็เป็นของ Ducati เมื่อปีที่แล้ว
ซึ่งนี่อาจเป็นเหตุเป็นผลทำให้พ่อหมอ มองถึงความเสียเปรียบในการแข่งขันของ YZR-M1 ด้วยนั่นเอง
สำหรับในมุมของ Marc Marquez และ Maverick Vinales ที่ยังเป็นหนุ่มไฟแรงด้วยวัย 24 และ 22 ตามลำดับ ยังรักในความท้าทาย อยากเรียนรู้หรือทำอะไรใหมๆ่ ตามที่ได้ให้สัมภาษณ์ไป
อาจมีแรงผลักดัน อยากมีชื่อตัวเองจารึกลงในสถิติเจ้าของผู้ทำเวลาเร็วที่สุดในสนามช้างฯ แห่งนี้
นอกจากนี้ MM93 และ MV25 ยังไม่เคยได้ไปสัมผัสสนามช้างฯ ซึ่งอาจไม่ได้คิดไปไกลถึงศักยภาพในการแข่งขันของตนในการแข่งที่ประเทศไทย เนื่องจากได้มาเพียงงาน Event ในกทม. ซึ่งเป็นเมืองหลวง ได้พบปะกับการต้อนรับจากแฟนๆชาวไทยอย่างอบอุ่น รวมไปถึงเมืองไทยมีความน่าสนใจสวยงามทั้งในส่วนของวัฒนธรรม, แหล่งท่องเที่ยว และอาหารการกินด้วย
ซึ่งนี่เป็นเหตุผลในมุมของผู้เขียน ขอวิเคราะห์ในมุมมองแบบเป็นเหตุเป็นผลดูเท่านั้นนะครับ
อ่านข่าว MotoGP เพิ่มเติมได้ที่นี่
เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ