จากกระแสช่วงค่ำคืนที่ผ่านมาหลังจากที่ MotoRival เราได้นำเสนอภาพรถพร้อมรายละเอียดเบื้องต้น Big Scooter คันใหม่ ของค่ายปีกนก Honda ที่หลากหลายคนรอคอยกับ All-New 2018 Forza 300 ทำให้เราสามารถยืนยันได้เลยว่านี่คืออีกหนึ่งโมเดลที่มีสาวกรอคอยกันเยอะพอสมควร โดยก่อนหน้านี้เราได้นำเสนอข้อมูลไปเพียงแค่เรียกน้ำย่อยเท่านั้น แต่ในคราวนี้เราจะพาเพื่อนๆทุกคนไปล้วงลึกถึงฟีเจอร์ต่างๆของมันออกมาให้ได้ทราบไปพร้อมๆกันในบทความนี้ เริ่มกันเลยครับ
และจุดแรกที่เราจะขอไล่ก่อนเลยนั่นก็คือดีไซน์รอบคันที่ทาง Honda ได้ระบุเอาไว้ว่าพวกเค้าตั้งใจออกแบบให้มันดูมีความสปอร์ต ปราดเปรียว และโฉบเฉี่ยวมากขึ้นเหมือนกับที่เคยทำไปก่อนหน้านี้ใน Forza 125 ดังนั้นเราจึงเห็นได้ว่าทั้งชุดโคมไฟ และแฟริ่งรอบคันต่างก็มีเส้นสายที่ตัดคมมากขึ้นผิดกับ Forza 300 รุ่นปัจจุบันไปมาก ในขณะที่ตัวรถโดยรวมก็มีขนาดเล็กลงเพื่อความคล่องตัวในการใช้งาน ส่วนตำแหน่งเบาะนั่งก็มีการขยับให้สูงขึ้นอีกเล็กน้อยเพื่อเพิ่มทัศนวิสัยของผู้ขับขี่
ด้านฟีเจอร์หรือระบบอำนวยความสะดวกต่างๆที่ถูกเพิ่มเข้ามาอย่างมากมายของเจ้า All-New 2018 Forza 300 คันนี้นั่นก็คือ ระบบวินชิลด์ที่สามารถปรับขึ้นลงได้ถึง 140 มิลลิเมตรผ่านการสั่งการที่ประแฮนด์ด้านซ้าย,
กล่อง U-Box ขนาดใหญ่ที่สามารถใส่หมวกกันน็อคเต็มใบได้พร้อมกันสองใบ โดยที่ยังมีพื้นที่พอเหลือพอให้ใส่กระเป๋าเอกสารขนาดกำลังดีได้อีกหนึ่งใบ, ช่องเก็บของด้านซ้ายหน้าตัวรถสำหรับเก็บของจุกจิกอย่างเช่น ขวดน้ำ สมาร์ทโฟน หรือเพาเวอร์แบงค์ซึ่งแน่นอนว่ามันจะต้องมีพอร์ทชาร์จไฟขนาด 12 โวลท์มาให้ นอกจากนี้ในส่วนของฝาปิดก็ยังมีระบบปิดล็อคเพื่อป้องกันการโจรกรรมจากมิจฉาชีพเสริมเข้ามาอีกด้วย
ยังไม่หมดแค่นั้นสำหรับระบบกุญแจก็เป็นแบบสมาร์ทคีย์ที่ไม่ได้มีดีแค่การสั่งล็อคตัวรถอัตโนมัติกับสตาร์ทได้โดยไม่ต้องไขกุญแจผ่านมือบิดตัวกลางรถแล้ว ตัวกุญแจลูกดังกล่าวนี้ยังสามารถควบคุมกล่องหลังที่เป็นออพชั่นเสริมให้ล็อคตัวเองได้ในทันทีที่ผู้ใช้อยู่นอกรัศมีสัญญาณเช่นกันกับตัวรถ และพิเศษสุดๆด้วยระบบควบคุมแรงบิดหรือ HSTC ที่ติดตั้งมาเพื่อป้องกันการลื่นไถลของล้อหลังโดยอาศัยการจับเซ็นเซอร์ความสัมพันธ์กันของอัตราการหมุนระหว่างล้อหน้าและล้อหลัง ซึ่งผู้ขับขี่สามารถสั่งเปิด/ปิดระบบนี้เมื่อใดก็ได้ที่ต้องการผ่านประกับแฮนด์ด้านซ้ายอีกเช่นเคยเหมือนกับตอนปรับวินชิลด์
ระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆรอบคันถือว่ามีการปรับเปลี่ยนไปมากพอสมควรได้แก่ชุดไฟส่องสว่างรอบคันแบบ LED กับชุดมาตรวัดที่ผสมผสานระหว่างระบบแอนาล็อกของชุดมาตรวัดรอบ/ความเร็ว และระบบดิจิตอลซึ่งก็คือหน้าจอ LCD ตรงกลางที่แสดงผลได้อย่างครบครันทั้ง ระยะทางรวม, ปริมาณน้ำมันคงเหลือ, ระยะทางที่สามารถขับต่อได้(เมื่อเทียบกับปริมาณน้ำมันในถัง), เซ็ททริป, อัตราบริโภคน้ำมันเฉลี่ย, เวลา, อุณหภูมิสภาพแวดล้อม, และแรงดันไฟฟ้าจากแบตเตอรี่
ต่อกันที่แชสซีย์หรือโครงรถที่ทาง Honda ได้ทำการปรับปรุงใหม่ทั้งหมดจนส่งผลให้น้ำหนักเปียกโดยรวมของตัวรถเบาลงถึง 12 กิโลกรัม ซึ่งส่งผลทางอ้อม(หรืออาจจะทางตรงด้วยซ้ำ)กับเรื่องของอัตราการกินน้ำมันและความคล่องตัวในการขับขี่ แต่ดูเหมือนแค่นั้นจะยังพลิ้วไม่พอเท่าไหร่นัก ในลำดับต่อมาทางค่ายจึงได้ทำการปรับองศาแกนคอใหม่ให้ตั้งชันกว่าเดิมจาก 27 องศาเป็น 26.5 องศา (วัดจากแกนแนวดิ่ง) ลดระยะเทรลและฐานล้อให้สั้นลงอีกถึง 35 มิลลิเมตร
ระบบกันสะเทือนยังคงเป็นแบบมาตรฐานคือชุดโช้กตะเกียบคู่หน้าขนาดแกน 33 มิลลิเมตร ทำงานร่วมกับโช้กอัพสปริงคู่ด้านหลังปรับพรีโหลดได้ 7 ระดับ จับคู่สวิงอาร์มอลูมิเนียมแขนคู่หล่อขึ้นรูป ด้านชุดล้อหน้าหลังก็มีการปรับดีไซน์ให้เป็นแบบเดียวกับน้องเล็ก Forza 125 นั่นก็คือแบบ 6 ก้านคู่ขนาดวงล้อ 15 นิ้ว รัดด้วยยางขนาด 120/70-15 สำหรับล้อหน้า และวงล้อ 14 นิ้วรัดด้วยยาง 140/70-14 สำหรับล้อหลัง (ใหญ่กว่ารุ่นปัจจุบันมา 1 นิ้วทั้งหน้า/หลัง) ปิดท้ายด้วยระบบเบรกแบบดิสก์เบรกขนาด 256 มิลลิเมตรสำหรับล้อหน้า และ 240 มิลลิเมตรสำหรับล้อหลัง มาพร้อมระบบ ABS แบบ 2 Chanel
ขนาดมิติรอบคันนั้นก็อย่างที่เราได้กล่าวไปในข้างต้นแล้วว่าทาง Honda ต้องการให้ 2018 Forza 300 คันนี้มีความปราดเปรียวมากยิ่งขึ้น ดังนั้นหากมองจากตัวเลขแล้วมันจึงถือว่าเล็กลงกว่าเดิมมาก ทั้งความยาวตัวรถที่สั้นลงถึง 25 มิลลิเมตรเหลือเพียง 2,140 มิลลิเมตร, ช่วงหน้าตัวรถกว้างเพียง 580 มิลลิเมตรเท่านั้น และถ้าหากนับรวมความกว้างของกระจกมองหลังก็จะอยู่ที่ 860 มิลลิเมตร ส่วนตำแหน่งเบาะนั่งสูงขึ้นกว่าเดิมอีก 62 มิลลิเมตรเป็น 780 มิลลิเมตร ตามด้วยการปรับแฮนด์บาร์ให้แคบลงมาอีกเล็กน้อยเป็น 755 มิลลิเมตร (แคบลง 2 มิลลิเมตร)
ปิดท้ายด้วยเครื่องยนต์ที่ยังคงพื้นฐานเดิมเหมือนกับโฉมปัจจุบันนั่นก็คือเป็นเครื่องยนต์สูบเดี่ยวขนาดความจุ 279cc SOHC 4 วาล์วระบายความร้อนด้วยน้ำ คงแรงม้าเท่าเดิมที่ 24.8 แรงม้า ณ 7,000 รอบ/นาที ในขณะที่แรงบิดมีการปรับขึ้นจากเดิมอีกนิดหน่อยเป็น 27.2 นิวตันเมตรที่ 5,750 รอบ/นาที และเมื่อประกอบกับน้ำหนักตัวที่ลดลงไปถึง 12 กิโลกรัม ทำให้ตัวเลขเวลาเข้าเส้นจาก 0-200 เมตร ใช้เวลาแค่เพียง 11.1 วินาที ด้วยความเร็วแตะเส้นที่ 129 กิโลเมตร/ชั่วโมง (ไวกว่าเดิม 0.1 วินาที และเร็วกว่าเดิม 2 กิโลเมตร/ชั่วโมง) ส่วนอัตราการบริโภคน้ำมันก็ดีขึ้นเล็กน้อยคือ 31.1 กิโลเมตร/ลิตร (ของเดิม 30.8 กิโลเมตร/ลิตร) ส่งผลให้มันสามารถขับไปได้ไกลถึง 370 กิโลเมตรต่อน้ำมันในถังที่จุไว้ 11.5 ลิตรเลยทีเดียว
2018 Honda Forza 300 มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ ขาว, ดำ, เทาด้าน, น้ำเงิน ซึ่งวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการในบ้านเรานั้นยังไม่เป็นที่แน่ชัดเท่าไหร่นัก แต่ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะมาปรากฏตัวครั้งแรกในงาน Motor Show 2018 รอชมกันได้เลยครับทาง MotoRival เราจะรีบมานำเสนอให้เพื่อนๆ ทราบกันโดยเร็ว
สำหรับสเป็กของ 2018 Forza 300
ENGINE | |
Type | 4 stroke, 4 valve liquid-cooled |
Engine Displacement | 279cc |
Bore and Stroke | 72mm x 68.5 |
Compression Ratio | 10.5:1 |
Max. Power Output | 18.5 kW @ 7,000 rpm |
Max. Torque | 27.2 Nm @ 5,750 rpm |
Oil Capacity | 1.7 L |
FUEL SYSTEM | |
Carburation | PGM-FI |
Fuel Tank Capacity | 11.5 L |
Fuel consumption | 31km/l |
ELECTRICAL SYSTEM | |
Starter | Electric |
Battery Capacity | 12V-8.6 AH |
ACG Output | 340 W @ r/min |
DRIVETRAIN | |
Clutch Type | Automatic centrifugal clutch; dry type |
Transmission Type | CVT |
Final Drive | V-Belt |
FRAME | |
Type | Underbone type; steel |
CHASSIS | |
Dimensions (LxWxH) | 2140 x 755 x 1470 |
Wheelbase | 1510mm |
Caster Angle | 26.5° |
Trail | 89mm |
Seat Height | 780mm |
Ground Clearance | 135mm |
Kerb Weight | 182kg |
Turning radius | 2.4m |
SUSPENSION | |
Type Front | φ33 Telescopic |
Type Rear | Twin Shock |
WHEELS | |
Rim Size Front | 15 inch |
Rim Size Rear | 14 inch |
Tyres Front | 120/70R15 |
Tyres Rear | 140/70R14 |
BRAKES | |
ABS System Type | 2 Channel |
Front | φ256mm, single disc |
Rear | φ240mm, single disc |
อ่านข่าว Honda เพิ่มเติมได้ที่นี่
เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ