จะบอกว่าซวยตั้งแต่เปิดฤดูกาลเลยก็ได้สำหรับนักบิดแชมป์โลก MotoGP 2 สมัย Jorge Lorenzo ที่ต้องจบการแข่งขันไปอย่างน่าเสียดายเพราะพลาดล้มตั้งแต่ช่วงกลางการแข่งขันที่สนามโลแซล ประเทศกาตาร์ โดยหลังจากจบการแข่งขันได้ไม่นานตัวเขาก็ได้ออกมาให้ข้อมูลกับสื่อว่าสาเหตุที่ทำให้ตนเองต้องล้มในครั้งนั้นเป็นเพราะระบบเบรกของเจ้า Ducati Desmosedici GP18 ที่ตัวเองใช้มีปัญหา
จากข้อมูลทาง Lorenzo ได้กล่าวเอาไว้ว่าในช่วงแรกของการแข่งขันระบบเบรกด้านหน้าของตัวแข่งยังสามารถทำงานได้ปกติดีทุกอย่าง แต่พอนานๆไปตัวเขาเองก็เริ่มรู้สึกว่าต้องกำก้านเบรกให้มากขึ้นเรื่อยๆในทุกๆโค้งเพื่อให้เบรกทำงานจนก้านเบรกแทบจะติดนิ้วที่ใช้กำแฮนด์ และสุดท้ายก็กลายเป็นว่าเบรกหายไปซะดื้อๆในโค้งเกิดเหตุ ซึ่งเราเองก็สามารถเห็นได้ว่าในช่วงเวลานั้นตัวเซนเซอร์เบรกของตัวรถไม่ได้มีการแจ้งว่ามันมีการทำงานหรือจับจานเบรกแต่อย่างใดจากหน้าจอถ่ายทอดการแข่งขัน
https://www.youtube.com/watch?v=l5C1lucL1eA
นอกจากนี้ Lorenzo ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่าหลังจากที่ตัวรถ GP18 ของเขาได้ถูกนำกลับมายังพิท ทีมช่างก็ทำการตรวจสอบแล้วพบว่ามีชิ้นส่วนบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับระบบเบรกหายไป (JL99 ไม่ได้ระบุไว้ว่ามันคือชิ้นส่วนใด) โดยที่ไม่สามารถระบุได้ว่ามันหล่นหายไปตอนที่รถล้ม หรือไม่มีอยู่แล้วตั้งแต่แรก
https://www.youtube.com/watch?v=uThTcUfWoKk
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ในช่วง FP2 ก็ดูเหมือนว่าอาการของตัวรถที่ Lorenzo ใช้จะมีปัญหาติดตัวมาตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว เพราะจากคลิปที่เราแนบมาจะเห็นได้ว่ามีสะเก็ดไฟแลบออกมาเป็นพักๆในช่วงทางตรงก่อนเข้าโค้งแรก ซึ่งเราอาจจะต้องมาดูกันอีกทีว่าทาง Ducati จะให้คำอธิบายอย่างไรบ้างเกี่ยวกับเรื่องนี้
ขอบคุณข้อมูลจาก Crash.net
ขอบคุณภาพจาก GPone, MotoGP
อ่านข่าวสาร MotoGP เพิ่มเติมได้ที่นี่
เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ