“สวัสดีครับ วันนี้ทีมงาน MotoRival จะขอมารีวิวยาง MICHELIN POWER RS ยางสปอร์ตสมรรถนะสูง ซึ่งเหมาะกับรถ Supersport และ Superbike แต่ที่จริงแล้วมันสามารถใส่ได้กับรถเกือบทุกรุ่นทุกสไตล์ ในพิกัดตั้งแต่ 250cc ขึ้นไป
สำหรับการทดสอบ รีวิว MICHELIN POWER RS ในครั้งนี้เราได้รถ Supersport ยอดนิยมอย่าง Yamaha YZF-R6 มาสวมไซส์ยาง หน้า 120/70 ZR17 หลัง 180/55/ZR17 เจ้า MICHELIN POWER RS จะมีดีแค่ไหนเดี๋ยวเรามาติดตามกันครับ”
อย่างที่พวกเราทราบกันดีว่า MICHELIN เป็น Official Partner กับทาง MotoGP ซึ่งยาง MICHELIN POWER RS รุ่นนี้ ได้ถูกนำไปติดตั้งบนรถนำขบวนพาชม Lap Tour ของรายการ MotoGP อีกด้วย โดยมันติดตั้งลงบน BMW S1000RR เป็นรุ่นแรก
อีกทั้งยังได้รับการเคลมว่าเป็นยางที่มีการยึดเกาะยอดเยี่ยมที่สุดจาก Motorrad Test Center เยอรมันนี อีกด้วย
ดังนั้น มั่นใจได้เลยครับว่ายางรุ่นนี้ มันต้องมีดีพอที่จะเป็นยางตัวท๊อปสมรรถนะสูงสำหรับการใช้งานบนถนน ซึ่งสามารถขี่ใน Track Day ได้แบบสบายๆ โดยไม่ต้องเปลี่ยนยาง”
นอกจากนี้ใครๆ ที่มักจะบอกว่ายางสปอร์ต มักจะมีอายุการใช้งานที่สั้น แต่จากผลการทดสอบ Dekra Test Center พบว่ายาง MICHELIN POWER RS มีอายุการใช้งานยาวนานกว่ายางคู่แข่งในกลุ่มเดียวกันถึง 33% ด้วยกัน
ลายดอกยาง
สำหรับ MICHELIN POWER RS นี้ ถือเป็นยางตระกูลสปอร์ตสมรรถนะสูง จะเห็นได้ว่าในส่วนของลวดลายดอกยางนั้น แทบจะไม่มีลวดลายอะไร
นอกเสียจากร่องดอกยางที่ใช้ช่วยในการรีดน้ำ รวมไปถึงมีสเกลบ่งบอกความลึกของดอกยางว่าเหลือให้ใช้งานได้อีกมากน้อยเพียงใด ขณะที่แก้มยางด้านข้าง จะมีขีดสเกลบ่งบอกองศาในการใช้งานอีกด้วย
สำหรับยาง MICHELIN POWER RS นี้นำเข้าจากยุโรป Made in Spain
เทคโนโลยีของตัวยาง MICHELIN POWER RS
ในส่วนของเทคโนโลยีตัวยาง ACT+ ที่เป็นสิทธิบัตรของ มิชลิน เป็นการใช้ชั้นโครงสร้างยางเพียงชั้นเดียว แต่จะทำให้โครงสร้างยางมีความต่างกัน ระหว่าง หน้ายาง แก้มยาง และไหล่ยาง ด้วยการพับชั้นผ้าใบซ้อนทับพื่อเสริมความแกร่ง ให้เสถียรภาพในการเข้าโค้งที่ความเร็วสูง
MICHELIN POWER RS ใช้เทคโนโลยี 2CT ที่ผสานแนวความคิดที่ขัดแย้งกัน หน้ายางที่ทนทานต่อการสึกและไหล่ยางที่เกาะถนน ให้มาทำงานร่วมกันอย่างลงตัวในล้อหน้า โดยสำหรับเนื้อยางตรงกลางที่ถูกใช้เยอะที่สุดจะมีคอมปาวน์แบบ Medium เพื่อลดอัตราการสึกหรอ ส่วนช่วงแก้มยางที่ไม่ค่อยมีการใช้งานมากนักเมื่อเทียบกับตรงกลาง จะเป็นเนื้อยางแบบ Soft เพื่อการยึดเกาะในจังหวะเข้าโค้งที่ดีกว่า
แต่สำหรับยางหลังจะพิเศษกว่าคือเป็นเทคโนโลยี 2CT+ ที่แม้ว่าตรงกลางจะยังคงเป็น Mededium Compound ที่เน้นการใช้งานให้ยาวนานเหมือนล้อหน้า แต่ตรงแก้มยางที่เป็น Soft Compound เน้นการยึดเกาะเข้าโค้งจะมีการเปลี่ยนคอมปาวน์ชั้นด้านล่างให้เห็นแบบ Medium แทน เพื่อลดอัตราการให้ตัวของยาง เนื่องจากยางหลังจะต้องรับแรงกระทำตอนเปิดคันเร่งออกจากโค้งสูงมาก ดังนั้นความนิ่งในจังหวะออกจากโค้งของ MICHELIN POWER RS จึงมีมากกว่าใครเพื่อน
สำหรับยาง POWER RS นี้ เคลมว่ารองรับ Top Speed ได้มากกว่า 270 กม./ชม.
ซึ่งที่จริงแล้ว ในการแข่งขัน Drag ต่างประเทศ รถตัวแรงที่ได้รับการโมดิฟายด์มีกำลังระดับ 1000 bhp และทำ Top Speed ทะลุ 400 กม./ชม.
ยังเลือกใส่ยางหลัง MICHELIN POWER RS อีกด้วย
ในด้านการใช้งานจริง
สำหรับฟีลลิ่งจากกการใช้งานจริง พบว่า MICHELIN POWER RS มีการยึดเกาะบนพื้นผิวแห้งที่ดีเยี่ยม สามารถเปิดคันเร่งออกตัวแรงๆ แบบหมดปลอกได้อย่างมั่นใจ ในขณะที่การเบรกอย่างรุนแรง หน้ายางก็แทบไม่พบอาการลื่นไถลออกมาให้เห็น
ส่วนฟีลลิ่งในโค้ง แม้เนื้อยางจะเป็น 2 Compound หน้ายางเป็น Medium และแก้มยางเป็น Soft แต่การใช้งานจริง
ก็ไม่รู้สึกถึงความหนืดที่ต่างกันแต่อย่างใด ทำให้การเข้าโค้งเนียนไหลลื่นต่อเนื่อง จนถึงการเดินคันเร่งออกจากโค้ง
อย่างไรก็ดีตัวยางที่แทบจะไม่มีลายดอกยางเลย มีเพียงร่องรีดน้ำ เพื่อให้ได้การยึดเกาะที่ดีที่สุด
ดังนั้นการขี่รถในหน้าฝน ควรต้องละเอียดในการเดินคันเร่ง หากเปิดคันเร่งรุนแรงเกิน อาจพบอาการท้ายสไลด์ออกมาได้
สรุปแล้ว รีวิว MICHELIN POWER RS ยางรถสปอร์ตสมรรถนะสูง ที่คุณไม่จำเป็นที่จะต้องใช้รถ Supersport หรือ Superbike ก็สามารถสัมผัสสมรรถนะการยึดเกาะเข้าโค้งอันยอดเยี่ยมของรถคุณผ่านยางคู่นี้ได้
เนื่องจากมีไซส์ให้เลือกมากถึง 13 ขนาด ด้วยกันมันจึงครอบคลุมรถในพิกัดตั้งแต่ 250cc ขึ้นมา เกือบทุกรุ่น
สำหรับ MICHELIN POWER RS มีราคาเส้นละ 5,200-8,900 บาท
สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจ สามารถติดต่อ และหารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.moto.michelin.co.th เบอร์ติดต่อ 02 700 3993
ขอขอบคุณ Yamaha Riders’ Club (YRC) สำหรับรถ Yamaha YZF-R6 ครับ
อ่านข่าว Michelin เพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่านข่าว รีวิว เพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่านข่าว รีวิว MICHELIN PILOT STREET RADIAL เพิ่มเติมได้ที่นี่
เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ