ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่หลายคนต่างเป็นห่วงไม่น้อยเลยทีเดียวสำหรับการล้มแบบไฮไซด์อย่างรุนแรงของ Marc Marquez ในรอบ ฝึกซ้อม FP1 ของศึก ThaiGP 2019 จนต้องมีผู้ดูแลสนามมาช่วยหิ้วปีกเดินออกจากแทร็ค แล้วต้องขึ้นรถพยาบาลเพื่อเข้าตรวจร่างกายต่อในศูนย์พยาบาลแทบจะทันที หลังจากที่เจ้าตัวทำท่าเหมือนมีอาการจุกอยู่พักหนึ่งตอนล้มใหม่ๆ
ท้ายที่สุดทีมแพทย์ประจำการแข่งขันก็ได้ออกมาให้ข้อมูลผลตรวจว่า MM93 ไม่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวเท่าไหร่นัก และมีแค่เพียงอาการพกช้ำ หรือระบมแค่บริเวณสะโพกเท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่โชคดีอย่างมากเลยทีเดียวสำหรับนักบิดรายนี้
อย่างไรก็ดีหลังจากจบการงฝึกซ้อมรอบที่ 2 เมื่อวันก่อน เจ้าตัวก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า หลังจากที่ล้มไปแล้ว ตัวเขานั้นมีอาการหายใจไม่ออกถึงราวๆ 5 วินาทีเลยทีเดียว (นั่นคือสาเหตุที่ทำให้เราเห็นว่า Marquez นอนจุกอยู่ข้างๆรถพักใหญ่) และแม้ว่ากระดูกของตนจะไม่มีจุดใดแตกหัก แต่อาการพกช้ำที่เกิดขึ้นในตอนแรกไม่ได้มีแค่ที่สะโพกดังที่แพทย์วินิจฉัย เพราะอันที่จริงคือตัวของเขานั้นระบมไปหมด ทว่าในตอนนี้อาการปวดเหล่านั้นก็ค่อยๆดีขึ้นเป็นลำดับๆแล้ว
นอกจากนี้ Marquez ยังอธิบายถึงสาเหตุที่ทำให้ตนพลาดล้มอย่างรุนแรงในครั้งนี้อีกว่า “ตอนนั้นผมขี่ช้ากว่าปกติมาก เพราะรอบนั้นคือรอบที่ผมพึ่งบิดออกมาจากพิท, มันเป็นยางใหม่ และบางทีผิวแทร็คอาจจะไม่สะอาดพอก็ได้ แต่มันก็ปกติอยู่แล้ว”, “แต่จุดหลักๆที่ต่างจากทั่วๆไปก็คือในโค้งนั้น ปกติในโค้งนั้น เราจะไม่ปิดคันเร่งทั้งหมด (ส่วนใหญ่จะคลอคันเร่งไว้หลังออกมาจากโค้ง 6), แต่ตอนนั้นผมปิดคันเร่งหมด เพราะผมพึ่งออกจากพิท และไม่ได้ตั้งใจจะกดเวลา”, “พอผมปิดคันเร่งหมด, เอนจิ้นเบรกมันก็เกิดขึ้น และนั่นก็ทำให้ล้อหลังของผมล็อค”
“มันไม่ใช่ปัญหาทางเทคนิคเลย, ที่มันเกิดเพราะความผิดพลาดของผมเองมากกว่า, แต่ก็เพราะผมขี่ช้าด้วย”, “และที่มากกว่าการเปลี่ยนลักษณะการขี่ (ที่บอกว่าตนขี่ช้ากว่าปกติ), คือบางทีมันอาจจะเป็นเพราะยางยังไม่พร้อม หรือไม่ก็เพราะตรงนั้นมันเปื้อนอยู่ก็ได้, มันเข้าใจค่อนข้างยากอยู่”
อ่านข่าว MotoGP เพิ่มเติมได้ที่นี่
เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ