*รีวิวนี้เป็น รีวิว 1st Impression ฉบับสั้น ที่ทีมงาน MotoRival เราได้สัมผัสครั้งแรกตั้งแต่วันเปิดตัว หากท่านต้องการอ่านรายละเอียดแบบเจาะลึก การใช้งานจริง บนท้องถนน ทั้งในเมือง และขี่เดินทาง
สามารถอ่าน ฟูล รีวิว ได้ที่นี่
ย้อนไปเมื่อวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา ถือเป็นวันแรกที่ทาง A.P. Honda ได้ทำการเปิดตัว All-New Honda ADV150 – The Street Adventure A.T. เพื่อวางจำหน่ายในบ้านเราอย่างเป็นทางการ โดยในวันเดียวกันนั้นเองทางผู้บริหารยังได้จัดให้เหล่าสื่อมวลชนได้ร่วมขี่ทดสอบเจ้าสกูตเตอร์ลูกผสมคันนี้ด้วย ซึ่งเราเองก็ไม่พลาดโอกาสนั้นและรีบนำข้อมูลที่ได้จากการทดสอบดังกล่าวมาให้เพื่อนๆได้ศึกษากันก่อนใน รีวิว Honda ADV 150 แบบ 1st Impression ครั้งนี้ครับ
โดยสำหรับจุดเด่นของ Honda ADV150 ที่น่าสนใจแน่นอนว่าก็จะต้องเริ่มจากงานตกแต่งภายนอกที่หยิบยืมเอาดีไซน์ของพี่ใหญ่ X-ADV 750 มาใช้ เพียงแต่จะมีการปรับย่อสัดส่วน และปรับเส้นสายใหม่ให้ดูทันสมัยมากขึ้น
ส่วนชุดไฟหน้าก็เป็นแบบโคมคู่ หลอด LED ไฟต่ำอยู่ด้านใน ไฟสูงอยู่ด้านนอก ให้แสงสว่างชัดเจนหายห่วงเรื่องการใช้งานตอนกลางคืนและไฟเลี้ยว LED แยกส่วนชัดเจนวางตำแหน่งไว้ด้านบน ซึ่งเมื่อดูจากตำแหน่งแล้ว หากรถเกิดล้มแปะขึ้นมา มีโอกาสสูงมากที่ก้านไฟลี้ยวตรงนี้จะแตกหรือหัก
ไฟท้ายก็เป็นแบบแถบ LED วางแนวยาวคาดผ่านช่วงท้ายรถเต็มแนวสว่างชัดเจนแม้เวลากลางวัน
วินชิลด์ทรงสูงปรับระดับได้ 2 สเต็ป ด้วยการดึง สามารถช่วยแหวกลมได้พอประมาณ
เรือนไมล์ Full Digital Blacklight จัดวางตำแหน่งการแสดงผลได้อย่างสวยงามและครบครันทั้ง ความเร็ว, รอบเครื่องยนต์, ระดับน้ำมัน, แรงดันแบตเตอรี่, อุณหภูมิแวดล้อม, อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงทั้งแบบเฉลี่ยและตามอัตราการเปิดคันเร่ง ณ ขณะนั้น (Real Time), ระยะทางรวม, ระยะทางทริป A/B, วันที่, เดือน, และเวลา ซึ่งโดยส่วนตัวผู้ทดสอบมองว่าขนาดหน้าจอที่ให้มาเพียงแค่ราวๆ 4 นิ้ว (เทียบเท่ากับหน้าจอโทรศัพท์มือถือ iPhone SE) นั้นค่อนข้างเล็กไปนิด หากให้มาสัก 5 นิ้วน่าจะดีและเห็นรายละเอียดค่าต่างๆที่แสดงผลได้ชัดกว่านี้
เทเปอร์แฮนด์บาร์ทรงกว้าง มีการจัดวางตำแหน่งให้ใกล้ตัวกว่าเมื่อเทียบกับ PCX 150 ช่วยให้สามารถพลิกเลี้ยวรถได้อย่างคล่องตัวมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด ถึงแม้ว่ามันจะหนักกว่าถึง 4 กิโลกรัมด้วยกัน (น้ำหนักรวมของเหลว ADV150 อยู่ที่ 133 กิโลกรัม) ส่วนประเด็นในเรื่องของการมุมดช่องจราจรนั้น เรายังไม่สามารถให้คำตอบได้ เนื่องจากยังไม่มีโอกาสได้นำเจ้า ADV 150 คันนี้ออกไปใช้งานบนถนนสาธารณะจริงๆ
ถังน้ำมันวางกลางลำตัวรถ ขนาดความจุ 8 ลิตร
ชิ้นส่วนช่างบอดี้พาร์ทกลางลำตัวรถมีโป่งกว้างออกมาทำให้ดูมีมิติ เพื่อเสริมมัดกล้ามแต่ก็เสริมแถบพลาสติกสีเงินที่ช่วยทำให้รถดูหรูหราขึ้นด้วยเช่นกัน แถมพื้นที่สำหรับวางเท้าในท่านั่งปกติ ก็มีระยะให้ขาได้เหยียบกำลังสบายไม่ได้ตั้งชันขึ้นมามากมายเท่าไหร่นัก แต่หากจะเหยียดเท้าเพื่อยันช่วงฟลอบอร์ดด้านหน้าแล้ว อาจจะรู้สึกว่าสุดเหยียดไปนิดสำหรับผู้ขี่ไซส์เดียวกับผู้ทดสอบ ทว่าถ้าเป็นผู้ขี่ที่สูงมากกว่า 175 เซนติเมตรขึ้นไป และไม่เกิน 180 เซนติเมตร อาจจะรู้สึกว่ากำลังพอดีสำหรับการนั่งขี่ด้วยท่าเหยียดขา
เบาะนั่งแบ่งสองตอนชัดเจนเน้นความสะดวกสบายของผู้ขี่ พร้อมเคลมความสูงเบาะตำแหน่งผู้นั่งไว้ที่ 795 มิลลิเมตร ซึ่งหากเทียบกับ PCX150 ที่มีพื้นฐานหลายๆอย่างร่วมกันด้วยความสูงของเบาะนั่งที่มากว่าเล็กน้อย แต่ก็มีการออกแบบให้ตัวเบาะแคบกว่านิดหน่อย จึงทำให้ผู้ทดสอบไม่รู้สึกถึงความแตกต่างในเรื่องของการวางเท้าทั้งสองข้างลงพื้นมากนักขณะจอด ถือว่าใช้อุ้งเท้าแตะพื้นได้สบายๆสำหรับผู้ขี่ที่สูงไม่เกิน 170 เซนติเมตร
Ubox (ช่องเก็บของใต้เบาะ) ปริมาตรความจุ 28 ลิตร
สามารถใส่หมวกเต็มใบได้หนึ่งใบและมีพื้นที่เก็บแก้ดเจทส่วนตัวต่างๆได้อีกพอประมาณ
พักเท้าผู้ซ้อนเป็นแบบชิ้นงานอลูมิเนียมดูหนาและแข็งแรง จัดวางทั้งความสูง, ความกว้าง, และระยะหน้า/หลังได้ดี ประกอบกับความที่ฝั่งช่วงเบาะผู้ซ้อนที่ ADV150 ถูกออกแบบไว้ ถือว่ามีความกว้างเต็มก้นดีมาก เพียงอาจจะสั้นไปนิดสำหรับผู้ซ้อนไซส์หนา ซึ่งหากผู้ขี่เป็นคนไซส์หนาด้วย งานนี้อาจจะต้องจัดวางท่านั่งกันสักเล็กน้อยเนื่องจากจะสัมผัสได้ถึงความใกล้ชิดกันแบบแทบจะแนบเนื้อกันเลยทีเดียว (ส่วนผู้ขี่กับผู้ซ้อนที่ไซส์เล็กทั้งคู่ หายห่วงได้เลยครับ กำลังพอเหมาะ)
ท่อไอเสียจัดตำแหน่งให้ทำมุมเแหงนขึ้น 45 องศาเหมือนของพี่ใหญ่ X-ADV 750
มิติตัวรถด้านยาว x กว้าง x สูง : 1,950 x 763 x 1,153 มิลลิเมตร
ระยะความสูงใต้ท้องรถ : 165 มิลลิเมตร
เครื่องยนต์ eSP 4 จังหวะ, 149.3cc SOHC, ระบายความร้อนด้วยน้ำ มาพร้อมระบบ Idling Stop System, จ่ายน้ำมันด้วยระบบหัวฉีด PGM-FI กำลัง
แรงม้าสูงสุด 10.7 กิโลวัตต์ (14.5 PS) ที่ 8,500 รอบ/นาที และ กำลังแรงบิดสูงสุด 13.8 นิวตันเมตร ที่ 6,500 รอบ/นาที ส่งกำลังทั้งหมดไปยังล้อหลังด้วยชุดคลัทช์แห้งและระบบเกียร์ CVT
โดยจากการทสอบในเบื้องต้น เราคงต้องเรียนตามตรงว่าอัตราเร่งของ ADV150 คันนี้นั้น จะมาค่อนข้างช้ากว่า PCX150 อยู่ประมาณหนึ่ง โดยเฉพาะช่วงความเร็วกลางๆ (ราวๆ 30-60 กิโลเมตร/ชั่วโมง) ซึ่งคาดว่าจะเป็นผลมาจากความต่างในเรื่องของ ขนาดยางหลัง, น้ำหนัก, รวมถึงเม็ดชามคลัทช์ที่หนักกว่า ส่วนความเร็วสูงสุดยังไม่สามารถระบุได้เช่นกันเนื่องจากระนยะทางในสนามทดสอบสามารถบิดสุดได้แค่เพียงราวๆ 70 กิโลเมตรชั่วโมงเท่านั้น
ขณะที่อัตราสิ้นเปลืองก็ขึ้นแสดงไว่ที่ 31.6 กิโลเมตร/ลิตร ซึ่งเชื่อว่ายังไม่ใช่ตัวเลขที่ดีที่สุด เนื่องจากในการทดสอบครั้งนี้มีจังหวะให้เปิด/ปิดคันเร่งไปมาอยู่มากพอสมควร แถมสื่อแต่ละท่านที่ลงทดสอบเองก็ขี่กันดุแทบทุกท่านนั่นเอง
โช้กหน้าตะเกียบคู่ ช่วงยุบ 130 มิลลิเมตร
โช้กหลังแบบแก๊สคู่มีซับแทงค์แยก จาก Showa ช่วงยุบ 120 มิลลิเมตร และยังปรับเซ็ทค่าพรีโหลดไม่ได้
ระบบกันสะเทือนของ ADV150 คันนี้ ถูกเซ็ทมาให้มีช่วงยุบและความนุ่มหนืดที่มากกว่า PCX150 ดังนั้นผลที่ตามมาก็คือ ทำให้เวลาพลิกเลี้ยวตัวรถเจ้าสตรีทแอดเวนเจอร์คันนี้จะให้ความรู้สึกที่ดูดไปกับโค้งมากกว่าเมื่อเทียบกับแฝดร่างพรีเมียมสกูตเตอร์ ที่จะออกไปทางจิกเข้าโค้งและออกกระด้างนิดๆ
นอกจากนี้มันยังสามารถซับแรงกระแทกยามเจออุปสรรคจำพวกหลุมบ่อเล็กๆได้ดีกว่า โดยเฉพาะกับช่วงหน้าตัวรถ ส่วนด้านหลังด้วยข้อจำกัดในเรื่องของภาระน้ำหนักที่อยู่ใต้สปริง (Unsprung Weight) ที่มากกว่ารถมอเตอร์ไซค์ทั่วๆไปตามธรรมชาติของรถสกูตเตอร์ ทำให้เวลาเจอหลุมกระแทกรัวๆ ท้ายรถจะยังคงดีดขึ้นมาอย่างชัดเจนอยู่ดี ดังนั้นถึงแม้ระยะไต้ท้องรถจะเยอะกว่า PCX จนไม่ต้องกังวลเรื่องสิ่งกีดขวางใต้ท้องรถมากเท่า กับโช้กหน้า/หลังมีช่วงให้ยุบซับแรงเยอะกว่าสกูตเตอร์ทั่วไป แต่ถ้าเป็นไปได้เวลาเจอหลุมบ่อให้ค่อยๆขี่ผ่านไปช้าๆจะดีกว่าครับ
อย่างไรก็ดี หากมีผู้ซ้อนขึ้นมา หน้ารถจะออกอาการลอยอย่างเห็นได้ชัด และจะสัมผัสได้มากขึ้นเรื่อยๆเมื่อผู้ซ้อนมีน้ำหนักมากกว่า 60 กิโลกรัมขึ้นไป ซึ่งอาจจะส่งผลถึงความรู้สึกเวลาพลิกเลี้ยวว่าแปลกๆอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้เพี้ยนจนน่าหงุดหงิดใจ (เว้นแต่ว่าผู้ซ้อนจะหนักจริงๆระดับ 70-80 กิโลกรัมขึ้นไปเป็นต้น)
วงล้ออลูมินัมอัลลอยด์ด้านหน้าขนาด 14 นิ้ว ส่วนด้านหลังเป็นขนาด 13 นิ้ว รัดด้วยยางกึ่งหนามไร้ยางใน (ทูบเลส) ไซส์ 110/80 – 14 M/C กับ 130/70 – 13 M/C ตามลำดับหน้าหลัง ให้การยึดเกาะที่ดีเกินหน้าเกินตา สามารถเลี้ยวได้จนสุดขาตั้งคู่ขุดพื้นบนผิวยางมะตอยแห้งๆ แต่ทางเปียกยังต้องรอพิสูจน์กันต่อไปว่าจะรีดน้ำได้ดีแค่ไหน
จานเบรกหน้าขนาด 240 มิลลิเมตร ทำงานร่วมกับปั๊มเบรกโฟลทติ้งเมาท์ 2 พอร์ท สามารถไล่น้ำหนักได้นุ่มนวล และให้ระยะเบรกที่สั้นกำลังดี แม้จะมีระบบ ABS ทำงานร่วมด้วย แต่ก็ไม่ได้ถูกเซ็ทให้ทำงานได้ไวขนาดนั้น โดยรวมถือว่าค่อนข้างน่าพอใจ
จานเบรกหลังขนาด 220 มิลลิเมตร ทำงานร่วมกับปั๊มเบรกโฟลทติ้งเมาท์ 1 พอร์ท แม้จะไม่มีระบบ ABS มาให้เหมือนล้อหน้า แต่กว่าจะเบรกจนล้อหลังล็อคได้ก็ต้องกำก้านเบรกจนสุดแทบจะติดแฮนด์เช่นกัน แถมยังได้ฟีลลิ่งในการล็อคเบรกสไลด์ในแบบฉบับของรถแอดเวนเจอร์อีกด้วย
สรุป All-New Honda ADV150 – The Street Adventure A.T. ถือเป็นรถมอเตอร์ไซค์แนวสกูตเตอร์ทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจไม่แพ้รุ่นยอดนิยมคันอื่นๆในตลาด ทั้งด้วยสมรรถนะในเรื่องของระบบกันสะเทือน, ระบบเบรก ABS, หน้าตาที่โดดเด่นกว่าใคร, รวมถึงออปชันต่างๆที่ให้มาแบบคุ้มๆ ครบๆ เหมาะสมกับราคากลางที่ตั้งไว้คือ 97,900 บาท (ส่วนราคา 95,900 บาทนั้น เป็นราคาแนะนำสำหรับการเปิดตัวในช่วง 2 วันแรกเท่านั้น)
จะมีจุดให้สังเกตุก็แค่เพียงอัตราเร่งตัวรถที่ทำได้ไม่ตรงกับที่คาดหวังไว้เท่าไหร่นักซึ่งเอาจริงๆแล้วเชื่อว่าเพื่อนๆที่สนใจตรงนี้คงหาทางปรับแต่งมันเพิ่มได้ง่ายๆอยู่แล้วเนื่องจาก อันที่จริงมันก็ใช้เครื่องยนต์ลูกเดียวกับ Honda PCX150 ที่ช่างสายซิ่งหลายๆคนรู้จักกันดี โดยหากเพื่อนๆที่อยากได้เจ้า ADV150 คันนี้ไว้ครอบครองสักคัน ก็เชิญไปรับชมรถตัวจริงทั้ง 3 สี ได้แก่ สีแดง-ดำ, ดำ-เทา, และ น้ำตาล-เทา ได้ที่ศูนย์บริการรถมอเตอร์ไซค์ Honda ทั่วประเทศ
ส่วนฟูล รีวิว Honda ADV 150 ที่เราจะนำมันมาทดสอบพร้อมเก็บข้อมูลการขี่และการใช้งานจริงต่างๆเพิ่มเติมในฉบับของพวกเรา ทีมงาน MotoRival กำลังจะตามมาในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ยังไงก็รอติดตาม รอชมกันได้เลยครับ
รณกฤต ลิมปิชาติ Test Rider + Writer + Photo
ขอบคุณภาพจาก Chet GT-R Maxx, Tae Just Ride it
อ่านข่าว Honda เพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่านรีวิว อื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่
เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ