เมื่อวันที่ 15-19 มี.ค. ที่ผ่านมา ทาง A.P.Honda ได้จัดทริป Honda CRF250 Rally The Fearless Destination เชิญสื่อมวลชนไทย ขี่รถจักรยานยนต์จิตวิญญาณ Dakar Rally ตะลุยทริป 3 ประเทศ ไทย, กัมพูชา และเวียดนาม กับระยะทางกว่า 1,300 กม. ซึ่งทาง MotoRival ของเราได้รับเกียรติในการเข้าร่วมทริปทดสอบในครั้งนี้ด้วย ซึ่งเราจะขอพาทุกท่านเปิดเส้นทางประวัติศาสตร์ในครั้งนี้กับเราไปพร้อมๆ กันครับ
สำหรับการเดินทางในวันแรก เรามาเริ่มต้นกันที่หน้าสถานีรถไฟอรัญประเทศ ก็ถึงเวลาของการเริ่มปล่อยขบวนคาราวาน และเตรียมตัวยื่นเอกสารผ่านแดน
หลังจากผ่านแดนได้ ก็จะเข้าเขตประเทศกัมพูชา ซึ่ง ผู้ร่วมทริป จะต้องปรับตัวกันเสียหน่อย เนื่องจากที่กัมพูชา ถนนนั้นจะเป็นเลนวิ่งทางฝั่งขวา ซึ่งตรงข้ามกับประเทศไทย
การเดินทางในระหว่างนี้ เป็นถนนเลนสวน ซึ่งไม่ได้มีบรรยากาศที่ต่างจากบ้านเรานัก
เมื่อเดินทางมาเรื่อยๆ ก็จะพบกับไฮไลท์แรกของวัน นั่นคือ อ่างเก็บน้ำ “บารายตะวันตก” เมื่อคาราวานมาถึง จะได้เริ่มประเดิมทางฝุ่นกันแบบพอหอมปากหอมคอ ให้สัมผัสสมรรถนะเบื้องต้นของเจ้า CRF250 Rally เมื่อพักถ่ายรูป สูดบรรยากาศกันเสร็จ เมื่อตกเย็นคาราวานก็เดินทางกลับที่พัก โดยคืนนี้เราพักกันที่ อังกอร์ สำหรับในวันแรกนี้ คาราวานได้เดินทางกันเป็นระยะทาง 148 กม. ซึ่งวันนี้ถือเป็นวันเริ่มต้นเท่านั้น ระยะทางที่รอคอยกันอยู่ยังอีกยาวไกล
วันที่ 2 หลังจากที่คาราวาน ตื่นเช้าเพื่อเช็คเอ้าท์ เดินทางออกจากที่พัก พวกเราก็มุ่งหน้าสู่นครวัด นครทม ซึ่งเป็นเมืองโบราณสถานที่นักท่องเที่ยวชอบมาชม
ถือเป็นจุดไฮไลท์แรกของวัน โดยคาราวาน Honda CRF250 Rally The Fearless Destination ได้รับเกียรติเป็นคณะแรกขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปในบริเวณนครวัดได้
เราเดินทางกันต่อแบบยาวๆ ก็มาถึงสะพานโบราณ ในระหว่างนี้เส้นทางก็จะเป็นทางฝุ่นอีกครั้ง ซึ่ง CRF250 Rally ก็ขี่ลุยเข้าไปได้อย่างสบาย
เมื่อออกจากสะพานโบราณ เหล่าคาราวาน ก็มุ่งหน้าสู่เมืองกำปงจาม ในเมืองกำปงจามนี้ มีจุดไฮไลท์สุดท้ายของวัน เป็น สะพานไม้ไผ่ที่มีความยาวประมาณ 1 กม. นับเป็นสะพานไม้ไผ่ที่ยาวที่สุดที่รถบัสสามารถเดินทางข้ามได้ ระหว่างขี่ข้ามสะพานไม้ไผ่แห่งนี้ เหล่านักบิด จะต้องระมัดระวังเนื่องจาก ตัวไม้ไผ่ จะยวบลงตามน้ำหนักของรถที่ทิ้งลง ซึ่งช่วงล่างของ CRF250 Rally ก็ได้โชว์สมรรถนะในการลุยอีกครั้ง ทุกคนจึงข้ามผ่านไปได้โดยไม่ยากเย็น
หลังจากออกจากสะพานไม้ไผ่ ก็เดินทางเข้าสู่ที่พัก สิ้นสุดวันนี้กันที่ 261 กม. เตรียมตัวลุยกันต่อในวันพรุ่งนี้ซึ่งเป็นวันที่โหดที่สุดของทริปเลยก็ว่าได้
วันที่ 3 ของการเดินทาง ในวันนี้เหล่าคาราวานต้องตื่นแต่เช้ากันเช่นเคย เพื่อออกเดินทางไปยังชายแดนกัมพูชา ซึ่งระยะทางค่อนข้างไกล เนื่องจากฝนตกก่อนที่คาราวานจะออกเดินทาง ทำให้ผู้ขี่ทุกคน ต้องพบกับสภาพเส้นทางที่เปียกแฉะ และสภาพถนนทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ทางลูกลัง ที่มีหลุมบ่อ บางจุดก็ซ่อมทำถนน ซึ่งต้องระมัดระวังกันเช่นเคย โชคดีที่ CRF250 คัน ใส่ยางหนาม จึงตะกุยผ่านไปได้อย่างราบรื่น
เมื่อมาถึงชายแดนกัมพูช-เวียดนาม คาราวานเราก็ยื่นเอกสารผ่านทางเรียบร้อย ตอนนี้เราก็อยู่ในประเทศเวียดนามกันอย่างเป็นตัวแล้ว แม้ว่าเวียดนามจะเป็นถนนวิ่งเลนขวาเหมือนกัมพูชา แต่ทว่าบรรดานักบิดทั้งหลาย ต้องปรับตัวกันเป็นอย่างมาก เพราะ สไตล์การขับขี่รถในประเทศเวียดนามนี้ ถือว่าเป็นที่สุดของอาเซียนก็ว่าได้ เนื่องจากสภาพรถที่หนาแน่น และมีรถจักรยานยนต์มากที่สุดในโลก ทกุคนต้องใช้ทักษะเฉพาะตัวกันอย่างเต็มที่ แม้ว่า CRF250 Rally จะเกิดมาเพื่อเป็นรถลุย แต่ในการใช้งานในเมือง นั้นไม่ได้ด้อยกว่าใคร เนื่องจากน้ำหนักตัวที่เบา ทำให้มีความคล่องตัวสูง เบาะนั่งในตำแหน่งที่สูงช่วยให้การมองเห็นวิสัยทัศน์กว้างไกล นอกจากนี้เครื่องยนต์ 250cc 1 สูบ นี้มีอัตราเร่งที่จัดจ้าน ช่วยให้การเร่งแซงรถต่างๆ ทำได้ไม่เครียดจนเกินไป เมื่อฝ่าฟันการจราจรที่แสนยากลำบากในเมืองออกมาได้ คาราวานก็แวะพักผ่อน เพื่อเตรียมตัวลุยต่อหลังพระอาทิตย์ลับฟ้า กันอีกกว่า 150 กม. เรียกได้ว่าความท้าทายนี้ยังคงอีกยาวไกล ด้วยถนนแบบเลนสวน และแทบจะไม่มีไฟข้างทาง ทำให้คาราวานต้องระมัดระวัง และใช้สายตากันมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้สิ่งที่เลวร้ายกว่านั้น คือ นักขับเจ้าถิ่นที่ชอบขับแซงสวนเลนมาโดยไม่สนใจรถที่แล่นมาในเลนปกติ ทำให้รถหลายๆคันต้องวิ่งหลบลงขอบทาง
ไม่เพียงเท่านั้น รถจักรยานยนต์เจ้าถิ่มที่วิ่งบนไหล่ทาง ก็มักไม่มีไฟท้าย ทำให้คาราวานต้องคอยระวังรถพวกนี้เป็นอย่างมาก กว่าจะมาถึงโรงแรมที่พักในมุยเน่ได้เล่นเอาเหนื่อย และหวาดเสียวกันแทบทุกคน สิ้นสุดการเดินทางแสนทรหดในวันนี้ ด้วยระยะทาง 416 กม. พรุ่งนี้ทีมคาราวานของเรา จะเหลือแค่ภารกิจพาเจ้า CRF250 Rally ไปตะลุยทะเลทรายในมุยเน่ ก่อนปิดทริปนี้กันครับ
วันที่ 4 วันสุดท้ายของการเดินทางอันหฤโหด ของทริป Honda CRF250 Rally The Fearless Destination คาราวานเรายังตื่นแต่เช้า เพื่อมุ่งหน้าไปยัง Red Canyon เป็นผาทรายแดง ซึ่งเหล่าผู้กล้าที่รวมทริปนี้ หลายคนลงหน้าผา เพื่อไปพิสูจน์ความกล้าแบบ Fearless Destination
หลังจากนั้นก็วกกลับมายังจุดไฮไลท์ที่สำคัญที่สุดในทริปนี้ นั่นก็คือ ทะเลทรายมุยเน่ ซึ่งเป็นทรายขาว แม้ภาพอากาศจะดูแดดร้อนแรง แต่ในความเป็นจริงมีลมโกรกอยู่ตลอด จึงทำให้ผู้เดินทางได้ใช้เวลากันสักพักในที่นี้ เพื่อทดสอบสมรรถนะจิตวิญญาณรถแข่ง Dakar Rally ในคราบรถถนนกัน รวมถึงการใช้ทักษะในการขับขี่บนทรายที่ยากลำบาก ซึ่งผู้ร่วมทริปทุกคน ได้รับประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน ที่เป็นหนึ่งในผู้สร้างประวัติศาสตร์ พิชิต 3 ประเทศ ไทย กัมพูชา เวียดนามในครั้งนี้
ขอขอบคุณ A.P.Honda ที่ให้เกียรติทาง MotoRival ร่วมเป็นหนึ่งในทริปประวัติศาสตร์ Honda CRF250 Rally The Fearless Destination กับการท้าทายตะลุยข้าม 3 ประเทศในครั้งนี้ครับ
อ่านข่าว Honda เพิ่มเติมได้ที่นี่
เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ