ย้อนไปตอนที่ Maverick Vinales ยังอยู่กับ Suzuki เขาถือเป็นนักบิดหน้าใหม่ที่กำลังรุ่งพุ่งแรงเป็นอย่างมากด้วยตัวแข่ง GSX-RR แต่สุดท้ายเขากลับเลือกที่จะออกจากที่ตรงนั้นมาอยู่กับทีมแข่งของ Yamaha ในปี 2017 และก็ดูเหมือนจะมีความสุขกับทีมเพียงช่วงแรก ก่อนที่จะร้าวรานจนต้องออกจากทีมกลางคันในการแข่งขันปีล่าสุด ซึ่งเจ้าตัวก็ได้ออกมายอมรับว่า การตัดสินใจย้ายทีมในครั้งนั้น คือหนึ่งในความผิดพลาดที่เขาได้ทำลงไป “ผมไม่อยากจะพูดเรื่องเก่ามากนัก” Vinales กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสื่อ the-race.com “เพราะมันชัดเจนอยู่แล้วว่าผมทำพลาด (ที่ออกมาจาก Suzuki), ในท้ายที่สุด เราได้สร้างทีมที่ดีมาก (กับ Suzuki), แต่ในตอนนั้น Yamaha มีรถที่สามารถคว้าชัยชนะได้ และผมก็เลือกทางนั้น, ผิดหรือไม่, ผมไม่รู้หรอก, เพราะในตอนสุดท้าย คุณคือคนที่เลือกทางของตัวเอง”, “แต่มันก็ทำให้ผมอยู่ในที่ๆผมมีความสุขมากๆ, ผมกลับมาแข่งขันอย่างตื่นเต้นอีกครั้ง, ก่อนหน้านี้ผมไม่ได้มาด้วยความเศร้า, แต่เพราะไม่มีพลังงานอย่างที่ต้องการ, มันเป็นความทรงจำที่ดีและนี่คือความรู้สึกที่ดี” “ผมมีความสุขจริงๆ, เพราะบางทีผมก็กลับมาเพิ่มความทะเยอทะยาน, ความหลงไหลในรถแข่ง, ซึ่งมันสำคัญมาก, ในท้ายที่สุด, ผมคือเชื้อเพลิงที่มอบพลังงานให้คุณได้ไปต่อ, ผมคิดว่าผมยังสามารถให้อะไรได้อีกเยอะและมีอีกเยอะที่ยังไม่ได้ให้, ดังนั้นมันจึงสำคัญกับผมมาก, ในตอนนี้ผมเลือกความท้าทายนี้ในจุดที่ผมคิดว่ามันคือช่วงเวลาที่ถูกต้องที่จะเลือกมัน, เพื่อตื่นขึ้นมาแล้วเดินหน้าต่อ”…
Author: admin
Damon HyperFighter ไฮเปอร์เนคเก็ทไฟฟ้าคู่แฝด Damon Hypersport จากผู้ผลิตสัญชาติอเมริกา ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วในช่วงหลายวันที่ผ่านมา แถมในคราวนี้มันก็ไม่ได้มีการเปิดตัวเพียงรุ่นเดียวเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมกับรุ่นย่อยเสริมเพื่อเพิ่มตัวเลือกให้กับลูกค้าที่สนใจแต่งบไม่ถึงตัวรถสเป็คเต็มด้วย Damon HyperFighter Colossus คือไฮเปอร์เนคเก็ทไบค์ไฟฟ้า ที่ใช้พื้นฐานเดียวกันกับตัวรถ Damon Hypersport แต่มีจุดแตกต่างกันที่สามารถเห็นได้ด้วยสายตาแค่เพียงชิ้นส่วนเปลือกนอกเท่านั้น ที่ถูกปรับใหม่ให้ดูสมกับความเป็นเนคเก็ทไบค์มากยิ่งขึ้น ส่วนรายละเอียดทางเทคนิคต่างๆของมัน ก็เรียบได้ว่าแทบจะไม่ต่างจากคู่แฝดร่างสปอร์ตไบค์ โดยเฉพาะกับชุดเฟรมแบบโมโนค็อก ตัวมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้แรงม้าสูงสุด 200 PS และแรงบิดสูงสุดอีก 200 นิวตันเมตร แต่ด้วยหน้าตาแบบเนคเก็ทไบค์มันก็คงไม่สามารถแหวกลมในช่วงความเร็วสูงๆได้ดีเท่าสปอร์ตไบค์ ทำให้ความเร็วสูงสุดของตัวรถถูกตอนให้ลดลงจาก 200 ไมล์/ชั่วโมง (ราวๆ 321 กิโลเมตร/ชั่วโมง) เหลือ 170 ไมล์/ชั่วโมง (ราวๆ 273.6 กิโลเมตร/ชั่วโมง) ส่วนอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ก็สามารถทำได้ในระยะเวลาไม่ถึง 3 วินาที ขณะที่ระยะทางในการวิ่งสูงสุดก็อยู่ที่ 235 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็มแบตเต็มความจุ…
Kawasaki Z900 50th Anniversary รถมอเตอร์ไซค์โมเดลพิเศษคันใหม่ล่าสุด ถูกเผยโฉมอย่างเป็นทางการแล้วในคืนที่ผ่านมา เพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบเนคเก็ทไบค์ระดับตำนานของค่ายเขียวตระกูล “Z” Kawasaki Z900 50th Anniversary มาพร้อมความพิเศษคือการตกแต่งรูปลักษณ์ภายนอกด้วยกลิ่นอายของรุ่นพี่ Kawasaki Z1100GP รุ่นปี 1980 ดังนั้นเฉดสีของมัน จึงหนีไม่พ้นเฉดสี Firecracker Red มาพร้อมกับแถบกราฟฟิกสีน้ำเงินเข้มและสีเงิน, เฟรมสีดำ, ชุดล้อสีแดง แต่มีการกัดขอบสีน้ำเงินเพื่อสื่อถึงรุ่นพี่ในตำนาน, เสริมด้วยปลอกโช้กช โลโก้แบรนด์ที่ถังน้ำมัน กับโลโก้รุ่นที่แฟริ่งกาบข้าง และสติ๊กเกอร์ “Z50” ที่บังโคลนหน้า ที่จะถูกทำสีทองทั้งหมด นอกนั้นในด้านรายละเอียดทางเทคนิคต่างๆ Z900 รุ่นฉลอง 50 ปี “Z” ก็ยังคงใช้พื้นฐานเดียวกันกับ Z900 MY2022 ทั้งหมด ตั้งแต่ ระบบกันสะเทือนโช้กตะเกียบคู่หัวกลับทางด้านหน้า/โช้กเดี่ยวพร้อมกลไกกระเดื่องทดแรงทางด้านหลัง, ระบบเบรกด้านหน้าดิสก์คู่ขนาด 300 มิลลิเมตร ทำงานร่วมปั๊มเรเดียลเมาท์ 4 พอร์ท/ด้านหลังดิสก์เดี่ยวขนาด…
สำหรับมนุษย์เราไม่ว่าเรื่องใดๆ ยังไงเราทุกคนก็ต้องเริ่มจากศูนย์ แล้วเรียนรู้ที่จะทำก่อนทั้งนั้นถึงจะเป็นมือโปรได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการเดินทางไกลที่ต่อให้มีประสบการณ์ก็ใช่ว่าจะมั่นใจได้ทุกเมื่อ ดังนั้นในบทความ Tips Trick วันนี้เราจะมาพูดถึงข้อควรทำ/ควรรู้ สำหรับนักบิดมือใหม่หรือใครๆก็ตามที่ยังไม่รู้ว่าควรทำตัวอย่างไรบนท้องถนนบ้าง หากอยากอยู่รอดปลอดภัยตั้งแต่เริ่มเดินทาง จนกลับบ้านทั้งหมด 9 ข้อด้วยกัน ซึ่งเราก็คงไม่รอช้า มาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ 1. เรียนรู้วิธีการขี่ที่ถูกต้องก่อนลงไปขี่บนถนนจริง – หนึ่งในข้อปฏิบัติที่ดูเหมือนจะง่าย แต่สุดท้ายหลายคนก็ต้องประสบอุบัติเหตุกันแบบงงๆ ก็เนื่องจากไม่รู้ว่าควรขี่รถมอเตอร์ไซค์คู่ใจของเราอย่างไรกันแน่ เพราะในการขับขี่จริงๆ มันไม่ได้ง่ายๆแค่ บิดกุญแจ/สตาร์ท/กำคลัชท์/เข้าเกียร์/แล้วออกตัว ยังมีอีกหลายๆที่เราควรรู้ก่อนขี่ออกไปยังถนนจริง ไม่ว่าจะเป็น กฏการขับขี่ รวมถึง ท่านั่ง ท่าจับแฮนด์ หรือแม้กระทั่งการมองโค้ง การหักเลี้ยว การใช้เบรก ซึ่งต่างก็ล้วนเป็นสิ่งจำเป็นที่เราควรฝึกให้ดีซะก่อน ไม่เช่นนั้นแล้วเราอาจจะแหกโค้งไปดื้อๆทั้งๆที่ก็ไม่ได้มีใครมาเกี่ยวข้อง เพียงเพราะความไม่แม่นของตัวเราเอง 2. รู้จักรถของตัวเราให้ดี – นอกจากการรู้จักวิธีขี่ที่ถูกต้องแล้ว อีกสิ่งสำคัญก่อนขี่ก็คือทำความรู้จักกับตัวรถคู่ใจของเรา ว่าแท้จริงแล้วบุคลิกมันเป็นอย่างไร เพราะบ่อยครั้งที่เราเห็นข่าวนักบิดที่พึ่งได้รับรถมาใหม่ๆแหกโค้งหรือพุ่งชนอะไรซักอย่างเนื่องจากไม่คุ้นชินกับคันเร่ง และความแรงของเครื่องยนต์ ไปจนถึงเหวอกับน้ำหนักตัวรถที่สูงขึ้น ดังนั้นเราจังอยากให้เพื่อนๆ ทำความรู้จักคือเริ่มขับเบาๆพอให้รู้อาการของมันซะก่อนแล้วค่อยขับออกถนนใหญ่จริงๆ 3. ใช้ความเร็วเท่าที่ไหว -…
Royal Enfield เป็นแบรนด์รถจักรยานยนต์ที่ดำเนินการผลิตอย่างต่อเนื่องมานานที่สุดในโลกตั้งแต่ปีค.ศ. 1901 Royal Enfield ผ่านบททดสอบความทนทานของทั้งคน และเครื่องจักรในแต่ละช่วงเวลามาแล้วมากมาย อีกทั้งยังเข้ากับยุคสมัยต่าง ๆ จึงทำให้เป็นที่ต้องการของนักขับขี่รถจักรยานยนต์ทุกเพศทุกวัยมาอย่างต่อเนื่อง วันนี้รอยัล เอ็นฟีลด์ได้สร้างประวัติศาสตร์อีกครั้งด้วยการประสบความสำเร็จกับ 90 องศาใต้ ทริปขี่รถจักรยานยนต์ผจญภัยเส้นทางสู่ขั้วโลกใต้ด้วยรถจักรยานยนต์รอยัล เอ็นฟีลด์ Himalayan ความพยายามที่ไม่ธรรมดาครั้งนี้ยังเป็นการยกย่องความยึดมั่นในการขับขี่รถจักรยานยนต์ที่แท้จริงของแบรนด์ รวมถึงความกล้าหาญ และความยืดหยุ่นของนักสำรวจ และนักขับขี่ทุกคนที่สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเดินทางผจญภัยบนรถจักรยานยนต์ของพวกเขา เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2564 ที่ผ่านมา คุณ Santhosh Vijay Kumar และคุณ Dean Coxson ทำให้การเดินทางที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นนี้เป็นจริงในระยะเวลา 15 วัน ทั้งสองคนเดินทางจากเมืองเคปทาวน์ไปถึงเมืองโนโวในทวีปแอนตาร์กติกา เพื่อใช้เวลา 4 วันปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศ โหลดเสบียง และตรวจสอบอุปกรณ์ รวมถึงรถจักรยานยนต์ จากนั้นจึงขับขี่ออกจากเมืองโนโวเป็นระยะทาง 3,200 กิโลเมตร ใช้เวลา 9…
รถจักรยานยนต์ฮอนด้า ผู้นำวงการขับขี่ปลอดภัยของเมืองไทย เปิดตัวโครงการ “ฮอนด้าจัดให้ ชาวมอเตอร์ไซค์ต้องมีใบขับขี่” มอบแพคเกจเรียนขับขี่ปลอดภัย พร้อมเข้ารับการทดสอบเพื่อรับใบขับขี่โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย สำหรับผู้ซื้อรถจักรยานยนต์ฮอนด้าใน 10 จังหวัดทั่วทุกภูมิภาค มร.ชิเกโตะ คิมูระ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยฮอนด้า แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย กล่าวว่า “กว่า 3 ทศวรรษที่ผ่านมา ฮอนด้าได้ให้ความสำคัญกับเรื่องขับขี่ปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง และไม่เคยหยุดนิ่งในการพัฒนาสิ่งใหม่ๆ ทั้งในเรื่องของเทคโนโลยีความปลอดภัย ควบคู่ไปกับการให้ความรู้ด้านการขับขี่อย่างปลอดภัยสู่สังคมไทย” “แนวทางของไทยฮอนด้า สอดคล้องเป็นแนวทางเดียวกันกับทางฮอนด้ามอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น ที่ได้ประกาศวิสัยทัศน์ถึงเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่เอาไว้อย่างชัดเจนเมื่อไม่นานมานี้ นั่นคือการลดอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนจากยานยนต์ฮอนด้าลงครึ่งหนึ่งภายในปี 2030 และลดลงให้เป็นศูนย์ภายในปี 2050” “สำหรับในเมืองไทย ผลโครงการวิจัยเพื่อเมืองไทยไร้อุบัติเหตุ โดยศูนย์วิจัยอุบัติเหตุแห่งประเทศไทยหรือ TARC ได้เปิดเผยให้เห็นว่าผู้ใช้รถจักรยานยนต์ชาวไทยมากกว่า 90% ยังขาดทักษะขับขี่ที่ถูกต้อง และยังมีผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์อีกเป็นจำนวนมากที่ไม่มีใบขับขี่ ไทยฮอนด้าได้ตระหนักถึงปัญหาและต้องการเข้ามาร่วมแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม เป็นที่มาของการเปิดตัวโครงการพิเศษ ‘ฮอนด้าจัดให้ ชาวมอเตอร์ไซค์ต้องมีใบขับขี่’ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะมอบทักษะขับขี่ปลอดภัยให้ผู้ใช้รถจักรยานยนต์ฮอนด้า และลดความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุ” ฮอนด้าพร้อมเดินหน้าโครงการ “ฮอนด้าจัดให้…
CFmoto 800MT รถแอดเวนเจอร์ไบค์คันแรกของทางค่าย ถูกเปิดตัวและเตรียมนำไปจำหน่ายอย่างเป็นทางการในสหราชอาณาจักรแล้ววันนี้ พร้อมเคาะราคาเอาไว้ที่ราวๆ 4.3 แสนบาท CFmoto 800MT มาพร้อมงานดีไซน์ภายนอกที่ถูกออกแบบให้ดูมีความทันสมัย และสวยงามทัดเทียมรถมอเตอร์ไซค์สัญชาติยุโรปมากขึ้น ไม่เพียงเท่านั้นยังมีการติดตั้งชุดวินชิลด์หน้าขนาดใหญ่, การติดตั้งการ์ดแฮนด์ชิ้นโต, ชุดไฟหน้า LED, กาบแฟริ่งด้านข้างงานสีอลูมิเนียมที่ครอบชุดไฟตัดหมอกแบบ Built-in อยู่, ให้ถังน้ำมันความจุ 19 ลิตร และชุดล้อซี่ลวดสีทอง ที่รัดด้วยยางขอบ 110/80-R19 และ 150/70-R17 ตามลำดับหน้า-หลัง ด้านชุดเฟรมของมันก็จะเป็นแบบโครงเหล็กถักที่ออกแบบขึ้นใหม่เพื่อให้ทำงานร่วมกับเครื่อยนต์ 2 สูบเรียง 799cc ที่หยิบยืมมาจาก KTM 790 Duke ได้อย่างพอดิบพอดี ซึ่งเครื่องยนต์ลูกที่อยู่กับ 800MT รุ่นนี้ ก็จะสามารถทำกำลังสูงสุดได้ 94 แรงม้า ที่ 9,500 รอบ/นาที กับแรงบิดสูงสุดอีก 77 นิวตันเมตร ที่ 6,500…
หลังจากที่ Casey Stoner ได้เข้าไปเป็นผู้ช่วยแนะนำให้กับ Jack Miller และ Francesco Bagnaia ในการแข่งขันสองนัดสุดท้ายก่อนปิดฤดูกาล MotoGP 2021 ทั้งสองนักบิด Ducati ต่างก็มีความเห็นตรงกันว่าพวกเขาอยากให้แชมป์โลก 2 สมัยรายนี้ มารับหน้าที่ดังกล่าวต่อไป ในการแข่งขันปี 2022 ซึ่งทางฝั่ง Stoner ก็ออกมายอมรับว่าตัวเขาค่อนข้างสนใจ ติดแค่เพียงมันไม่ตอบโจทย์ในการใช้ชีวิตในปัจจุบันของตนเองเท่าไหร่นัก “มันคือบางสิ่งที่ผมอยากจะทำอยู่แล้วหลังประกาศยุติอาชีพนักบิดของตนเอง, แต่มันไม่ง่าย, (เพราะ)ผมมีครอบครัวในออสเตรเลีย, ตอนที่ผมเดินทาง, ผมต้องทิ้งพวกเขาไว้ให้อยู่กันเองเป็นเวลานานๆ (ทำให้ Casey เป็นห่วง)” Casey Stoner กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสื่อฯ Motorsport-Total.com “ถ้าหากผมจะทำมัน, ผมไม่อยากทำมันแบบครึ่งๆกลางๆ, ถ้าผมทำ, ผมอยากทำมันอย่างจริงจังเพื่อช่วยสักคน, ผมได้มีการพูดคุยเรื่องนี้กับทั้งภรรยาแล้วก็คนอื่นๆ, ผมรักที่จะทำมัน” “ผมคิดว่าผมสามารถให้ข้อมูลได้มากมาย เพราะผมมีมุมมองที่แตกต่าง, ผมรู้ว่าอะไรจะทำยังไงให้ไปได้เร็ว และรู้ว่าทำไมบางอย่างถึงเกิดขึ้น, มันจะช่วยผมได้มากเลย ถ้าผมมีใครสักคนมาช่วยผม(แบบนี้)บ้าง, ผมอยากจะทำมัน, แต่มันก็ยาก…
จัดกันไปอย่างต่อเนื่อง สำหรับการเปรียบเทียบสเป็กทางเทคนิคของซุปเปอร์ไบค์พระรองกันอีกเช่นเคยในวันนี้ และมันก็ถึงเวลาของการเปรียบเทียบสเป็คระหว่าง Kawasaki ZX-10R กับ Suzuki GSX-R1000 กันสักที ซึ่งรายละเอียดทางเทคนิคของพวกมัน จะมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง ? เราก็มาลองดูกันเลยครับ เครื่องยนต์ 2021 Suzuki GSX-R1000 : 4 สูบเรียง / 4 วาล์วต่อสูบ / DOHC พร้อมระบบวาล์วแปรผันฝั่งไอดี SR-VVT / ระบายความร้อนด้วยน้ำ / อัตราส่วนกำลังอัด 13.0 : 1 / ขนาดกระบอกสูบ x ช่วงชัก : 76 มิลลิเมตร x 55.1 มิลลิเมตร / ขนาดความจุ 999cc 2021 Kawasaki ZX-10R…
หลังเผยโฉมออกมาครั้งแรกเมื่อปลายปี 2018 ในงาน EICMA Show ตามด้วยการเปิดรับระดมทุนจากบุคคลทั่วไปให้พวกเขาเหล่านั้นได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของโปรเจ็กท์ผลิตเจ้า Vector ในช่วงต้นปี 2019 ในที่สุด เจ้า ARC Vector ก็พร้อมสำหรับการส่งมอบให้กับลูกค้าสักที และจุดเด่นที่ทาง Arch ได้เลือกชูขึ้นมาสำหรับเจ้า Vector คันนี้ก็มีหลายอย่างด้วยกัน ไล่ตั้งแต่ตัวมอเตอร์ไฟฟ้าที่สามารถสร้างกำลังได้สูงสุดถึง 127 แรงม้า ซึ่งช่วยให้ตัวรถสามารถไต่ความเร็วได้สูงสุดถึง 241 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่วนตัวแบตเตอรี่เองก็ผลิตโดยบริษัท Samsung รองรับการใช้งานได้ไกลประมาณ 470 กิโลเมตร ด้านตัวเฟรมเป็นแบบคาร์บอนโมโนค็อก แม้แต่ตัวสวิงอาร์มกับชุดล้อเองก็ทำจากคาร์บอนเช่นกัน จนทำให้น้ำหนักโดยรวมของตัวรถเบาเพียง 219 กิโลกรัมเท่านั้น (ซึ่งนี่ถือว่่าเบามากแล้วสำหรับรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า) ขณะที่ระบบบังคับเลี้ยวเป็นแบบ Center-Hub ระบบกันสะเทือนหน้า/หลังเป็นของ Ohlins และชุดเบรกเป็นของ Brembo ส่วนชุดมาตรวัดไม่ได้ติดตั้งเอาไว้ที่รถ แต่ถูกออกแบบเป็นจอ HUD ติดตั้งไว้ในหมวกกันน็อคคาร์บอนที่จะแถมให้กับตัวรถอีกทีหนึ่ง ซึ่งเรียกได้ว่าจัดเต็มที่สุดเท่าที่ผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์ในยุคปัจจุบันนี้จะสรรสร้างสรรหามาให้ได้ สำหรับราคาค่าตัวแบบไม่รวมภาษีของ Arch Vactor…