โดยปกติแล้ว การแข่งขัน MotoGP ในแต่ละสนาม ตัวเลือกยางที่นักบิดสามารถเลือกใช้ได้ หลักๆมักจะมีแค่เพียง 5 คอมพาวน์ โดยแบ่งเป็น ยางสลิกสำหรับแทร็คแห้ง 3 คอมพาวน์ และยางกัดดอกสำหรับแทร็คเปียกอีก 2 คอมพาวน์ แต่ด้วยความที่การวนกลับมาแข่ง ณ สนาม Circuit Of The Americas (Austin, Texas) ในครั้งนี้ มีตัวแปรหลายอย่างที่เปลี่ยนไปจากการแข่งขันครั้งล่าสุดเมื่อปี 2019 มาก ทาง Michelin จึงต้องเพิ่มคอมพาวน์ยางใหม่อีกชุดเพื่อให้นักบิดได้เลือกใช้เพิ่มหากจำเป็น เกี่ยวกับเรื่องนี้ ส่วนหนึ่งก็มีสาเหตุมาจากการที่ การกลับมาแข่ง ณ สนาม Circuit Of The Americas (Austin, Texas) ของศึก MotoGP ในครั้งนี้ เป็นการเว้นว่างจากการแข่งครั้งล่าสุดถึง 2 ปี ซึ่งในระหว่างช่วงเวลาที่หายไปนั้น ทางผู้จัดสนามได้มีการปรับปรุงผิวแทร็คใหม่ตั้งแต่ช่วงปลายปี…
Author: admin
นับตั้งแต่ที่ Yamaha YZF-R15 โฉมปี 2022 ได้ถูกเผยโฉมออกมาเมื่อสัปดาห์ก่อน ก็มีเหล่าสาวก Yamaha หลายคนอยากทราบว่ามันจะมีความแตกต่างในเรื่องตัวเลขทางเทคนิคที่สามารถเห็นได้จากในโบรชัวร์อย่างไรบ้าง ซึ่งเราก็ได้รวบรวมข้อมูลเหล่านั้นมาให้เพื่อนๆได้รับชมกันแล้วในวันนี้ เครื่องยนต์ 2020 Yamaha YZF-R15 : 1 ลูกสูบ / SOHC พร้อมระบบวาล์วแปรผัน VVA / 4 วาล์วต่อสูบ / ระบายความร้อนด้วยน้ำ / ขนาดกระบอกสูบ x ช่วงชัก : 58.0 x 58.7 มิลลิเมตร / ความจุสุทธิ 155.1 ซีซี 2022 Yamaha YZF-R15 : 1 ลูกสูบ / SOHC พร้อมระบบวาล์วแปรผัน VVA /…
หลังจากที่ Yamaha YZF-R15 ได้ถูกปรับโฉมใหญ่ และเปิดตัวแบบครั้งแรกในโลกที่ประเทศอินเดีย คำถามที่ตามมาจากเหตุการณ์นั้นก็คือการที่ชาวไทยหลายๆคนต่างตั้งข้อสงสัยว่า แล้วถ้าเกิดมันถูกนำมาเปิดตัวในบ้านเราด้วยสเป็คและออพชันที่จัดเต็มขนาดนั้น ราคาของมันจะขยับขึ้นไปอีกเท่าไหร่กันแน่ ? เนื่องจากตอนนี้กับ R15 โฉมปัจจุบันก็แทบจะเป็นสปอร์ตคลาส 150 ที่แพงที่สุดอยู่แล้ว เกี่ยวกับเรื่องนี้ เราคงต้องขออิงการปรับเพิ่มราคาของ YZF-R15 โฉมล่าสุด เมื่อเทียบกับ YZF-R15 โฉมก่อนหน้า ว่ามันมีส่วนต่างกันมากเท่าใดสำหรับการวางจำหน่ายในประเทศอินเดีย ซึ่งจากข้อมูลที่เราได้ลองเสาะหามา พบว่า Yamaha YZF-R15 MY2021 (โฉมที่ยังขายอยู่ในบ้านเรา) ถูกตั้งราคาสำหรับการวางจำหน่ายในประเทศอินเดียไว้ที่ 157,600 รูปีย์ หรือราวๆ 72,000 บาทเท่านั้น ขณะที่ YZF-R15 MY2022 ก็ถูกอัพราคาขึ้นมาที่ 167,800 รูปีย์ หรือราวๆ 75,600 บาท ส่วนตัวท็อปสุดอย่าง YZF-R15M/YZF-R15 MotoGP MY2022 ก็จะสนนราคาสูงขึ้นไปอีกนิด เป็น 177,800…
หลังการเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อคืนก่อน Kawasaki Z650RS ก็กลายเป็นรถมอเตอร์ไซค์อีกหนึ่งคันที่สาวกค่ายเขียวน่าจะรอคอยกันอยู่พอสมควร เพราะแม้โดยพื้นฐานแล้ว มันจะใช้โครงสร้างแทบจะเดียวกันกับ Z650 แต่ด้วยหน้าตาที่เน้นความสวยงามฉบับ “Retrovolution” จึงไม่แปลกที่ใครหลายๆคนจะอยากเห็นมันตัวเป็นๆกันสักครั้ง เกี่ยวกับเรื่องนี้ อันที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องที่ซับซ้อนมากเท่าไหร่นัก เพราะหากเราอิงจากลักษณะการเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์โมเดลใหม่ๆของทาง Kawasaki ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยปกติแล้ว หากเป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่มีความจุไม่เกิน 900cc และเป็นโมเดลที่ผลิตในประเทศไทยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พวกเขาก็มักจะเปิดตัวพวกมันภายในช่วงเวลาไม่นานนักหลังจากการเปิดตัวในระดับ Global หรือว่าง่ายๆก็คือ หากมีการเปิดตัวรถแบบ World Premiere ในยุโรป ช่วงปลายไตรมาส 3 – ต้นไตรมาสที่ 4 ของปีใด ทาง Kawasaki ประเทศไทย ก็จะนำรถมอเตอร์ไซค์โมเดลเหล่านั้นมาเปิดตัวในช่วงปลายไตรมาส 4 แทบทันที ดังนั้น จากการที่ Kawasaki Z650RS ถูกเผยโฉมในช่วงปลายเดือนกันยายนเช่นนี้ ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด ที่ทาง Kawasaki ประเทศไทย จะเผยโฉมมันในบ้านเรา จึงมีความเป็นไปได้สูงสุดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงปลายปีนี้ หรือหากให้เจาะจงอย่างชัดเจนมากขึ้น…
กลับมาอีกครั้งสำหรับการแข่งขัน MotoGP ณ สนาม Austin Texas ในรอบ 2 ปี หลังจากที่ปีก่อน สนามแห่งนี้ต้องถูกถอนออกจากปฏิทินไป ด้วยนโยบายความปลอดภัยจากการระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ทั่วโลก และอย่างที่หลายคนทราบกันว่า สนามแห่งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งสนามถนัดของ Marc Marquez ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมรับตามตรงว่า เขารอไม่ไหวแล้วที่จะได้กลับมาแข่งที่นี่อีกครั้ง “ผมรอคอยที่จะได้ไปออสติน และเราก็จะไปถึงที่นั่นหลังสองการแข่งขันที่ดี, ทั้งในอารากอนแล้วหลังจากนั้นก็ที่มิซาโน่” Marc Marquez กล่าว “มันเป็นรูปแบบแทร็คที่ผมชอบ และในอดีตเราประสบความสำเร็จมากมาย แต่ในปีนี้ มันต่างออกไปนิดหน่อย จากสถานการณ์(สภาพร่างกายและความพร้อมของตัวแข่ง)ของเราเมื่อไปถึงที่นั่น” “เหมือนที่ผ่านมา, มันจะเป็นก้าวที่สำคัญที่ต้องสร้างในสุดสัปดาห์ และได้รู้ว่าเราอยู่ในระดับไหนของเช้าวันอาทิตย์, ไม่ว่าด้วยเหตุใด มันจะเป็นการกลับไปที่ยิ่งใหญ่ เพราะมันคือรอบการแข่งขันที่ผมมีความสุขมากๆ” ขอบคุณข้อมูลจาก Crash.net อ่านข่าว MotoGP เพิ่มเติมได้ที่นี่
ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ ประกาศเดินหน้าสานต่อความร่วมมือและเป็นผู้สนับสนุนหลักในงาน เดอะ ดิสธิงกวิช เจนเทิลแมน ไรด์ (The Distinguished Gentleman Ride) อีเวนท์การกุศลสำหรับการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์สไตล์คลาสสิกและวินเทจระดับโลก ต่อเนื่องไปอีก 5 ปี โดยการสานต่อความสัมพันธ์ในครั้งนี้เป็นสิ่งยืนยันความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของสุดยอดอีเวนท์ ซึ่งได้รวบรวมผู้ที่หลงใหลในการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์หลายแสนคนทั่วโลก มาร่วมกันระดมทุนและรณรงค์สร้างความตระหนักรู้ในเรื่องมะเร็งต่อมลูกหมากและสุขภาพจิตของผู้ชาย ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ มีความภูมิใจที่ได้รับบทบาทเป็นผู้สนับสนุนหลักของ เดอะ ดิสธิงกวิช เจนเทิลแมน ไรด์ (The Distinguished Gentleman Ride) ตั้งแต่ปี 2014 โดยร่วมมือกับ มร.มาร์ค ฮาววา และทีมงานในการช่วยพัฒนาอีเวนท์นี้ให้เติบโตจนกลายเป็นงานที่มีชื่อเสียงระดับโลกในปัจจุบัน การสนับสนุนตลอดหลายปีที่ผ่านมาของ ไทรอัมพ์ทั้งการสร้างความตระหนักรู้ สร้างการรับรู้ของกิจกรรมในวงกว้าง และการมอบรางวัลให้แก่ผู้ที่ร่วมกิจกรรม ถือเป็นหัวใจสำคัญของบทบาทไทรอัมพ์ในฐานะพันธมิตร และผู้สนับสนุนหลัก ซึ่งทำให้กลุ่มนักขี่ไทรอัมพ์ ตัวแทนจำหน่าย พนักงาน ครอบครัว และเพื่อนฝูง ได้สนุกสนานกับการขับขี่มอเตอร์ไซค์ การแต่งตัวให้เข้ากับธีมงาน และแบ่งปันประสบการณ์อันดีร่วมกัน สำหรับ…
BMW Motorrad ประเทศไทย ชวน Smiths Vintage Club สำนักมอเตอร์ไซค์คัสตอมอันดับต้นๆ ของเมืองไทย มาร่วมกันจุดประกายให้กับวงการนักแต่งรถสไตล์วินเทจ ด้วยการเปิดตัวโปรเจกต์สุดพิเศษ BMW R18 Custom ต่อยอดจากรถครูซเซอร์รุ่นดั้งเดิมที่เปี่ยมด้วยเอกลักษณ์ของ BMW Motorrad ในทุกอณู BMW R18 เป็นมอเตอร์ไซค์ครูซเซอร์ดีไซน์คลาสสิกที่นำเอาดีเอ็นเอจากรถต้นแบบอย่าง BMW Concept R5 ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจาก BMW R5 รุ่นเดิมจากเมื่อกว่า 80 ปีที่แล้ว กลับมาชุบชีวิตใหม่อีกครั้งด้วยเครื่องยนต์รุ่นใหม่ที่มีขนาดใหญ่ เจาะตลาดกลุ่มผู้ชื่นชอบรถทรงคลาสสิก สำหรับการออกแบบตัวรถ ไม่ได้มีเพียงรูปทรงที่ดูย้อนยุคเท่านั้น แต่ยังยกมาทั้งดีไซน์ของท่อไอเสีย บังโคลนแบบคลาสสิค รวมถึงระบบต่างๆ เช่นเพลาขับเคลื่อน ซึ่งย้อนกลับไปใช้องค์ประกอบและรูปแบบในแนวเดียวกันรุ่นดั้งเดิม ในลุคใหม่ที่คุมโทนสีดำ ตัดกับความเงาของโครเมี่ยมได้อย่างลงตัว BMW Motorrad ได้เชื่อมั่นในพลังของเครื่องยนต์บ็อกเซอร์มาตั้งแต่ปี 1923 เราจึงนำเครื่องยนต์บ็อกเซอร์สองสูบที่ทรงพลังที่สุดของเราด้วยขนาด 1,802 cc มาเป็นหัวใจของ BMW…
Kawasaki Z650RS นีโอ-เรโทรไบค์ โมเดลใหม่ล่าสุดจากค่ายเขียว ถูกเผยโฉมอย่างเป็นทางการแล้วในช่วงข้ามคืนที่ผ่านมา หลังจากที่ทางค่ายได้ทำการปล่อยทีเซอร์ของมันเอาไว้ก่อนหน้านี้นานนับเดือนกับธีม “Retrovolution” สำหรับข้อมูลในเบื้องต้น แน่นอนว่า Kawasaki Z650RS ก็จะถูกสร้างขึ้นโดยอาศัยการต่อยอดโครงสร้างพื้นฐานมาจาก Kawasaki Z650 มาพร้อมกับชิ้นส่วนเปลือกนอกใหม่ที่ถูกออกแบบให้เน้นดีไซน์แบบคลาสสิค ทิศทางเดียวกันกับรุ่นพี่อย่าง Z900RS เป็นหลัก ตั้งแต่ชุดไฟหน้า LED โคมกลม, ถังน้ำมันทรงหยดน้ำ ความจุเพียง 12 ลิตร, บังโคลนหน้าและบังโคลนดีไซน์เรียบง่าย, ไฟท้าย LED ทรงย้อนยุค, และชุดล้อแบบ 10 ก้านตัว Y (หรือ 20 ก้านเล็ก) ที่ถูกออกแบบมาเพื่อสื่อถึงกลิ่นอายของต้นกำเนิดรถมอเตอร์ไซค์ตระกูล Z ในอดีตเมื่อปี ค.ศ. 1970 แม้แต่ชุดหน้าจอมาตรวัดของ Z650RS เอง ก็ถูกยกงานดีไซน์กรอบภายนอกมาจาก Z900RS เช่นกัน นั่นก็คือเป็นชุดหน้าจอมาตรวัดแบบเข็มกวาดโคมคู่ แยกฝั่งกันระหว่างวัดรอบเครื่อยนต์กับวัดความเร็ว โดยมีหน้าจอ…
จากกระแสตอบรับที่ค่อนข้างดีของ GPX GR200R 2022 ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์บล็อคใหม่ แบบ 4 วาล์ว ทำให้เกิดข้อสงสัยในเหล่าผู้ที่กำลังให้ความสนใจในรถมอเตอร์ไซค์สปอร์ตไบค์คลาส 150cc-200cc เป็นอย่างมากว่ามันจะสามารถสู้กับสปอร์ตไบค์ยอดนิยมในคลาสนี้ ที่พึ่งถูกปรับโฉมใหญ่ไปเช่นกันอย่าง Yamaha YZF-R15 MY2022 ด้วยหรือไม่ ดังนั้นในวันนี้ เราจึงขอเพาเพื่อนๆมาลองเปรียบเทียบสเป็คทางเทคนิคของพวกมันดูกันสักหน่อยดีกว่าครับ เครื่องยนต์ 2022 GPX DEMON GR200R : 1 ลูกสูบ / SOHC / 4 วาล์วต่อสูบ / ระบายความร้อนด้วยน้ำ / ขนาดกระบอกสูบ x ช่วงชัก : 65.5 x 58.8 มิลลิเมตร / ความจุสุทธิ 198 ซีซี 2022 Yamaha YZF-R15 :…
โดยปกติแล้ว ตัวแข่ง Ducati มักจะขึ้นชื่อในเรื่องของการวิ่งในทางตรงเพียงอย่างเดียว และในทางกลับกันก็มีข้อด้อยในเรื่องของการเข้าโค้งแคบๆ แต่ในการแข่งขัน MotoGP สนามล่าสุดที่มิซาโน ประเทศอิตาลี ซึ่งปกติแล้วจะเป็นสนามที่ไม่ค่อยเข้าทางตัวแข่งค่ายแดงมากเท่าไหร่นัก เหล่านักบิดสังกัดนี้กลับพากันเค้นผลงานดีๆออกมาได้ จนทำให้ Alex Rins มองว่าตัวแข่งของค่ายแดงนั้นก้าวหน้าไปไกลจากตัวแข่งของทีมตนเองไปหลายก้าวเลยทีเดียว “แน่นอน, ผมรู้สึก Ducati นำหน้าเราไปห้าก้าวได้” Alex Rins กล่าว “ผมหมายถึง, พวกเค้าแข็งแกร่งมากๆ, การล้มครั้งนี้(ในการแข่งขันล่าสุด) อาจเป็นเพราะผมพยายามจะกดเวลาให้เท่าเดิม(กับ Bastianini)”, “Joan Mir และผม, พวกเราพยายามกันอย่างดีที่สุดกับ Suzuki”, “สำหรับ Joan แน่นอนว่าเค้าสู้เพื่อ(ป้องกัน)แชมป์เปี้ยน, ส่วนผมก็ไม่มีอะไรจะเสีย ดังนั้นผมเลยพยายามที่จะขี่ให้ดุดันน้อยลง, แต่ก็เข้าใกล้ขีดจำกัดมากขึ้น”, “บางทีผมก็ขี่เกินขีดจำกัด แล้วก็พลาดล้ม” “พวกเค้าค่อนข้างดีกว่าเรา, ผมอยากจะบอกว่าในทุกการแข่งขันเลย เพราะในอดีต Ducati เป็นรถที่จะทำได้ดีในสนามแบบ Stop and Go (เบรกหนักๆ และมีทางตรงยาวให้เปิดคันเร่งยาวๆ)…