ย้อนไปในปี 2015 ทาง Mahindra ได้ทำการเปิดตัวแน็คเก็ทไบค์พิกัด 295cc สูบเดียว เพื่อทำตลาดในอินเดียโดยใช้ชื่อว่า Mojo ซึ่งล่าสุดดูเหมือนว่าพวกเค้าจะไม่หยุดแค่นั้น เนื่องจากได้มีภาพเรนเดอร์ของเจ้ารถคันนี้ในคราบของสปอร์ตไบค์ฟูลแฟริ่งปล่อยออกมาในชื่อ Mahindra Supersport Mojo โดยนักออกแบบชาวอิตาลี Oberdan Bezzi จากภาพจะเห็นได้ว่า Mahindra Supersport Mojo ยังคงใช้พื้นฐานตัวรถแบบเดียวกับแน็คเก็ทไบค์ Mahindra Mojo ทั้งโครงรถ สวิงอาร์ม ชุดเบรก และโช้กหน้าหัวกลับ ไปจนถึงเครื่องยนต์ 295cc สูบเดียว ที่เดินท่อไอเสียออกข้างตัวรถทั้งด้านซ้ายและด้านขวา ส่วนจุดแตกต่างก็มีทั้งแฟริ่งดีไซน์สปอร์ต ที่ได้รับการติดตั้งชุดโคมไฟหน้าโปรเจ็คเตอร์ พร้อมเดินหลอด DRL ตามยุคสมัย กระจกมองหลังแบบมีไฟเลี้ยวในตัวถูกติดตั้งข้างวินชิลด์ ด้านแฮนด์จับโช้กที่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ออกแบบให้มีระดับความสูงอยู่เป็นระนาบเดียวกับตัวเบาะนั่งในแบบที่รถสปอร์ตไบค์ควรจะเป็นเท่าไหร่นัก เนื่องจาก Oberdan คาดว่า Mahindra ต้องการที่จะสร้างให้เจ้า Mahindra Supersport Mojo มีความเป็นมิตรกับผู้ขับขี่ในเรื่องของท่านั่งมากกว่า ดังที้จะเห็นได้จากตัวเลขความจุถังน้ำมันที่สูงถึง 21…
Author: admin
Lambretta ฉลองครบรอบวาระ 70 ปี ด้วยการเปิดตัวสกูตเตอร์รุ่นใหม่ นำทัพด้วย Lambretta Vendetta “V-Special” พร้อมเกริ่นเตรียมเปิดตัวสองคลาสสิคสกูตเตอร์ GP200 และ SX200 ตามด้วยอีกหนึ่งสกูตเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งใช้พื้นฐานในการสร้างจากสกูตเตอร์โฉมที่ทำตลาดในเอเชียเป็นหลักในปี 2018 สำหรับโครงสร้างตัวรถของ Lambretta Vendetta “V-Special” นั้นจะเป็นแบบโมโนค็อกที่ทำจากเหล็กกล้าหนา 1.2 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นจุดเด่นมาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้วสำหรับรถสกูตเตอร์จากอิตาลีและใช้เครื่องยนต์ 4 จังหวะเป็นตัวให้กำลังเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐาน Euro4 แทนเครื่องยนต์ 2 จังหวะของเดิมที่ติดรถมาเมื่อเกือบ 70 ปีที่แล้ว ส่วนสกูตเตอร์รุ่นใหม่ที่มีชื่อว่า GP200 และ SX200 เราคาดว่าสาวก Lambretta อาจจะพอคุ้นหูกันอยู่บ้างเนื่องจากว่านี่คือสกูตเตอร์ที่ทางค่ายเคยผลิตออกมาแล้วตั้งแต่ปี1968 และ 1966 โดยในครั้งนี้พวกเค้าจะทำการนำเจ้าสกูตเตอร์หน้าตาคลาสสิคคู่นี้กลับมาปัดฝุ่นอีกครั้ง โดยมอบหน้าที่การออกแบบให้กับ KISKA นักออกแบบชาวออสเตรียที่เคยฝากผลงานมาแล้วกับ KTM และ Husqvarna ส่วนสกูตเตอร์ไฟฟ้านั้นคาดว่าทาง Lambretta…
เปิดตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับทัวร์ริ่งครุยเซอร์รุ่นใหม่จาก Yamaha ที่ก่อนหน้านี้เราได้เคยเสนอข่าวไปว่าพวกเค้าได้ทำการปล่อยทีเซอร์เรื่องราวของไบค์เกอร์สูงวัยกับการเดินทางข้ามรัฐ ก่อนที่จบท้ายคลิปด้วยฟังก์ชั่นที่พวกเค้าอยากให้มีในครุยเซอร์คันใหม่ ซึ่งผลที่ได้ก็คือเจ้า 2017 Yamaha Star Venture คันนี้ 2017 Yamaha Star Venture ถูกจัดอยุ่ในกลุ่มทัวร์ริ่งครุยเซอร์ที่เน้นไปในเรื่องของฟังก์ชั่นสำหรับการเดินทางอย่างเพียบพร้อมสะดวกสบาย ส่งกำลังด้วยเครื่องยนต์ V-Twin ที่มีความจุสูงถึง 1,854cc แต่ระบายความร้อนด้วยอากาศ ซึ่งน่าเสียดายที่ทาง Yamaha ไม่ได้ระบุเลขแรงม้าและแรงบิดสูงสุดเอาไว้ แต่ก็ได้มีการเกริ่นคร่าวๆว่าพละกำลังของมันนั้นมาด้วยรอบต่ำขนาดที่ว่า สามารถขับขี่ด้วยความเร็ว 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง ด้วยรอบแค่เพียง 2,750 รอบ/นาที ที่เกียร์ 6 เท่านั้น ด้านฟังชันก์อื่นๆที่น่าสนใจของ 2017 Star Venture ก็มีทั้ง หน้าจอแสดงผลทัชสกรีนที่ออกแบบมาเพื่อสั่งการระบบบลูทูธ เล่นเพลง ไปจนถึงระดับการอุ่นเบาะนั่งและแฮนด์ แม้กระทั่งวินชิลด์ ก็สามารถสั่งการได้ทั้งหมดจากหน้าจอตัวนี้ ตามด้วยระบบ Keyless และชุดไฟ LED ส่องสว่างขนาดใหญ่ซึ่งเป็นจุดเด่นแรกๆที่ทาง Yamaha…
Harley-Davidson ประกาศรีคอลล์รถมอเตอร์ไซค์ประเภททัวร์ริ่งในสหรัฐอเมริกาจากปัญหาการติดตั้งเข็มขัดรัดท่อออยคูลเลอร์ผิดพลาด โดยครอบคลุมโมเดลที่ผลิตตั้งแต่วันที่ 2 กรกฏาคม ของปี 2016 จนถึงวันที่ 9 พฤษภาคม ของปี 2017 ทั้งหมด 9 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ Electra Glide Ultra Classic, Road King, Road King Special, Street Glide, Street Glide Special, Road Glide, Road Glide Special, Police Electra, และ Police Road King จำนวนรวมกันถึง 45,589 คัน จากข้อมูลในเอกสารที่ทาง NHTSA ได้แจ้งมา ระบุไว้ว่าตัวชิ้นส่วน “เข็มขัดรัดท่อ” หมายเลข…
น่าอิจฉาไม่น้อยเลยทีเดียวสำหรับตำรวจอิตาลี ที่ล่าสุดทางรัฐบาลได้ประกาศว่า รถมอเตอร์ไซค์ตรวจการณ์คันล่าสุดของพวกเค้าจะเป็น Ducati Multistrada 1200S และ Multistrada 1200 Enduro “Carabinieri Edition” โดยจะประจำการในหน่วยงานที่ชื่อ G7 ที่ตั้งอยู่ในเมือง Taormina (เตาร์มินา) ประเทศอิตาลี แต่มีขอบเขตการทำงานครอบคลุมถึงกรุมโรม และมิลาน เริ่มกันที่สีสันภายนอกของตัวรถ Ducati Multistrada 1200S และ 1200 Enduro “Carabinieri Edition” ที่ถูกเปลี่ยนให้เน้นให้มีพื้นที่สีดำด้านแทบจะเกิน 90% ตัดด้วยเส้นสายสีแดงพร้อมกับประทับตราประจำหน่วยงานเพื่อเสริมความดุดันตามลักษณะการใช้งานที่ต้องเป็นรถสำหรับลาดตระเวน และยังมีการติดตั้ง ชุดไซเรน, ลำโพงคู่, แครชบาร์, และกระเป๋าหลัง เพื่อใช้ในการเก็บอุปกรณ์สำหรับปราบจราจล ไปจนถึงอุปกรณ์ช่วยเหลือฉุกเฉินอื่นๆตามสถานการณ์ ในส่วนของเครื่องยนต์ Ducati Multistrada 1200S และ 1200 Enduro “Carabinieri Edition” เป็นบล็อก Testastretta DVT…
หลังจากที่ Honda ได้ประกาศแล้วว่าพวกเค้าจะไม่ทำการสนับสนุนเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง 600cc ที่ได้มาจาก CBR600RR ให้กับ Dorna เพื่อใช้แข่งขันในรุ่น Moto2 นับตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นไป ล่าสุดทาง Triumph ได้ออกมาให้การยืนยันแล้วว่าพวกเค้าจะเป็นคนรับช่วงต่อหน้าที่นี้เอง โดยใช้เครื่องยนต์ 3 สูบเรียง 765cc จาก Street Triple 765 RS ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่เป็นเครื่องยนต์หลักสำหรับการแข่งขันคลาสดังกล่าวตั้งแต่ปี 2019-2021 (อ่านรีวิว Street Triple RS ได้ที่นี่) สำหรับการปรับปรุงเครื่องยนต์นั้นหลักๆจะเริ่มต้นจากการเปลี่ยนวาล์วชุดใหม่ขนาดใหญ่กว่าเดิม แต่ทำจากไทเทเนียมช่วยรีดน้ำหนัก ส่งผลให้มีแรงเฉื่อยน้อยลงพร้อมปรับค่าความแข็งสปริงใหม่ให้รองรับกับรอบเครื่อยนต์ที่สูงขึ้น และที่ขาดไม่ได้คือการรีโปรแกรม ECU ใหม่หมดจนได้พละกำลังที่ราวๆ 131 แรงม้า และแรงบิดอีก 80 นิวตันเมตร นอกจากนี้ทาง Triumph ยังทำการติดตั้งระบบสลิปเปอร์คลัชท์ให้เป็นที่เรียบร้อยเพื่อช่วยเหลือนักแข่งตอนเชนจ์เกียร์ลงอย่างรุนแรง และปรับรูปลักษณ์ภายนอกเครื่องยนต์ด้านล่างอีกเล็กน้อย ได้แก่ไดชาร์จสำหรับการแข่งขัน…
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่รักในการตกแต่งรถมอเตอร์ไซค์จริงๆสำหรับประเทศอินเดีย ที่ล่าสุดสำนัก Autologue Design ได้เปิดตัว Bajaj Dominar 400 ที่ได้รับการตกแต่งรอบคันใหม่หมด โดยมีแรงบันดาลใจในการออกแบบจาก Ducati XDiavel Bajaj Domivel คือชื่อใหม่ของเจ้าแนคเก็ทไบค์คังงามที่เพื่อนๆกำลังเห็นอยู่ในตอนนี้ โดยมันถูกจับเปลี่ยนตั้งแต่ ชุดครอบไฟหน้า, ถังน้ำมัน, แฟริ่งข้างถังน้ำมัน, บังโคลนหน้า, อกไก่, และแฟริ่งช่วงท้าย พร้อมเดินระบบไฟ LED รอบคัน ตั้งแต่ไฟหน้า, ไฟเลี้ยว จนถึงไฟท้าย พร้อมกับติดตั้งระบบสลิปเปอร์คลัทช์ให้กับเครื่องยนต์เพื่อเสริมสมรรถนะในการขับขี่ให้ดียิ่งขึ้นแล้วปิดท้ายด้วยการสาดสีน้ำเงินเมทัลลิคเพื่อความสวยงามรอบคัน สำหรับ Bajaj Dominar นั้นมีศักดิ์เป็นเหมือนกับญาติห่างๆของ KTM Duke 390 เพราะมันใช้เครื่องยนต์ลูกเดียวกันกับแฝดคนฝาจากออสเตรีย นั่นก็คือเครื่องยนต์สูบเดียวขนาดความจุ 373cc แต่ปรับจูนให้มีแรงม้าน้อยลงจนแหลือเพียง 35PS และ แรงบิดอีก 35 นิวตันเมตร เพื่อขับเคลื่อนตัวรถที่หนักราวๆ 170 กว่ากิโล จนได้เวลาในการเร่งความเร็วจาก 0-100…
ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ประเทศอิตาลีได้มีการจัดงาน Concorso d’Eleganza Villa d’Este ที่จัดขึ้นเพื่อเฟ้นหายานยนต์ที่มีดีไซน์สวยที่สุดแห่งปี ซึ่งทาง Ducati ได้ส่งรถเข้าประกวดในงานดังกล่าวไปด้วยเช่นกัน และผลคือพวกเค้าสามารถคว้ารางวัลมาได้ 2 อันดับด้วยกันนั่นก็คือ อันดับที่ 1 และอันดับที่ 3 เริ่มจากโมเดลแรกที่มีชื่อว่า “Café Racer” ซึ่งใช้มอเตอร์ไซค์รุ่นยอดนิยมของค่ายอย่าง Ducati Scrambler รุ่นมาตรฐานเป็นพื้นฐาน แล้วทำการปรับบอดี้พาร์ทใหม่เป็นชิ้นงานอลูมิเนียม, ติดตั้งชุดโคมไฟหน้า LED, ใช้ล้อซี่ลวดลายใหม่, ท่อไอชุดใหม่เคลือบเซรามิค, และเบาะนั่งทำมือสีดำดีไซน์คลาสสิค ส่วนอีกรุ่นจะใช้พื้นฐานจาก Scrambler รุ่น Desert Sled เป็นจุดเริ่มต้น แล้วทำการปรับพอดี้พาร์ทภายนอกใหม่เช่นกันกับคันก่อนหน้า แต่จะออกแบบให้มีความเป็น ADV-Bike มากกว่า ทั้งแฮนด์บาร์ทรงสูง, ท่อไอเสียเดินข้างเครื่อง, ยางหนาม, และเบาะนั่งหนังกลับที่สามารถกันลื่นได้เป็นอย่างดี สำหรับงาน Concorso d’Eleganza Villa d’Este ที่จัดขึ้นในอิตาลีนั้น…
เชิญพบกับ “Codacorta” รถมอเตอร์ไซค์แนวคัสตอมโรดเสตอร์รุ่นล่าสุดจากสำนัก Foolish Garage ในอิตาลีที่ใช้พื้นฐานตัวรถจาก Honda Fireblade ยุคปี 90′ โดยผู้ซื้อสามารถเลือกได้ว่าจะใช้เครื่องยนต์จาก Honda Fireblade ความจุใดก็ได้ 3 ระดับดังนี้ 853cc, 918cc, และ 919cc ซึ่งทาง Foolish Garage ได้ให้ข้อมุลไว้ว่ามันสามารถสร้างพละกำลังได้สูงสุดที่ 130 แรงม้ากับรุ่นที่มีความจุเยอะที่สุด และมีน้ำหนักตัวเพียง 160 กิโลกรัมเท่านั้น สำหรับหน้าตาคร่าวๆนั้นก็อย่างที่เราได้กล่าวไว้ข้างต้นแล้วว่ามันคือรถมอเตอร์ไซค์แนวคัสตอมโรดเสตอร์ ดังนั้นทางสำนักจึงจับถอดบอดี้พาร์ทที่เป็นแบบสปอร์ตฟูลแฟริ่งทิ้งไปทั้งหมด แล้วจัดการปรับทรงเปท้าย ถังน้ำมัน และชุดหน้าใหม่ ให้กลายเป็นแน็คเก็ทไบค์สายโหดที่เราสามารถนำมันลงไปหวดในสนามได้อย่างมันมือ ส่วนระยะเวลาในการผลิตนั้นทางสำนักได้ระบุไว้ว่าพวกเค้าต้องใช้เวลาราว 60-90 วันต่อคันเนื่องจากต้องเสียเวลาไปกับการปรับจูนตัวรถให้เข้ากับเจ้าของมากที่สุด ทั้งในเรื่องของน้ำหนัก ความสูง และลักษณะการขับขี่ ดังนั้นเจ้าของ Codacorta แต่ละคันจึงมั่นใจได้เลยว่า นี่คือหนึ่งในคัสตอมโรดเสตอร์ที่เข้ามือผู้ใช้มากที่สุดคันนึงเลยทีเดียว อ่านข่าว Honda เพิ่มเติมได้ที่นี่ เพื่อนๆ Bikers…
ดูเหมือนว่าตลาดรถเอนดูโร่ไบค์ พิกัด 150cc กำลังจะเป็นคลาสต่อไปที่มีการแข่งขันสูงขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้มีข่าวว่า Honda กำลังดำเนินแผนงานสร้างใและกล้จะเปิดตัว CRF150 รุ่นใหม่ ล่าสุดก็เป็นคร่าวของค่ายคนบ้า อย่าง Suzuki ที่มีข่าวลือว่าจะเปิดตัวเอนดูโร่ไบค์พิกัดนี้เช่นเดียวกัน สำหรับโมเดลที่จะใช้เป็นพื้นฐานในการสร้างนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น Suzuki GSX-R150 ที่พึ่งเปิดตัวไปสดๆร้อนๆเมื่อปีที่แล้ว โดยทางค่ายจะทำการปรับปรุงโครงสร้างรอบคันใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่โครงรถ, แผงคอ, ใช้แฮนด์บาร์ทรงสูง, ช่วงล่างระยะยืดยุบมากกว่าปกติเพื่อการใช้งานแนวบุกตะลุย ท่อไอเสียออกข้างเบาะคนซ้อน และอื่นๆอีกมามายที่น่าสนใจ เช่น ระบบ Keyless, ไฟหน้า LED และ มาตรวัด Full-Digital ด้านเครื่องยนต์นั้นคาดว่าจะไม่ได้ปรับปรุงรายละเอียดอะไรมากมายนัก เพราะแต่เดิมพื้นฐานของเครื่องยนต์ 147.3 cc ที่ประจำการใน GSX-R150 ตอนนี้ก็เป็นลักษณะลูกเล็กชักยาว ซึ่งโดดเด่นในเรื่องของแรงบิดอยู่แล้ว ดังนั้นจึงเป็นไปได้ว่ามันจะได้รับการอัพเดทหรือแก้ไขเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานทางฝุ่น อ่านข่าว Suzuki เพิ่มเติมได้ที่นี่ เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival…