หลังจากที่ทางบอสใหญ่ MV Agusta ได้ออกมาให้การคอร์นเฟิร์มว่าขณะนี้พวกเค้ากำลังพัฒนา Brutale 1200 รุ่นใหม่สำหรับวางตลาดในอณาคต แต่ดูเหมือนว่าเงินทุนในการสร้างจะยังไม่พอ พวกเค้าจึงเตรียมผลิตรถมอเตอร์ไซค์รุ่น Limited ขึ้นมาใหม่อีกรุ่นเพื่อหาแผนระดุมเงินทุนเพิ่มเติม สำหรับตัวรถ Limited รุ่นใหม่นั้น จะใช้พื้นฐานจากรุ่น Dragster โดยการตกแต่งหลักๆที่เราทราบในตอนนี้คือจะมีการใช้ท่อไอเสียจาก SC Project เป็นชุดพาร์ทออกโรงงานมาตั้งแต่แรก ส่วนการออกแบบลวดลายรอบคันก็ให้สำนักออกแบบจากอิตาลีรับผิดชอบซึ่งก็คือ Technoart Sersan และ Valter Moto สองสำนักที่เคยร่วมกันสร้าง Brutale Dragster RR LH44 มาแล้ว โดยเสปคพื้นฐานของ MV Agusta Dragster นั้นใช้เครื่องยนต์ 3 สูบเรียงความจุ 798cc DOHC สามารถปั่นพละกำลังได้สูงสุดที่ 125 แรงม้า (PS) และแรงบิดสูงสุด 81 นิวตันเมตร ซึ่งดูเหมือนว่าตัว Limited…
Author: admin
Suzuki ประเทศฝรั่งเศษปล่อยภาพ SV650 รุ่นพิเศษตกแต่งเพื่อเป็นเกียรติให้กับ Barry Sheene อดีดนักแข่งมอเตอร์ไซค์ในตำนาน โดยพวกเค้ายังแง้มออกมาบอกอีกว่าชุดแต่งชุดนี้พวกเค้าทำออกมาเพื่อขายให้กับลูกค้าที่สนใจอีกด้วย สิ่งแรกที่เราเห็นจาก SV650 Barry Sheen Edition คันนี้คือลวดลายสีเหลือง / แดง / ดำ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Suzuki RGA500 แบบเดียวกับตัวแข่งของ Sheene เมื่อยุคปี 70 ส่วนท่อไอเสียก็นำของ Leovince มาติดตั้งเข้าไป ด้านของยางหน้า/หลังก็เป็นแบบกึ่งหนามจาก Dunlop ซึ่งดูเหมือนว่าพวกเค้าอยากให้มันมีกลื่นอายความเป็น Scrambler นิดๆตามสมัยนิยม อีกจุดที่น่าสนใจมากๆของชุดแต่งชุดนี้ก็คือ มันเป็นชุดแต่งที่เคยผ่านการประกวดมาก่อน ซึ่งการประกวดดังกล่าวก็จัดขึ้นโดย Espace Moto 95 หรือตัวแทนจำหน่ายของ Suzuki ในฝรั่งเศสเอง โดยโจทย์แรกที่ผู้ออกแบบต้องทำให้ได้ก็คือ ชุดแต่งเหล่านี้จะต้องไม่ไปโยกย้ายหรือตัดแต่งจุดยึดใดๆทั้งสิ้นของตัวรถ นั่นจึงหมายความว่าหากเจ้าของ SV650 คันใดซื้อชุดแต่งนี้ไปแล้ว แต่จู่ๆเกิดเบื่อขึ้นมา ก็สามารถจำชุดพาร์ทเดิมตัวรถมาใส่ได้ทันทีโดยไม่ต้องไปตัดต่อให้ยุ่งยาก สำหรับราคาค่าตัวของชุดแต่งนี้จะมีช่วงราคาให้เลือกตั้งแต่…
Sony แบรนด์เทคโนโลยีจากญี่ปุ่นร่วมมือกับ Nolan แบรนด์หมวกกันน็อคจากอิตาลีเปิดตัว N-Com ARX ระบบแสดงผล “Augmented Reality” หรือ AR ขนาดกระทัดรัดสำหรับติดตั้งในหมวกกันน็อคเพื่อแสดงผลข้อมูลต่างๆในลักษณะของภาพโฮโลแกรมผ่านเลนส์ที่ติดตั้งไว้ในหมวกกันน็อค สำหรับหน้าตาของเครื่อง AR นั้นดูละม้ายคล้ายคลึงกับเครื่อง “สเคาท์เตอร์” จากการ์ตูนเรื่อง Dragon Ball ที่ใช้วัดค่าพลังของตัวละครแล้วนำมาแสดงผลบนเลนส์แบบเรียลไทม์ ซึ่งเจ้าเครื่องมือที่ Sony สร้างขึ้นมานั้นก็จะทำหน้าที่คล้ายๆกัน โดยมันไม่ได้เพียงแค่แสดงผลเป็นตัวเลข 2 มิติธรรมดาๆเท่านั้น แต่มันจะอ่านสัญลักษณ์ต่างๆบนท้องถนนในลักษณะของ AR Code แล้วทำการแสดงผลบนเลนส์เพื่อบ่งบอกว่า ณ ที่แห่งนั้นมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง ในรูปแบบของภาพโฮโลแกรม 3 มิติ ซึ่งให้ความน่าสนใจมากกว่าแบบข้อความทั่วไปเป็นใหนๆ ทาง Sony และ Nolan ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่าเทคโนโลยีดังกล่าวนั้นจะยังไม่ถูกวางตลาดในตอนนี้ เนื่องจากว่ามันยังต้องการการพัฒนาให้ดีขึ้นไปอีก แต่มันก็ไม่นานเกินไปที่จะรอแน่นอน ขอบคุณที่มา Morebikes เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival…
Auto By เว็บข่าวสารมอเตอร์ไซค์จากญี่ปุ่นปล่อยภาพเรนเดอร์ CB1000R โดยอาศัยพื้นฐานตัวรถของ CB1100 TR ที่ทาง Honda เคยเปิดตัวในฐานะรถ Concept ในงาน EICMA 2016 ที่ผ่านมาซึ่งดูเหมือนว่าการตอบรับจะดีไม่น้อยจนทางค่ายอาจจะเตรียมผลิตออกขายจริงเพื่อดึงกระแสนี้ไว้ อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าเครื่องยนต์ 4 สูบลูกเดิมที่มีขนาดความจุ 1,100 cc ระบายความร้อนด้วยอากาศ พละกำลังสูงสุด 86 แรงม้า ของเดิมนั้น จะไม่สามารถสร้างพละกำลังได้มากพอ ทาง Auto By จึงจับเอาเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง 1,000cc ระบายความร้อนด้วยน้ำ พละกำลังสูงสุด 189 จาก CBR1000RR มาใส่เข้าไป รวมไปถึงตัวเฟรมก็เป็นของซุปเปอร์สปอร์ตเรือธงของค่ายเช่นกัน ส่วนอุปกรณ์อื่นๆที่ถูกเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ดูสมกับเป็นตัวทำตลาดจริงนั้นมีทั้งชุดโคมไฟหน้าที่ถูกนำเข้ามาแทนเพลทติดตัวเลขของเดิม รวมไปถึงปั๊มเบรก TOKICO และโช้คหน้าจาก Showa ก็จัดมาในลักษณะที่จับต้องได้มากขึ้นเช่นกัน อย่างไรก็ตามโดยส่วนตัวของผู้เขียนแล้ว สำหรับหน้าตาของตัวรถนั้นดูจะผิดแนวทางความเป็น CB1000R ไปพอสมควรโดยเฉพาะหน้าตาของรถคันนี้ที่ออกไปในทาง…
Honda เปิดตัวเทคโนโลยีสุดเจ๋ง “Self-Balancing” หรือระบบรักษาการทรงตัวสำหรับรถมอเตอร์ไซค์ในงานแสดงเทคโนโลยีที่ลาสเวกัส ประเทศอเมริกา ซึ่งเราบอกได้เลยว่ากลไกการทำงานที่ทางค่ายสร้างขึ้นมานั้นไม่เหมือนใครแน่นอน สำหรับระบบรักษาการทรงตัวในรถมอเตอร์ไซค์นั้น ไม่ใช่เทคโนโลยีที่พึ่งเปิดตัวเป็นครั้งแรกแต่อย่างไร ถ้าหากยังจำกันได้เราเคยเสนอรถคอนเซปท์ของทาง BMW ที่มีชื่อว่า Vision NEXT 100 ไปเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว โดยตัวรถดังกล่าวใช้ระบบไจโรเป็นตัวรักษาสมดุลหลักให้กับตัวเอง แต่ในรถคอนเซปท์ของ Honda นั้นจะใช้ชุดแผงคอด้านหน้าเป็นตัวรักษาสมดุลทั้งหมด หลักการก็ง่ายๆเพียงแค่หักล้อซ้ายขวาไปมาเพื่อรักษาสมดุล แต่ดูเหมือนแค่นั้นจะยังไม่พอที่ทำให้ตัวรถตั้งตรงได้ ทาง Honda จึงออกแบบให้ตัวแผงคอล่างสามารถขยับไปด้านหน้าหรือถอยไปด้านหลังได้ เพื่อปรับมุมแกนโช้กช่วยรักษาสมดุลเพิ่มเติม คิดเห็นอย่างไรกันบ้างล่ะครับ คิดว่าเทคโนโลยีนี้จะช่วยเหล่าไบค์เกอร์อย่างเราๆได้ดีแค่ใหน เชิญแสดงความเห็นมาทางแฟนเพจได้เลยครับผม อ่านข่าว Honda เพิ่มเติมได้ที่นี่ เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ Motorival
Honda ประเทศอินเดีย เปิดตัวสองโมเดลพิเศษของสกูตเตอร์หน้าตาประหลาด Navi ที่มีหน้าตาละม้ายคล้ายคลึงกับ MSX เสียนี่กระไร โดยใช้ชื่อว่า “Chrome Edition” และ “Adventure Edition” สำหรับ Chrome Edition นั้นก็ได้รับการตกแต่งตามชื่อที่ให้มา นั่นก็คือการนำชุดพาร์ทสีเงินวาววับ มาติดตั้งแทนชิ้นส่วนที่เป็นสีอลูมิเนียมของเดิมออกไปทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น กรอบไฟหน้า ครอบเฟรมซ้ายขวา และยังมีแครชบาร์ชุบโครเมียมเสริมเข้ามา ส่วนแฟริ่งทั้งหมดไปจนถึงเบาะนั่งใช้สีดำล้วนเพื่อเสริมมาดเข้มให้กับตัวรถ ส่วน Adventure Edition จะถูกตกแต่งด้วยของเสริมที่เน้นไปในรูปลักษณ์ที่สมบุกสมบันเป็นพิเศษ ทั้งการ์ดแฮนด์ วินชิลด์ทรงสูง ตะแกรงครอบไฟหน้า แครชบาร์สีครีม กล่องท้ายรถพร้อมขายึด และการ์ดแครงก์ (ที่ไม่ได้อยู่ตรงแครงก์) ปิดท้ายด้วยลวดลายพรางรอบคันกับเบาะทูโทนสีครีมตัดดำ สำหรับขุมพลังของ Honda Navi คันนี้เป็นแบบสูบเดียว 110cc ที่เรารู้จักกันดีใน Scoopy-I ให้พละกำลังสูงสุด 7.83 แรงม้าที่ 7,000 รอบต่อนาทีและแรงบิดสูงสุด 8.96 นิวตันเมตรที่…
เรียกได้ว่าเป็นที่นิยมขึ้นเรื่อยๆ สำหรับรถมอเตอร์ไซค์ขนาดใหญ่ในบ้านเรา (BigBike) ยิ่งถ้าเป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่ออกแบบให้มีความโฉบเฉี่ยว ดุดัน และปราดเปรียวเป็นพิเศษแล้วล่ะก็ จะได้รับความนิยมมากขึ้นเป็นเท่าตัว ซึ่งไม่ใช่แค่ในประเทศเราเท่านั้น แม้แต่ชาวไบค์เกอร์ประเทศอื่นๆ ก็ให้ความสนใจในรถที่ดีไซน์ในรูปแบบนี้เช่นกัน ในปัจจุบันไม่ได้มีเพียงแค่รถในกลุ่ม Sport Full Fairing เท่านั้น แม้กระทั่งกลุ่ม Naked Bike ที่เมื่อก่อนเป็นเพียงแค่รถเปลือยโคมไฟหน้าทรงกลม ตอนนี้ก็ถูกออกแบบให้มีความเป็นสปอร์ตและดุดันมากขึ้น ทั้งในด้านของรูปทรง เครื่องยนต์ และออปชั่นติดรถต่างๆ ตามกระแสความต้องการของคนยุคสมัยใหม่ที่เปลี่ยนไปในทิศทางเดียวกับ Sport Full Fairing ด้วย และในครั้งนี้ MotoRival เราก็จะขอยกตัวอย่างรถคู่หู Honda 500 Series จากค่ายปีกนก ได้แก่ CBR500R และ CB500F ที่ได้รับการออกแบบใหม่หมดจดจากโมเดลก่อนหน้าให้มีความสปอร์ตยิ่งขึ้นพอสมควร และเมื่อประกอบกับการที่ว่ามันเป็นหนึ่งในบิ๊กไบค์ที่จัดว่าคุ้มค่าเงินที่จ่ายไปอย่างที่เราได้เคยเสนอไปก่อนหน้านี้ เราขอพาเพื่อนๆ มาทำความรู้จักกันอีกครั้งกับ 2 โมเดลนี้ ที่ไม่ได้มีเพียงแค่ความคุ้มค่า แต่มันยังถือเป็น BigBike ที่โดดเด่นในรูปลักษณ์ความสปอร์ต โฉบเฉี่ยว ดุดัน และทันสมัย ไม่แพ้รถ…
ในยุคสมัยนี้เหล่าผู้ผลิตมักจะคิดวิธีใช้วัสดุน้ำหนักเบาเข้ามาเป็นส่วนประกอบหลักของชิ้นส่วนตัวรถเพื่อรีดน้ำหนักผลิตภัณฑ์ให้ต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้ ยกตัวอย่างเช่น BMW S1000RR HP4 Race ที่ใช่วัสดุคาร์บอนทำแฟริ่งทั้งคันยันล้อหน้าหลัง และ Ducati 1299 Superlaggera ที่รีดน้ำหนักด้วยเฟรมแม็กนีเซียม แต่กับเจ้า Honda CX500 คันนี้นั้นไม่ใช่ เพราะมันทำมาจากหินแทบทั้งดุ้นซึ่งหนักกว่าพาร์ทเดิมไปหลายเท่าตัว สำหรับงานออกแบบและแกะสลักหินทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นจากฝีมือของ Chris Zernia ชาวเมืองเมนดิก ประเทศเยอรมัน เพื่อส่งตามคอนเซปท์ “Build da Fukker” หรือการประกวดรถแนวคัสตอมเมดของนิตยสาร Custombike Magazine โดย Chris ได้นำเจ้ารถมอเตอร์ไซค์ CX500 ที่ผลิตตั้งแต่ปี 1982 คันนี้ มาเปลี่ยนชุดพาร์ทภายนอกของเดิมออกไปทั้งหมด ให้เหลือเพียงเครื่องยนต์เท่านั้นที่เป็นของเดิม แล้วเปลี่ยนเอากรอบไฟหน้า ถังน้ำมัน เบาะนั่ง และเพลทตัวเลขด้านข้าง ที่ทำจากหินลาวา-บะซอลต์ หนัก 450 กิโลกรัม แกะสลักใหม่จนเหลือ 60 กิโลกรัม เสริมแกร่งด้วยโครงรถทำจากเหล็กหนา…
หลายคนอาจจะคิดว่านี่คือ KTM RC8 ที่ถูกตกแต่งด้วยลวดลายจาก Red Bull ธรรมดาๆเท่านั้น แต่แท้จริงแล้วมันคือ RC390 น้องเล็กสูบเดียวที่ถูกจับใส่แฟริ่งชุดใหม่ที่มีชื่อเรียกเล่นๆว่า RCX ให้เหมือนกับพี่ใหญ่สูบวีทวินยังกับแกะต่างหาก สำหรับชุดแต่งดังกล่าวเป็นฝีมือของสำนัก Autologue Design จากเมือง Pune ในประเทศอินเดีย ซึ่งพวกเค้าได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าชุดแฟริ่งนั้นได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจาก KTM RC4 Concept ( Duke 690 สวมแฟริ่งคล้าย RC8) จุดเด่นสำคัญอีกอย่างก็คือตัวแฟริ่งทั้งหมดเป็นแบบถอดประกอบได้ทันทีไม่ต้องทำการแปลงจุดยึดใดๆทั้งสิ้น ส่วนน้ำหนักตัวรถโดยรวมนั้นก็จะเพิ่มมาอีกราวๆ 3 กิโลกรัมด้วยกันตามวัสดุที่ใช้ แต่ในขณะเดียวกันทางสำนักก็มีชุดแต่งที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบาซึ่งช่วยลดน้ำหนักตัวรถลงไปอีก 4 กิโลกรัมเพื่อการแข่งขันโดยเฉพาะ นอกจากนี้พวกเค้ายังมีออพชั่นเสริมความแรงที่เตรียมจะปล่อยออกมาในปีหน้า ซึ่งมีทั้งกรองแข่งจาก BMC และกล่อง ECU แต่งกราฟใหม่ เพื่อให้เข้ากันกับชุดแฟริ่งคาร์บอน ส่วนราคาค่าตัวของชุดแต่งแบบธรรมดานั้นอยู่ที่ 50,000 รูปีย์หรือราวๆ 26,100 บาท หากเพื่อนคนใหนสนใจลองติดต่อไปที่เว็บไซต์ Autologue Design ได้เลยครับผม…
Royald Enfield เปิดตัวสามทหารเสือซีรีย์ใหม่จากตระกูล Classic 350 โดยใช้ชื่อประจำตัวว่า Redditch เพื่อเจาะกลุ่มวัยรุ่นที่ต้องการขับขี่มอเตอร์ไซค์ทรงคลาสสิคตามแบบฉบับสงครามโลกยุคปี 1950 Classic 350 Redditch จะมาพร้อมกับเฉดสีให้เลือกทั้งหมด 3 แบบด้วยกันนั่นก็คือ แดง, ฟ้า, และ เขียว โดยทาง Royal Enfield จะสาดดังกล่าวลงไปบนตัวถังน้ำมันเพียงชิ้นเดียวเท่านั้น ส่วนบังโคลนหน้า/หลัง กรอบไฟหน้า ฝาครอบแบต เบาะนั่งจะเป็นสีดำทั้งหมด ไม่เหมือนกับตัวปกติที่จะใช้โทนสีเดียวกัน และตกแต่งไปในทางเรียบหรูซะมากกว่า สำหรับราคาเปิดตัวของ Royal Enfield Classic 350 Redditch นั้นอยู่ที่ 146,093 รูปีย์ หรือราวๆ 76,300 บาทเท่า และเตรียมส่งรถเข้าสู่โชว์รูมในประเทศอินเดียตั้งแต่วันที่ 7 เดือนมกราคมที่จะถึงนี้เป็นต้นไป ส่วนประเทศไทยคงต้องลุ้นกันต่อไปว่าทางค่ายจะตกแต่ง Classic 500 ไปในทิศทางเดียวกันหรือไม่ เพราะตัว 350…