BMW R nine T 100 Year และ R18 100 Year รถมอเตอร์ไซค์รุ่นคลาสสิกจากค่ายบาวาเรีย BMW ที่ถูกทำขึ้นเพื่อฉลองวาระครบรอบ 100 ปี ของมอเตอร์ไซค์คันแรกของค่ายอย่าง BMW R32 ที่ถูกเปิดตัวขึ้นในงาน German Motor Show ในเมืองเบอลินเมื่อปี 1923 ซึ่งจะครบรอบในปีหน้า ที่จะถูกตกแต่งแบบพิเศษใส่ไข่ โดยนำแรงบันดาลใจมาจากรถมอเตอร์ไซค์ที่บุกเบิกทุกสิ่งจากเมื่อศตวรรษที่แล้ว BMW R nine T 100 Year นั่นยังคงมีสเปคทางเทคนิคไม่ต่างจาก R nine T รุ่นปกติแม้แต่น้อย ความเปลี่ยนแปลกหลักนั้นเกิดขึ้นกับรูปลักษณ์ภายนอกที่ได้แรงบันดาลใจมาจากรถยุคเก่าของค่าย ตัวรถมาพร้อมกับสีพื้นสีดำ เพิ่มความโดดเด่นด้วยโครเมียมเงางามเนียนตา ตัดด้วยลายเส้นคู่สีขาว และเบาหนังสีแดงเข้ม นอกจากนี้รอบตัวรถก็ยังมีการเพิ่มของแต่งจากคอลเลคชั่น “719” อีกจำนวนนับไม่ถ้วนที่ติดรถมาให้เลย จากที่ปกติลูกค้าจะต้องซื้อเพิ่มเอาเอง BMW R18 100…
Author: Kristha
Yamaha Augur 155 รถมอเตอร์ไซค์สกู๊ตเตอร์หน้าตาล้ำจากค่ายส้อมเสียง Yamaha ที่ถูกเปิดตัวขึ้นในไต้หวัน เพื่อทำตลาดให้ฐานะรถตัวท็อปของค่ายในกลุ่มรถบ้าน มาพร้อมรูปลักษณ์ที่แปลกใหม่แหวกแนวจนน่าประหลาดใจ เหมือนทั้งหุ่นยนต์จากอนาคตและสิ่งมีชีวิตจากต่างดาวในหนัง Sci-fi ไปในเวลาเดียวกัน Yamaha Augur 155 นั้นเป็นรถที่ถูกสร้างบนพื้นฐานเดียวกับ Yamaha X Force ที่มีวางจำหน่ายทั้งในไต้หวันและญี่ปุ่น โดยจะยังคงใช้เครื่องยนต์ระบายความร้อนด้วยน้ำ 1 สูบ SOHC พร้อมเกียร์ CVT ขับเคลื่อนด้วยระบบสายพาน ลูกเดียวกับที่มีใช้อยู่ในรถหลายรุ่นของค่ายอย่าง NMAX 155, Aerox 155 และถึงทางค่ายจะไม่ได้เปิดเผยตัวเลยพละกำลังและแรงบิดออกมาอย่างเป็นทางการ แต่ก็คงไม่ต่างจากรถรุ่นอื่นที่ใช้เครื่องเดียวกันมากนัก รูปลักษณ์ภายนอกนั้นมีความล้ำสมัยขั้นสุด แตกต่างจากคู่แข่งทุกรุ่นในตลาด ด้วยด้านหน้าตัวรถที่ได้แรงบันดาลใจจากหัวลูกศร แต่ดูไปดูมาก็รู้สึกว่ามันคล้ายกับหุ่นยนต์จากอนาคต หรือสิงมีชีวิตต่างดาวจากหนังไซไฟอย่าง Alien หรือ Dune มาพร้อมระบบไฟส่องสว่างแบบ LED รอบคัน ไฟหน้าโคมหลักเป็นแบบโปเจอเตอร์โคมเดี่ยวเช่นเดียวกับรถรุ่นใหญ่ของค่ายในตระกูล R และ MT ส่วนไฟส่องสว่างเวลากลางวันทรงสามแฉกก็ใหญ่แปลกตาไม่ซ้ำใคร จุดเด่นด้านอื่นของรถรุ่นนี้ก็คือเทคโนโลยีที่ให้มาเกินคลาสเดียวกันแบบไม่เห็นฝุ่น…
Vespa Batik Special Edition รถสกู๊ตเตอร์รุ่นพิเศษลายสวยจาก Vespa ที่ทำขึ้นเพื่อฉลองการเปิดโรงงานในเครือ Piaggio ครั้งแรกในประเทศอินโดนีเซีย โดยนำเอกลักษณ์ของชาวเกาะอย่าง “ผ้าบาติก” จากหลากหลายท้องถิ่นมาใช้เป็นแรงบันดาลใจให้รถสไตล์อนุรักษ์นิยมรุ่นนี้ Vespa Batik Special Edition เป็นถือเป็นการต่อยอดรถกระแสหลักของค่ายอย่าง LX125 มาทำการตกแต่งเพิ่มเติมด้วยลวดลายผ้าบาติก ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของผู้คนหลากหลายเชื้อชาติในหมูเกาะซุนดา ที่ประกอบกันเป็นประเทศอินโดนีเซีย พื้นฐานของตัวรถนั้นเหมือนกับรถร่างต้นทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น เครื่องยนต์รหัส I-get 1 สูบ 124.5 ซีซี ที่ให้พละกำลังได้สูงสุด 10 Hp @ 7,600 RPM และแรงบิดสูงสุด 10.2 Nm @ 6,000 RPM และสเปคส่วนอื่นนั้นไม่ได้ต่างจากเดิมแม้แต่น้อย ลวดลายบ้าบาติกที่อยู่บนตัวรถ เกิดจากการนำสไตล์ของผ้าบาติกจากหลายภูมิภาคทั่วประเทศมาใช้เป็นต้นแบบเช่น เกาะชวา เกาะสุมาตรา เกาะกาลีมันตัน หรือที่เรารู้จักในชื่อเกาะบอเนียว เกาะบาหลี รวมถึงหมู่เกาะนูซาเติงการาและปาปัว โดยลวดลายเหล่านั้นก็จะสื่อถึงความหมายด้านบวกที่แตกต่างกันออกไป…
Harley-Davidson X350 และ X500 รถมอเตอร์ไซค์คลาสเริ่มต้นรุ่นใหม่จากค่ายตราโล่ Harley-Davidson ที่มีข่าวออกมาอย่างต่อเนื่องมาตลอดช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ว่าจะมาทำหน้าที่เป็นรถรับน้อง ดึงดูดผู้ขี่หน้าใหม่ให้มาสนใจค่ายรถในตำนานอีกครั้ง หลังจากที่ค่ายรถรายนี้มีอายุเฉลี่ยของลูกค้าที่เพิ่มสูงขึ้นไม่หยุด โดยรถคันนี้จะถูกพัฒนาร่วมกับผู้ผลิตมอเตอร์ไซค์รายใหญ่จากจีนอย่าง Qianjiang (QJ Motor) ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์รถ QJMotor และ Benelli ซึ่งรถคลาสเริ่มนั้นก็ไม่ได้มากแค่หนึ่ง แต่มีถึงสองรุ่นให้เลือกตามกำลังศรัทธา Harley-Davidson X350 รถรุ่นเริ่มต้นรหัสเล็กสุด ซึ่งรถคันนี้ก็เป็นรถที่เราหลายคนคงเคยเห็นภาพหลุดกันมาแล้วตลอดช่วงการพัฒนา โดยก่อนหน้านี้ก็มีการคาดเดากันไปว่ามันจะมาพร้อมชื่อรุ่น 338R แต่ต่อมาเมื่อทาง Qianjiang ได้ทำการเปิดตัวเครื่องยนต์รหัส 353 ที่ใช้อยู่ใน QJMotor SRK350 ก็พาให้คนคาดเดาว่ามันจะเปลี่ยนชื่อเป็น 353R จนท้ายที่สุดเราก็ได้เห็นชื่อจริงของมันอย่าง X350 (ที่ฟังแล้วดูธรรมดากว่าที่คิด) ซึ่งจะมาพร้อมกับพละกำลัง 36 แรงม้า และน้ำหนักตัว 195 กิโลกรัม Harley-Davidson X500 นั้นจะเป็นรถที่มีความจุเครื่องยนต์ใหญ่ขึ้นมาอีกนิด เพื่อเติมเต็มช่องว่างทางการตลาดระหว่างรถตัวเริ่มไซส์เล็กที่เราได้พูดไปก่อนหน้า กับรถครุยเซอร์สายหลักของค่ายอย่าง Nightster…
Motori Minarelli ผู้ผลิตเครื่องยนต์จากอิตาลี ที่มีชื่อเสียงจากการเป็นซัพพลายเออร์รายใหญ่ให้กับรถหลายรุ่น โดยเฉพาะรถวิบากของค่ายรถส้อมเสียงจากตะวันออกอย่าง Yamaha ได้ทำการอวดโฉมเครื่องยนต์ 2 จังหวะ ลูกใหม่ที่มีความพิเศษคือมันสามารถผ่านมาตรผ่านมาตรฐานไอเสียอันเข้มงวดอย่าง Euro5 ได้สำเร็จ และทางค่ายก็เตรียมที่จะนำเครื่องยนต์ลูกดังกล่าวไปติดตั้งกับมอเตอร์ไซค์วิบากรุ่นใหม่ ที่จะเปิดตัวในอนาคต Motori Minarelli ได้ทำการสร้างเครื่องยนต์ลูกใหม่นี้โดยการต่อยอดมาจากเครื่องยนต์ 2 จังหวะ 1 สูบ 250 ซีซี ที่เคยใช้อยู่ในรถมอเตอร์ไซค์วิบากของ Yamaha ในช่วงที่ค่ายส้อมเสียงครอบครองผู้ผลิตเครื่องยนต์รายนี้อยู่ ซึ่งเครื่องยนต์ลูกใหม่นี้ก็ถูกขยายความจุให้อยู่ที่ประมาณ 300 ซีซี พร้อมทั้งเปลี่ยนชิ้นส่วนภายในใหม่จำนวนมาก ซึ่งจะช่วยให้เครื่องยนต์ลูกนี้มีความทันสมัยมากขึ้น และอุปกรณ์ชิ้นนึงที่ไม่เปลี่ยนไม่ได้คือระบบหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ ที่จะช่วยให้การเผาไหม้สะอาดขึ้น ซึ่งค่ายรถรายอื่นอย่าง KTM ก็เคยทำแบบนี้มาก่อนแล้ว แต่ก็เป็นการทำเพื่อช่วยเรื่องอัตราการตอบสนองเป็นส่วนใหญ่ ไม่ได้ถึงกับทำให้ผ่านมาตรฐานไอเสียที่สูงระดับนี้ ถึงแม้ว่ารายละเอียดเชิงลึกของเครื่องยนต์ลูกนี้จะยังไม่ถูกเปิดเผยอย่างเป็นทางการ ไม่มีเลขความจุเครื่องยนต์ที่แน่ชัด หรือแม้แต่ตัวเลขแรงม้าและแรงบิด แต่ทางค่ายก็ให้ข้อมูลเพียงแค่ว่าเครื่องยนต์ลูกนี้จะให้พละกำลังในแบบที่เรียบเนียน สามารถใช้งานได้จริงบนถนน ซึ่งจะแลกมากับพละกำลังสูงสุดที่ไม่ได้สูงกระฉูดแบบเครื่องยนต์ 2 จังหวะ ปกติที่มีความจุใกล้เคียงกัน เนื่องจากเครื่องยนต์เหล่านั้นไม่ต้องสนในค่ามลพิษ ปัจจุบันผู้ผลิตเครื่องยนต์รายนี้ถูกค่ายรถวิบากจากอิตาลีอย่าง Fantic…
MotoGP หนึ่งในกีฬามอเตอร์สปอร์ตที่เร็วที่สุด แรงที่สุด ล้ำสมัยที่สุด และที่หนีไม่พ้นคือเรื่องที่มันจัดเป็นกีฬาที่แพงที่สุดอีกรายการ แน่นอนว่าราคาเหล่านั้นที่ทีมแข่งต้องจ่ายก็หนีไม่พ้นเรื่องค่าเช่ารถแข่งระดับท็อป และค่าตัวของเหล่าพนักงานจำนวนมากที่ถือว่าเป็นแนวหน้าของวงการ เพื่อให้ทีมของตัวเองสามารถสู้กับคู่แข่งอื่นได้อย่าสูสี และสิ่งหนึ่งที่จะช่วยให้ทีมเหล่านี้สามารถดำเนินการต่อไปได้คือเงินจากการ “โฆษณา” ที่ติดอยู่ทั้งบนรถแข่งและตัวนักแข่ง หลังจากที่มนุษย์คิดค้นวิธีการโฆษณาผ่านประกาศทั่วไป และพัฒนาจนมีการใช้งานจอแสดงผลภาพแบบดิจิตอล เทคโนโลยีใหม่อย่างนึงที่หลายคนมองว่าเป็นการ “ปฏิวัติวงการ” ก็คือหน้าจอแสดงผลแบบยืดหยุ่น ที่สามารถบิดงอให้เข้ากับรูปทรงได้หลากหลาย สามารถนำมาใช้ได้แม้แต่กับเสื้อผ้า ความคิดที่ว่าจะนำจอแสดงผลเหล่านี้ไปติดบนร่างกายก็ดูจะไม่ใช่เรื่องเกินจริง นั่นจึงทำให้ Seamless Digital ทำการจดสิทธิบัตรแนวคิดดังกล่าวที่จะนำจอแสดงผลแบบยืดหยุ่นได้เหล่านี้ ไปติดตั้งอยู่บนรถแข่ง MotoGP ซึ่งนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีคนทำแบบนี้ เพราะก่อนหน้านี้ในเวที F1 ก็มีทีมแข่ง McLaren ทำแบบนี้มาก่อนแล้ว แต่ทางบริษัทดังกล่าวนั้นคิดไกลไปกว่านั้น เนื่องจากในการแข่งรถมอเตอร์ไซค์ ร่างกายของผู้ขับขี่จะปิดบังบางส่วนของรถอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ Seamless Digital จึงคิดที่จะนำหน้าจอที่ว่านี้ไปติดตั้งบนชุดของนักแข่งด้วย ซึ่งนี่ก็ถือเป็นไอเดียที่น่าสนใจ หากเราจะได้เห็นป้ายโฆษณาหลากรูปแบบที่เคลื่อนไหวได้บนตัวแข่งหรือนักแข่ง แต่ขณะเดียวกันเราก็ต้องกลับมาตอบคำถามเดิมที่ว่า “รถแข่ง MotoGP ซับซ้อนเกินไปไหม?” เพราะการนำหน้าจอแสดงผลราคาแพงไปติดตั้งอยู่รอบตัวรถและตัวนักแข่งที่มีโอกาสล้มอยู่ตลอดเวลา ก็คงไม่ใช่สิ่งที่ดีต่อกระเป๋าตังของผู้บริหารมากนัก นี่ยังไม่นับเรื่องที่น้ำหนักของตัวแข่งจะเพิ่มขึ้นมา ซึ่งจะไม่มีทีมแข่งไหนอยากได้ เราก็คงต้องรอดูกันว่าอนาคตของเทคโนโลยีนี้จะพัฒนาไปทิศทางไหนต่อ ที่มา rideapart,…
Peugeot PM-01 300 รถมอเตอร์ไซค์ต้นแบบจากค่ายสิงโตฝรั่งเศส Peugeot ที่ถึงแม้ปัจจุบันจะแยกความเป็นเจ้าของและการบริหารออกจากฝั่งรถยนต์ และเปลี่ยนสัญชาติไปเป็นสิงโตอินเดียเรียบร้อยแล้ว แต่รถรุ่นใหม่ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 70 ปี ที่ค่ายรถรายนี้กลับไปสร้างรถมอเตอร์ไซค์แนวสปอร์ตอีกครั้ง หลังจากที่ขายแต่รถสกู๊ตเตอร์มานานหลายปี Peugeot PM-01 300 นั้นถือเป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่ไม่ใช่สกู๊ตเตอร์รุ่นแรก ที่ถูกสร้างขึ้นหลังจากที่ค่ายรถรายนี้ถูกเข้าควบคุมกิจการโดยยักษ์ใหญ่จากอินเดียอย่าง Mahindra โดยทางค่ายก็มีแผนที่จะเริ่มรุกเข้าไปในตลาดของมอเตอร์ไซค์มีเกียร์คลาสเริ่มต้น ที่กำลังเติบโตขึ้นในยุโรปและเอเชีย โดยการเปิดตัวรถต้นแบบ(ที่มีสภาพพร้อมถูกผลิต)ในงาน EICMA2022 ตัวรถมาพร้อมกับเครื่องยนต์ระบายความร้อนด้วยน้ำ 1 สูบ ปริมาตรกระบอกสูบ 249 ซีซี ที่ให้พละกำลังสูงสุด 29 Hp @ 9,000 RPM และแรงบิดสูงสุด 23 Nm @ 7,000 RPM ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์ 6 สปีด ถังน้ำมันขนาด 12.5 ลิตร ซึ่งถือว่าเป็นไปตามมาตรฐานของรถในกลุ่มนี้ ไม่ได้แรงเป็นพิเศษ แต่ก็ไม่ได้ถือว่าเป็นรถที่มีแรงน้อย เหมาะสมกับการเป็นรถเริ่มต้นที่ใช้งานได้ทั่วไป…
Honda CBR1000RR-R Fireblade รถมอเตอร์ไซค์สปอร์ตตัวแรงรุ่นท็อปของค่ายปีกนก Honda ที่ถือเป็นทั้งสัญลักษณ์และความภูมิใจของค่ายที่อยู่มายาวนาน แต่ล่าสุดรถรุ่นนี้ก็กำลังมีข่าว(ลือ) ว่าจุดจบของตำนานดาบไฟอาจใกล้มาถึงมากกว่าที่คิด และเพื่อเป็นการส่งท้ายตำนานอย่างสมศักดิ์ศรี ทางค่ายจึงอาจจะวางแผนเปิดตัวรถรุ่นพิเศษเพื่อเป็นการปิดม่าน Honda CBR1000RR-R Fireblade นั้นถือว่ายังเป็นรถที่ไม่ได้มีอายุมากนักเมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาด แต่การบอกว่าดวงของรถรุ่นนี้กำลังจะหมดไปก็คงไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เนื่องจากมาตรฐานไอเสีย Euro 5 ที่กำลังจะถูกบังคับใช้เมื่อสิ้นปี 2024 และความนิยมในตลาดรถสปอร์ตที่กำลังถดถอย ทางค่ายจึงอาจจะเลือกหยุดพัฒนารถรุ่นนี้ เพราะในรายการแข่งขันรถสปอร์ตทางเรียบโปรดักชั่น ผลงานของ Fireblade ในระดับโลกก็ไม่ได้หวือหวาอะไร(อ่านต่อได้ที่นี่) นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ดีที่ทาง Honda จะทำการดันรถรุ่นพิเศษที่จะจัดเต็มสเปครอบคันมาให้เพื่อเป็นการลาโรง ไม่ว่าจะเป็นการอัพเกรดระบบเบรกและระบบกันสะเทือน เปลี่ยนชุดแฟริ่งเป็นวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ เปลี่ยนท่อไอเสียเป็นของแบรนด์ดัง(ปกติก็ใช้ Akrapovic อยู่แล้ว) หรืออาจจะมีการเพิ่มปีกชุดใหม่เข้ามาเพื่อความอลังการตามที่เราเห็นกันในภาพเรนเดอร์ แต่ท้ายที่สุดนี้ “ข่าวลือ ก็เป็นแค่ข่าวลือ” เพราะไม่ว่ายังไง รถสปอร์ตในกลุ่มนี้ก็ถือเป็นความภาคภูมิใจของค่ายที่ยากต่อการถอดออกจากไลน์อัพ ถึงแม้ว่ารายการแข่งขันระดับโลกจะไม่ประสบความสำเร็จ แต่ถ้ายังทำผลงานในประเทศได้ดีต่อเนื่องก็คงไม่เป็นปัญหาสำหรับค่ายรถยักษ์ใหญ่ระดับ Honda (ซึ่งต่างกับ Suzuki ที่เริ่มถอด GSX-R1000 ออกจากตลาดญี่ปุ่นและยุโรปในปีหน้าไปแล้ว) ไม่แน่ว่าทางค่ายอาจจะถอดรถรุ่นนี้ออกเพื่อแทนที่ด้วยรถที่ใช้เครื่องยนต์ V4…
WMoto XDV250 รถมอเตอร์ไซค์สกู๊ตเตอร์สไตล์แอดเวนเจอร์จาก WMoto ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายจักรยานยนต์จากคาบสมุทรมาลายู เป็นอีกหนึ่งในหลายค่ายที่ถาโถมเข้ามาในตลาดรถออโตเมติกที่สามารถขับขี่ได้ในหลากหลายเส้นทาง หลังจากการกรุยทางโดยรถตระกูล ADV จากค่ายปีกนก Honda เมื่อหลายปีก่อน จนตอนนี้ก็ดูเหมือนว่าทุกคนจะอยากได้ส่วนแบ่งตลาดดังกล่าวที่กำลังได้รับความนิยม WMoto XDV250 แรกเริ่มเดิมทีนั้นไม่ใช่รถที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเป็นตัวของตัวเองแต่แรก เพราะแท้จริงแล้วมันคือ Longjia XDV250 ที่เป็นรถจากประเทศจีนซึ่งถูกนำมาตีตราและเปลี่ยนชื่อใหม่เพื่อทำตลาดนอกบ้านเกิด มาพร้อมเครื่องยนต์ระบายความร้อนด้วยน้ำ 1 สูบ ปริมาตรกระบอกสูบ 249 ซีซี ที่ให้พละกำลังสูงสุด 24 Hp @ 9,750 RPM และแรงบิดสูงสุด 23 Nm @ 6,750 RPM ซึ่งในตลาดยุโรปมันจะมาพร้อมรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ขนาด 350 ซีซี เพื่อท้าชนกับ Honda ADV350 แต่เนื่องจากข้อกำหนดเรื่องความจุเครื่องยนต์ของมาเลเซีย ทำให้เพื่อบ้านของเราได้ใช้รถรหัสเล็กแทน เส้นสายของรถนั้นเป็นเหลี่ยมสันดุดันตามฉบับของรถแนวนี้(หรือถ้าจะให้พูดคือตามฉบับรถตระกูล ADV ที่ทุกค่ายนำมาใช้กัน) มาพร้อมระบบไฟรอบคันแบบ LED,…
Eysing PF40 รถไฟฟ้าขนาดเล็กรุ่นใหม่ ที่มาพร้อมกับงานออกแบบที่แหกขนบของการออกแบบรถ EV ที่มักจะต้องดูล้ำสมัยจนหลุดโลก หรือไม่ก็มีหน้าตาเหมือนโทรศัพท์ที่น่าเบื่อจนจืดจางไร้ความเป็นศิลปะ แต่นั่นก็ไม่ใช่กรณีของรถมอเตอร์ไซค์ที่หน้าตาเหมือนจักรยานไฟฟ้าคันนี้ เพราะมันถูกออกแบบโดย Pininfarina สำนักออกแบบที่ปั้นหน้าให้รถสปอร์ตสุดหรูมาแล้วนับไม่ถ้วน Eysing PF40 นั้นถึงจะมีหน้าตาเหมือนจักรยานไฟฟ้า แต่เนื่องจากว่ามันไม่มีแป้นถีบ ทำให้ถูกจัดไปอยู่ในกลุ่มมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแทน จุดเด่นที่ต้องคือรูปลักษณ์งานออกแบบที่มีความ Neo-Retro เรียบง่ายด้วยรูปทรงแบบย้อนยุค ส่วนที่เห็นได้ชัดที่สุดคือโคมไฟหน้าทรงกลม แต่มาสร้างด้วยชิ้นงานที่ดูทันสมัย และวัสดุระดับพรีเมี่ยม ซึ่งถูกออกแบบโดยสำนักออกแบบชื่อดังจากอิตาลีอย่าง Pininfarin จ่ายพลังงานด้วยแบตเตอรี่แรงดัน 48 V ที่มีความจุความจุ 1,720 WH ส่งกำลังด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่ติดตั้งในแกนล้อ ที่ให้พละกำลังสูงสุด 2.6 Hp สามารถเดินทางได้ไกลสุด 100 km ใช้เวลาชาร์จไฟ 4-8 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับแรงดันไฟฟ้าของระบบชาร์จ, น้ำหนักตัวรถอยู่ที่ 60 กิโลกรัม, ระบบเบรกเป็นดรัมเบรกทั้งหน้าและหลัง, ระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบสปริงคู่ ส่วนด้านหลังไม่มีระบบกันสะเทือน(เน้นสวยไม่เน้นสบาย) Eysing PF40 ที่เป็นทั้งรถไฟฟ้า…