หลังจากการเปิดตัว Yamaha MT-09 Y-AMT อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ซึ่งเป็นรถรุ่นใหม่ที่ได้รับการติดตั้งระบบเกียร์และคลัทช์ไฟฟ้า จนทำให้ผู้ขี่ไม่จำเป็นต้องกำคลัทช์ หรือเปลี่ยนเกียร์ด้วยตัวเองอีกต่อไป แต่ถ้าใครที่ติดตามข่าววงการมอเตอร์ไซค์ในช่วงปีที่ผ่านมา เราก็จะเห็นได้ว่าค่ายรถหลายราย กำลังพยายามพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถขับขี่รถ Bigbike ของตัวเองได้ไม่ต่างจากรถสกู๊ตเตอร์เกียร์ออโตเมติก วันนี้เราเลยจะพามาดูกันว่าทำไมค่ายรถแต่ละราย ถึงพัฒนาไปในทางเดียวกัน อันที่จริงแล้ว การพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่ไม่จำเป็นต้องกำคลัทช์นั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะในรถบ้านทั่วไปก็มีการใช้งานระบบเกียร์ CVT หรือ Continuously Variable Transmission หรือ เกียร์อัตราทดแปรผันต่อเนื่อง ที่นิยมใช้กับในรถมอเตอร์ไซค์สกู๊ตเตอร์อยู่แล้ว ถ้าย้อนไปอีกหน่อยก็จะเป็นระบบ คลัทช์แบบแรงเหวี่ยงหนีสูนย์กลาง ที่จะทำงานเมื่อรอบเครื่องยนต์หมุนเร็วกว่าที่กำหนด แต่ก็มีข้อจำกัดที่ผู้ขี่ยังจำเป็นต้องเปลี่ยนเกียร์เองอยู่ และระบบเหล่านี้ก็ไม่เหมาะที่จะใช้งานกับรถที่มีสมรรถนะสูง ถัดมาคือระบบ Quickshifter ที่ถือเป็นระบบที่มีความเรียบง่าย และสามารถนำมาใช้งานกับรถสมรรถนะสูงได้ เพราะถูกพัฒนาขึ้นมาสำหรับการใช้งานในสนามเป็นหลัก โดยระบบที่ว่านี้จะไม่ได้ไปยุ่งอะไรกับชุดเกียร์ของเดิมมากนัก เพียงแต่จะช่วยส่งสัญญาณตัดการจุดระเบิดของเครื่องยนต์ในช่วงเวลาสั้น ๆ ตอนที่เราทำการเปลี่ยนเกียร์ แต่ข้อจำกัดของระบบนี้คือไม่สามารถใช้งานได้ในรอบต่ำ หรือใช้สำหรับการออกตัวได้ แต่ด้วยความเรียบง่าย ก็ทำให้มันถูกติดตั้งอย่างแพร่หลายตั้งแต่ออกจากโรงงาน แต่จุดเปลี่ยนสำคัญคือในช่วงปีที่แล้วที่ Honda ทำการเปิดตัวระบบ E-Clutch หรือ…
Author: Kristha
Yamaha MT-09 Y-AMT ราคา ขายไทยเท่าไร? รถมอเตอร์ไซค์สปอร์ตเปลือยรุ่นใหม่ล่าสุด จากค่ายส้อมเสียง Yamaha ที่ได้ทำการเปิดตัวรุ่นย่อยใหม่ ที่มีการติดตั้งระบบเกียร์อัตโนมัติ Y-AMT อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ซึ่งระบบที่ว่านี้จะช่วยให้ผู้ขี่ไม่จำเป็นต้องกำคลัทช์หรือตบเกียร์อีกต่อไป เรียกได้ว่าเปลี่ยนเจ้าแห่งแรงบิดให้กลายเป็นรถออโตเมติกเต็มรูปแบบ แต่ราคาของรถรุ่นนี้จะอยู่ที่เท่าไร จะแพงกว่ารุ่นท็อปอย่าง MT-09 SP หรือไม่? Yamaha MT-09 Y-AMT นั้นเป็นการเอารถ MT-09 รุ่นมาตรฐาน มาทำการติดตั้งระบบ Y-AMT ซึ่งระบบที่ว่านี้จะเป็นการติดตั้งชุดควบคุมเกียร์ และชุดความคุมคลัทช์ด้วยระบบไฟฟ้าเข้าไป แล้วปล่อยให้ตัวรถทำหน้าที่ตัดสินใจเปลี่ยนเกียร์และกำคลัทช์แทนเรา ส่งผลให้ตัวรถสามารถขับขี่แบบเกียร์อัตโนมัติได้เต็มรูปแบบ แต่เราก็ยังสามารถเปลี่ยนไปเลือกเกียร์เองได้ ผ่านสวิตช์ที่มีเครื่องหมาย + และ – ที่ประกับแฮนด์ด้านซ้าย การวิเคราะห์ราคาจำหน่ายของรถรุ่นนี้ในประเทศไทย ก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากเท่าไรนัก เพราะตัวรถรุ่นนี้ได้ทำการประกาศราคาอย่างเป็นทางการออกมาแล้วที่สหราชอาณาจักร โดยเราขอเริ่มด้วยรถที่เปิดตัวไปแล้วก่อน ซึ่งรถในรุ่นมาตรฐานนั้นจะมีราคาอยู่ที่ 9,816 GBP (ประมาณ 439,000 บาท) ในขณะที่รุ่น SP จะมีราคาอยู่ที่…
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา พวกเราหลายคนที่ติดตามวงการรถมอเตอร์ไซค์ ก็คงจะสังเกตได้ว่าความนิยมของรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์นั้นอ่อนลงไปมาก ถ้าเทียบกับกระแสความบูม ที่เราสามารถเห็นคนขี่รถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่กันเต็มถนนเมื่อประมาณ 10 ปี ก่อน ซึ่งกระแสที่ว่านั้นก็ถูกแทนที่ด้วยการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของรถแนวบิ๊กสกู๊ตเตอร์ วันนี้เราเลยจะพามาดูกัน ว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้ตลาดเปลี่ยนไป แน่นอนว่าประเด็นแรกที่เป็นตัวบีบให้กระแสของรถมอเตอร์ไซค์ Bigbike ต้องเบาบางลงก็เป็นผลมาจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว เพราะหลังจากที่ทั้งโลกต้องเจอกับปัญหาโรคระบาด Covid-19 จนทำให้ทุกอย่างต้องชะงัก หลายคนไม่มีงานทำ หรือต่อให้มีงานทำก็ไม่มีลูกค้าเหมือนปกติ ซ้ำด้วยภาวะสงครามในต่างประเทศ ในสภาพการณ์แบบนี้ สิ่งที่ทุกคนต้องทำเหมือนกันคือการประหยัดอดออมให้มากที่สุด และตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไป และด้วยความที่ Bigbike นั้นเป็นสินค้าที่ถูกซื้อเพราะความอยากได้เป็นหลัก ไม่ใช่ของที่จำเป็นกับชีวิตประจำวันของคนส่วนใหญ่ และมันอาจจะไม่ใช่รถที่ถูกหยิบเอามาขับขี่ทุกวัน แต่จะใช้เพื่อความบันเทิงเป็นบางเวลามากกว่า แถมราคาของมันก็แพงพอกับรถยนต์คันเล็ก ๆ จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่ Bigbike จะเป็นของอย่างแรก ๆ ที่ถูกตัดออกไปเพราะความจำเป็น ไม่ต่างจากของเล่นและสินค้าฟุ่มเฟือยอย่างอื่น นอกจากนี้การปรับโครงสร้างภาษีใหม่ ก็ทำให้รถหลายรุ่นมีราคาแพงขึ้นแบบก้าวกระโดด นอกจากนี้ผู้ใช้ Bigbike ส่วนใหญ่ก็มักจะมองรถแบบนี้เป็นแค่รถทางเลือก คือต้องมีรถสกู๊ตเตอร์ประจำบ้าน หรือมีรถยนต์สักคันไว้เน้นใช้งานก่อน ถึงจะเริ่มมองหา Bigbike เพื่อเติมเต็มความอยากได้ส่วนตัว แต่ในสภาพเศรษฐกิจที่ผู้คนจำนวนมากก็แทบจะไม่สามารถครอบครองรถคันแรกได้แล้ว การจะมองหาภาระก้อนใหม่มาจอดไว้ที่บ้านโดยที่แทบไม่ได้ใช้งาน จึงเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมเท่าไร…
Kawasaki J350 รถมอเตอร์ไซค์บิ๊กสกู๊ตเตอร์รุ่นใหม่ จากค่ายเขียว Kawasaki ที่มีข่าวลือหนาหูในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ว่าพวกเขากำลังซุ่มพัฒนารถรุ่นดังกล่าว เพื่อเอามาบุกตลาดบิ๊กสกู๊ตเตอร์ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว วันนี้เราเลยจะพาทุกคนมาดูกัน ว่าข่าวลือดังกล่าวมีมูลมากขนาดไหน และจะเปิดตัวจริงภายในปีนี้เลยหรือไม่ แน่นอนว่าฟังมาถึงจุดนี้ ทุกคนก็คงอยากได้ข้อมูลบางอย่างที่เป็นชิ้นเป็นอัน หรือการฟันธงที่ช่วยให้สามารถตัดสินใจได้ว่าจะรอรถรุ่นนี้ หรือซื้อรถรุ่นอื่นไปเลย ซึ่งจากข้อมูลที่เราได้รับมาจาก Kawasaki Thailand ก็ทำให้สรุปได้ว่าพวกเขา ยังไม่มีแผนที่จะเปิดตัวรถบิ๊กสกู๊ตเตอร์ในอนาคตอันใกล้ ส่วนรถบิ๊กสกู๊ตเตอร์ที่วางจำหน่ายอยู่ในทวีปยุโรปอย่าง Kawasaki J125 หรือ J300 ก็ไม่มีแนวโน้มที่จะเอาเข้ามาขายในประเทศไทยด้วยเช่นกัน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะตัวรถเป็นโฉมเก่า ซึ่งมีสเปคที่ตกรุ่นไปนานมากแล้ว นอกจากนี้ยังไม่ใช่รถที่ทางค่ายเขียวเป็นคนพัฒนาขึ้นมาเองทั้งหมด แต่เป็นรถที่เกิดจากความร่วมมือกับค่ายรถจากไต้หวันอย่าง Kymco ซึ่งจะทำให้มีข้อเสียเปรียบด้านราคา แถมยังมีรายละเอียดหลายอย่างที่อาจไม่ถูกใจลูกค้าในอาเซียน ถึงอย่างนั้นผู้บริหารของ Kawasaki Indonesia ก็เคยออกมาเปรยเอาไว้ ว่าทางค่ายกำลังสนใจในตลาดของรถแนวสกู๊ตเตอร์ที่กำลังเติบโต และได้คุยเรื่องนี้กับทางญี่ปุ่นไปเรียบร้อยแล้ว โดยพวกเขาจะมองไปที่ตลาดของบิ๊กสกู๊ตเตอร์เป็นหลัก เนื่องจากรถสกู๊ตเตอร์ประจำบ้านในคลาสเล็กนั้นมีการแข่งขันที่ดุเดือดเกินไป และพวกเขาไม่น่าจะสู้เจ้าตลาดอย่าง Honda หรือ Yamaha ได้อย่างแน่นอน จากคำพูดของผู้บริหารมาถึงตรงนี้ก็ทำให้เราเชื่อว่า ถ้าโครงการรถบิ๊กสกู๊ตเตอร์ของพวกเขามีอยู่จริง มันอาจจะอยู่ในช่วงต้นของการพัฒนาเป็นอย่างมาก และต่อให้พวกเขาตัดสินใจพัฒนากันไปแล้ว…
ใกล้เข้ามามาแล้วกับการแข่งขัน AustrainGP ที่สนามแข่ง Red Bull Ring ประเทศออสเตรีย หนึ่งในสนามแข่งยุคใหม่ที่มีจุดเด่นในเรื่องของการทำความเร็ว Top Speed ไม่ต่างกับที่สนามแข่ง Mugello ในประเทศอิตาลี แต่ทุกคนรู้หรือไม่ว่านอกจากเรื่องของความเร็วแล้ว สนามแห่งนี้ยังขึ้นชื่อเรื่องความยากในการเบรกอีกด้วย และมันยากมากจนผู้จัดต้องเปลี่ยนกติกา เพื่อเพิ่มขนาดจานเบรกที่ใช้เลยทีเดียว View this post on Instagram A post shared by Brembo (@brembo) ในการแข่งขันมอเตอร์ไซค์ระดับ Grand Prix รถแข่งจากรุ่นเล็กและรุ่นกลางอย่าง Moto3 และ Moto2 นั้นจะใช้งานจานเบรกทั้งด้านหน้าและหลังที่ทำจากโลหะ ในขณะที่รุ่นใหญ่ MotoGP นั้นจะยังคงใช้งานจานเบรกแบบโลหะแค่ที่ล้อหลัง แต่ด้วยความเร็วของรถที่มากกว่า ทำให้ต้องมีการใช้งานจานเบรกแบบคาร์บอนเซรามิกที่ล้อหน้า ซึ่งมีจุดเด่นด้านการทนความร้อนจากการเบรกที่รุนแรงและต่อเนื่อง ส่วนสาเหตุที่จานเบรกหลังยังคงใช้แบบโลหะ ก็เป็นเพราะน้ำหนักตัวรถจะเทไปที่ด้านหน้าเกือบทั้งหมดในช่วงของการชลอตัว ทำให้ล้อหลังไม่ต้องรับภาระตรงนี้มากนัก ในส่วนของขนาดจานเบรกหน้าจะถูกแบบออกเป็น 3 ขนาด คือ 320…
2025 Kawasaki Versys 1100 รถมอเตอร์ไซค์สปอร์ตยกสูงรุ่นใหม่จากค่ายเขียว Kawasaki ร่างอัพเกรดเพิ่มความจุ เพิ่มเทคโนโลยี เตรียมเปิดตัวปลายปีนี้เพื่อท้าสู้กับ Honda NT1100 พร้อมลุ้นพี่น้องเครื่องใหญ่ในสไตล์อื่นอย่าง Ninja 1100 และ Z1100 ที่มีแววจะเปิดตัวตามมาในอนาคต ในปัจจุบันรถมอเตอร์ไซค์สายเที่ยวรุ่นใหญ่ของทางค่ายเขียว Kawasaki นั้นจะมีอยู่ด้วยกัน 2 รุ่นหลักคือ Ninja 1000 ที่เป็นสายเที่ยวสไตล์สปอร์ต และอีกรุ่นที่เป็นสายเที่ยวยกสูงอย่าง Versys 1000 ที่ถึงแม้จะยกสูง แต่ก็ยังมาพร้อมกับชุดล้อขนาด 17 นิ้ว และยางสำหรับการขับขี่บนทางดำเป็นหลัก อันที่จริงก็ยังมีสายเที่ยวที่หลุดโลกอย่าง Ninja H2 SX ที่มีตำแหน่งการตลาดที่พิเศษในแบบของตัวเอง ซึ่งข้อมูลของ 2025 Kawasaki Versys 1100 นั้นก็ไม่ใช่แค่ข่าวลือแบบไม่มีมูล เนื่องจากมันเป็นข้อมูลที่หลุดมาจากเอกสารการจดทะบียนของประเทศออสเตรเลีย ที่ระบุถึงรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ที่มีรหัสรุ่นว่า KLZ1100B โดยเราสามารถรับรู้ได้ว่าเป็นรถยกสูงรุ่นใหม่ก็เนื่องจาก Versys 1000…
ในช่วงพิธีปิดงาน Paris Olympic 2024 ที่จัดขึ้นในประเทศฝรั่งเศส แน่นอนว่าช่วงสำคัญที่หลายคนให้ความสนใจ ก็คือตอนที่ตัวแทนของเจ้าภาพในงานครั้งหน้าจะเข้ามารับธง Olympic เป็นเหมือนการส่งไม้ต่อของผู้จัดงาน โดยตัวแทนของ Lost Angles Oympic ที่จะจัดขึ้นในปี 2028 ก็คือดาราดังที่เราไม่ต้องอธิบายสรรพคุณอย่าง Tom Cruise ซึ่งเข้ามารับช่วงต่อธงด้วยรถมอเตอร์ไซค์หน้าตาแปลกอย่าง LiveWire S2 Del Mar โดยสเปคของมันจะเป็นแบบไหน เรามาดูกัน ก่อนอื่นเราก็ต้องมาอธิบายกันสักหน่อยว่า LiveWire นั้นเป็นแบรนด์รถมอเตอร์ไซค์พลังงานไฟฟ้าหน้าใหม่ ที่ถูกก่อตั้งโดยบริษัทรถอเมริกันในตำนานอย่าง Harley-Davidson ที่ต้องการสร้างแบรนด์รถมอเตอร์ไซค์พลังงานทางเลือก แต่ไม่อยากให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์อเมริกันบ้ากล้าม ที่เปี่ยมไปด้วยเทสโทสเตอโรนต้องเสียไป ซึ่งรถคันแรกของพวกเขาก็คือ LiveWire ONE ซึ่งเป็นการเอา Harley-Davidson LiveWire ที่มีหน้าตาแบบเดียวกัน มาปรับสเปคของแบตเตอรี่นิดหน่อยและตีตราขายใหม่ และรถคันถัดมาของพวกเขาก็คือ LiveWire S2 Del Mar ที่ Tom Cruise ขี่ในงานพิธีปิด…
Ducati Panigale V2 รถมอเตอร์ไซค์สปอร์ตคลาสกลาง จากค่ายแดง Ducati ที่ได้ทำการเปิดตัวรถรุ่นพิเศษเพื่อส่งท้ายตำนานด้วย Superquadro Final Edition ไปเมื่อเดือนที่ผ่านมา แน่นอนว่าเรื่องนี้ก็ทำให้หลายคนตั้งคำถามว่าอนาคตของ Panigale น้องเล็กจะเป็นอย่างไรต่อไป จะหายไปเลยไหม? หรือจะพัฒนาไปใช้เครื่องยนต์แบบ V4 ตามรุ่นพี่? ซึ่งข้อสงสัยนี้ก็ได้ถูกแก้โดย Giulio Fabbri หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ของ Ducati ที่ให้ข้อมูลกับสื่ออย่างชัดเจนว่า “เครื่องยนต์แบบ V2 ไม่ได้หายออกไปจากตลาด สิ่งที่หายไปจะเป็นแค่เครื่องยนต์ลูกนึงเท่านั้น รถรุ่นนี้จะเป็นรุ่นสุดท้ายที่ใช้เครื่องยนต์ Superquadro แต่บางอย่างที่ใหม่กว่า กำลังจะตามมา” “แน่นอนว่าเราจะยังได้เห็น Panigale ที่ใช้เครื่องยนต์ V2 แต่มันยังเร็วไปที่จะบอกอะไรเพิ่มในตอนนี้ ผมบอกไม่ได้ว่ารถรุ่นใหม่จะมาตอนไหน แต่สำหรับเราแล้วเครื่องยนต์แบบ V2 นั้นสิ่งที่พิเศษ และเป็นส่วนสำคัญของ Ducati มันจะเป็นรถรุ่นใหม่หมดจดคันแรกของปี 2025 พวกคุณจะได้รู้ข้อมูลมากกว่านี้ในปีหน้า และผมมั่นใจเลยว่าคุณจะชอบมัน” สิ่งที่เราอยากรู้ต่อก็คือเรื่องของสเปค ที่ในตอนนี้พวกเราก็คงจะทำได้แค่คาดเดา แต่ถ้าเทียบกับสเปคของ…
Triumph Speed 400 และ Scrambler 400X สองพี่น้องรถมอเตอร์ไซค์คลาสเริ่มต้น จากค่ายผู้ดี Triumph ที่ถูกสร้างขึ้นบนความร่วมกับ Bajaj ค่ายผู้ผลิตยักษ์ใหญ่จากประเทศอินเดีย ซึ่งรถทั้งสองนั้นก็ถูกเปิดตัวออกมาได้อย่างสวยงาม ด้วยยอดขายทั่วโลกในปีแรกที่พุ่งทะลุ 50,000 คัน แน่นอนว่าพวกเขาคงจะไม่หยุดอยู่แค่นั้น เพราะตอนนี้มีข่าวลือออกมาว่าจะมีการเปิดตัวรถใหม่อีก 2 รุ่น ที่สร้างอยู่บนพื้นฐานเดียวกัน โดยรายงานดังกล่าวนั้นไม่ใช่แค่ข่าวลือทั่วไปจากวงการรถมอเตอร์ไซค์ แต่เป็นข่าวที่ออกมาจากสื่อสายเศรษฐกิจรายใหญ่ของอินเดียอย่าง CBNC TV18 ที่ได้รายงานว่ามีแหล่งข่าวไม่ระบุตัวตนจาก Bajaj ได้ให้ข้อมูลว่าจะมีรถมอเตอร์ไซค์ใหม่ที่สร้างขึ้นบนพื้นฐานของ Speed 400 และ Scrambler 400X อีกสองรุ่นที่รอจะเปิดตัวก่อนช่วงเทศกาล Dewali ที่จะมีขึ้นในช่วงปลายเดือนตุลาคม ในประเทศอินเดีย ซึ่งข่าวลือนี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่เกินความคาดหมาย เนื่องจากแพลตฟอร์มคลาสเล็กจาก Triumph และ Bajaj นั้นเป็นแพลตฟอร์มที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ ให้สามารถดัดแปลงเป็นรถรุ่นอื่นได้หลากหลายแนว และเพื่อให้การพัฒนาครั้งนี้เกิดความคุ้มค่า พวกเขาก็ควรจะต้องเปิดตัวรถรุ่นใหม่ที่ใช้งานแพรตฟอร์มนี้ให้มากที่สุด ตรงกับที่ผู้บริหารของ Bajaj เคยบอกเอาไว้ว่าจะมีรถรุ่นใหม่ที่สร้างขึ้นบนแพรตฟอร์มนี้ถูกเปิดปีละ 1…
ในยุคของการเปลี่ยนผ่านจากการใช้ยานพาหนะเครื่องยนต์สันดาป มาเป็นพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ ค่ายรถหลายรายต่างต้องลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ด้วยเม็ดเงินมหาศาล ซึ่งวิธีหนึ่งที่สามารถแบ่งเบาภาระตรงนั้นได้ ก็คือการร่วมทุนพัฒนารถใหม่กับบริษัทอื่น ซึ่งล่าสุดค่ายรถยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นอย่าง Honda และ Yamaha ก็ได้ทำการประกาศข้อตกลงร่วมกัน ว่าทางค่ายปีกนกจะเป็นผู้ผลิตรถพลังงานไฟฟ้าให้กับค่ายส้อมเสียง ย้อนกลับไปในปี 2019 ค่ายรถสองรายนี้ทั้ง Honda และ Yamaha ได้ทำข้อตกลงที่จะพัฒนามาตรฐานแบตเตอรี่แบบถอดชาร์จได้ร่วมกัน ซึ่งจะช่วงแก้ปัญหาการชาร์จที่กินเวลานานเกินไป นอกจากนี้การที่ผู้ใช้สามารถถอดสลับแบตเตอรี่แบบข้ามค่ายได้ ก็จะช่วยให้เทคโนโลยียานพาหนะพลังงานไฟฟ้าเป็นที่นิยมมากขึ้นไปอีก และหลังจากนั้นไม่นาน ค่ายรถมอเตอร์ไซค์รายใหญ่รายอื่นอย่าง Suzuki Kawasaki KTM Piaggio ก็ได้ร่วมลงนามในข้อตงลงที่ว่านี้ด้วย เรียกได้ว่าเป็นก้าวสำคัญของวงการเลยทีเดียว แน่นอนว่าค่ายรถรายแรกที่เปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์พลังงานไฟฟ้า ที่ใช้งานชุดแบตเตอรี่แบบถอดเปลี่ยนได้ Honda Mobile Power Pack e: ก็ต้องเป็นหัวหอกอย่างค่ายปีกนก ที่ได้ทำการเปิดตัว EM1 e: และ BENLY e: ที่ถือเป็นรถพลังงานไฟฟ้าที่เทียบได้กับมอเตอร์ไซค์เครื่องยนต์สันดาปที่ใช้เครื่องยนต์ขนาด 50 ซีซี และรถทั้งสองรุ่นที่ว่านี้ ก็จะถูกใช้เป็นพื้นฐานให้ทาง Yamaha เอาไปพัฒนาต่อ…