CFMoto ค่ายรถมอเตอร์ไซค์ยักษ์ใหญ่จากแดนมังกร ถือว่าเป็นรถอีกค่ายที่กำลังไปได้ดีในตลาดโลก แย่งส่วนแบ่งตลาดจากทั้งรถญี่ปุ่นและยุโรปได้มากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเริ่มตั้งตัวจากการผลิตรถมอเตอร์ไซค์ที่มาพร้อมเครื่องยนต์คลาสเล็ก และยืมเครื่องยนต์จากรถคลาสใหญ่ค่ายอื่นมาใช้ในช่วงแรก แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้อาจได้เวลาที่พวกเขาจะเปิดตัวรถคลาสใหญ่ที่ใช้เครื่องยนต์ของตัวเองแล้ว ในปัจจุบันรถมอเตอร์ไซค์คลาสใหญ่ที่สุดจาก CFMoto ที่ใช้งานเครื่องยนต์ที่ผลิตเองในค่ายนั้นคือคลาส 450 ซีซี เป็นเครื่องยนต์แบบ 2 สูบเรียง ที่ใช้งานอยู่ในรถอย่าง 450SR หรือ 450MT เพราะเครื่องยนต์ในความจุที่ใหญ่ก็นั้นอย่างคลาส 650 ก็เป็นของที่เอามาจาก Kawasaki รวมถึงเครื่องยนต์ในคลาส 800 และ 1250 ก็เป็นของที่พัฒนาต่อยอดมาจากเครื่องยนต์ของค่ายพันธมิตรอย่าง KTM แต่ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา CFMoto ก็ได้ทำการโชว์ตัวรถมอเตอร์ไซค์สปอร์ตรุ่นต้นแบบถึง 2 คัน ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ใหม่ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเองภายในค่าย ซึ่งอยู่ในสภาพใกล้ความเป็นจริงคือ 500SR รถสปอร์ตคลาสกลางที่จะมาพร้อมเครื่องยนต์แบบ 4 สูบเรียง 500 ซีซี ที่ดูเหมือนว่ามันจะมาเป็นคู่แข่งกับรถสปอร์ตคลาสตำนานอย่าง Kawasaki ZX-4R แต่มีแต้มต่อด้านความจุเครื่องยนต์ที่มากกว่า แต่ก็ต้องรอดูกันต่อว่าเครื่องยนต์ลูกนี้จะเต็มไปด้วยแรงม้าอย่างรถคู่แข่งหรือไม่ เนื่องจากรถต้นแบบมีตำแหน่งแฮนด์ที่ไม่ได้หมอบมากนัก ทำให้เราเชื่อว่ารถรุ่นนี้จะเป็นรถ 4…
Author: Kristha
จบไปแล้วกับการซ้อนช่วง P1 ของ Moto2 ในรายการ SpanishGP ก้อง สมเกียรติ จันทา จบการซ้อมนี้ด้วยอันดับ 12 เนื่องจากล้มไปในช่วงซ้อม แต่นักแข่งปลอดภัยดี 1 16 J.Roberts 1:40.664 2 54 F.Aldeguer +0.234 3 3 S.Garcia +0.267 4 24 M.Ramirez +0.300 5 79 A.Ogura +0.329 6 18 M.Gonzalez +0.335 7 84 Z.Vd Goorbergh +0.471 8 21 A.Lopez +0.551 9 75 A.Arenas +0.601…
Bimota ค่ายรถมอเตอร์ไซค์ขนาดเล็กจากอิตาลี ประกาศทำทีมลงแข่งขันในรายการรถมอเตอร์ไซค์โปรดักชั่นทางเรียบที่ใหญ่ที่สุดในโลก WSBK หรือ FIM Superbike World Championship ซึ่งจะทำให้เวทีรถตลาดที่ว่านี้น่าตื่นเต้นขึ้นไปอีกขั้น แต่ทำไมค่ายรถเล็กจิ๋วรายนี้ถึงลงแข่งได้? เพราะรถแข่งสเปคสนามยังไม่มีด้วยซ้ำ? เราต้องขอเริ่มอธิบายที่มาที่ไปก่อนว่าตอนนี้ค่ายรถ Bimota มีผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นค่ายรถจากญี่ปุ่นอย่าง Kawasaki ทำให้ทีมแข่งใหม่ที่จะเกิดขึ้นนั้นจะเป็นการแบ่งทรัพยากรมาจากทีมโรงงานของ Kawasaki ที่มีประสบการณ์เป็นแชมป์โลกโดยตรง ซึ่งชื่อทีมที่จะใช้ก็มีการประกาศอย่างชัดเจนด้วยชื่อ Bimota by Kawasaki Racing Team และถึงแม้ว่าตอนนี้พวกเขาจะไม่มีรถมอเตอร์ไซค์สปอร์ตคลาสพัน สำหรับใช้งานในสนามเลยสักคัน แต่ก็ไม่หมายหมายความว่าพวกเขาจะนำรถ Kawasaki ZX-10RR มาแปะลายธงชาติอิตาลีเพื่อลงแข่ง แบบเดียวกับที่ทีมแข่ง GASGAS ทำในเวที MotoGP โดยการเอารถ KTM RC16 มาเปลี่ยนสีเท่านั้น เพราะด้วยความที่เอกลักษณ์ของรถของ Bimota นั้นจะเป็นการเอาเครื่องยนต์ของรถที่มีอยู่แล้วมาครอบด้วยเฟรมใหม่ที่พวกเขาสร้างขึ้นมาเอง ในประกาศล่าสุดนี้ก็ได้มีการบอกไว้เลยว่าพวกเขาจะเอาเครื่องยนต์ของ Kawasaki ZX-10RR มาใช้งานร่วมกับเฟรมใหม่ของค่ายเช่นเดียวกัน เพียงแต่ต้องรอรถใหม่ที่ว่าเปิดตัวอีกที การทำทีมแข่ง WSBK ครั้งนี้ของ…
2025 KTM 450 Rally Replica รถมอเตอร์ไซค์ตัวแข่งสายฝุ่นจาก KTM ได้ทำเปิดตัวโฉมใหม่ที่ได้รับการปรับปรุงชุดใหญ่แบบ All-New เพื่อเพิ่มความโหดและความพร้อมสำหรับลงแข่งในรายการ Rally Dakar ซึ่งรถรถคันนี้ก็เป็นรถที่ทำขึ้นมาสำหรับการแข่งขันเท่านั้น แต่ถ้าคุณมีเงินและความเร็วมากพอ คุณก็สามารถซื้อรถแข่งคันนี้มาครอบครองได้เช่นกัน 2025 KTM 450 Rally Replica นั้นถึงแม้ว่าจะเป็นแค่รถแข่งที่ไม่ได้ขายในปริมาณมาก แต่ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่รถรุ่นนี้จะทำการแปลงโฉมเพิ่มความโหด โดยมันจะยังคงมาพร้อมกับเครื่องยนต์แบบระบายความร้อนด้วยน้ำ 1 สูบ ปริมาตรกระบอกสูบ 449 ซีซี ที่ยกมาจาก KTM 450 SX-F แต่ทำการเปลี่ยนฝาสูบชุดใหม่(ยังคงเป็น SOHC เช่นเดิม) รวมถึงเปลี่ยนชุดคลัทช์และเกียร์ใหม่เพื่อเพิ่มความแข็งแรง กับพละกำลังที่คาดว่าจะเกิน 70 แรงม้า ชุดเฟรมยังคงเป็นแบบเหล็กท่อสีส้ม แต่ทำการออกแบบใหม่และเชื่อมขึ้นด้วยมือในโรงงานสำหรับรถแข่งที่ Mattighofen สวิงอาร์มอลูมิเนียม หม้อน้ำถูกเพิ่มให้เป็น 2 ชุด โดยหม้อน้ำแต่ละชุดสามารถทำงานแทนกันได้เมื่ออีกอันเสียหาย ทางด้านถังน้ำมันจะมีมาให้ถึง 3 ถัง…
Vespa รถมอเตอร์ไซค์สกู๊ตเตอร์สไตล์คลาสสิกที่มีแฟนคลับเหนียวแน่นจากทั่วโลก ผู้ใช้หลายคนก็มักจะพารถสกู๊ตเตอร์คันเล็กเหล่านี้ ไปทำกิจกรรมที่ดูเกินตัวรถสกู๊ตเตอร์ธรรมดา และหนึ่งในนั้นคือคุณลุง Valerio Boni อายุ 65 ปี จากอิตาลี ที่ตัดสินใจพารถ Vespa 50 Special จากปี 1979 มาทำสถิติวิ่งอึดต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง คุณลุง Valerio Boni นั้นเป็นนักทดสอบรถและสื่อสายมอเตอร์ไซค์จากอิตาลี เขานั้นเป็นคนที่เคยมีโอกาสได้ทดสอบรถรุ่นนี้ ตั้งแต่ตอนที่มันถูกเปิดตัวออกมาเป็นครั้งแรกในปี 1979 ซึ่งตอนนั้นคุณลุงยังมีอายุเพียง 20 ปี โดยในตอนนั้นคุณลุงได้ทำการเอารถ Vespa 50 Special คันเดียวกันนี้ลงวิ่งในสนามทดสอบของ Pirelli จนได้ระยะทางแบบไม่เป็นทางการที่ 941 กิโลเมตร และครั้งนี้คุณลุงก็กลับมาอีกครั้งพร้อมกับรถคันเดิมที่ได้รับการพื้นฟูจนดูเหมือนใหม่ เพื่อเอามาทำสถิติอีกครั้งในแบบที่เป็นทางการ โดยการวิ่งแบบไม่หลับไม่นอนเป็นเวลา 24 ชั่วโมง นั้นก็ได้ทำขึ้นที่สนามวงรี Terramar ในประเทศสเปน การเติมน้ำมันหรือพักดื่มน้ำทั้งหมดก็ต้องทำในขณะที่รถกำลังวิ่งอยู่ จนสุดท้ายคุณลุง Valerio…
ความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ที่สุดของ MotoGP ที่หลายคนกำลังเฝ้ารออยู่ในตอนนี้ ก็คงจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับกติกาใหม่สำหรับการแข่งขันในปี 2027 ที่ยังไม่ออกมาให้เราเห็นเสียที รู้แค่ว่าทีมร่างกติกาต้องการลดความจุเครื่องยนต์ และตัดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงปีกแอโร่ไดนามิคให้รถเรียบง่ายขึ้น ซึ่งเหตุผลที่กติกาใหม่ที่ว่ายังไม่ถูกประกาศออกมา ก็เป็นเพราะค่ายผู้ผลิตยังตกลงกันไม่ได้ ว่าจะทำอย่างไรต่อกับรถรุ่นปัจจุบัน การถกเถียงครั้งนี้ที่กำลังดำเนินอยู่เกิดจากปัญหาที่ว่า ถ้าค่ายผู้ผลิตจะต้องลงทุนพัฒนารถมอเตอร์ไซค์คันใหม่ตั้งแต่ต้น สำหรับการแข่งขันในปี 2027 แปลว่าช่วงเวลาระหว่างนั้น พวกเขาก็จะยังต้องพัฒนารถมอเตอร์ไซค์รุ่นปัจจุบันควบคู่ไปด้วย และยังต้องลงเงินพัฒนารถคันเก่าไปจนถึงการแข่งขันสนามสุดท้ายในปี 2026 ก่อนที่จะโยนสุดยอดตัวแข่งคันนั้นเข้าห้องเก็บของ ซึ่งดูเป็นตัวเลือกทางการเงินที่ไม่ดีเสียเลย ทำให้ค่ายผู้ผลิตใน MotoGP ตอนนี้แบ่งเป็นสองกลุ่มคือ Ducati/Aprilia/KTM ที่ยินดีที่จะหยุดการพัฒนารถรุ่นปัจจุบัน แล้วเอางบประมาณไปลงกับตัวแข่งใหม่ในอนาคต กับทางฝั่งของ Honda/Yamaha ที่มองว่าพวกเขาต้องพัฒนารถรุ่นปัจจุบันควบคู่ไปกับรถใหม่ เพราะไม่อย่างนั้นรถจากฝั่งญี่ปุ่นจะต้องนอนกองอยู่ท้ายแถวไปอีก 3 ปี ก่อนที่รถรุ่นใหม่จะถูกเอามาใช้ สิ่งที่เป็นตัวแปรในการตัดสินใจเรื่องนี้ นอกจากจะมีเรื่องของฟอร์มของแต่ละค่ายที่แตกต่างกันแล้ว(ค่ายท้ายแถวอยากพัฒนา ค่ายหัวแถวไม่คิดมาก) ก็มีเรื่องของเงินเป็นปัจจัยร่วมด้วย เพราะค่ายรถจากญี่ปุ่นถือว่ามีขนาดใหญ่และมีเงินเหนือกว่าค่ายยุโรปมาก จึงไม่มีปัญหาในการลงทุนหลายด้านพร้อมกัน สุดท้ายปัญหาที่ว่านี้จะถูกแก้อย่างไรก็คงต้องติดตามกันต่อไป เราอาจจะได้เห็นการหยุดพัฒนารถของแต่ละค่ายที่แตกต่างกัน โดยอ้างอิงจากผลงานการเก็บชัยชนะและโพเดียมก็เป็นได้ เพื่อให้รถท้ายแถวได้มีโอกาสทำผลงานตามหัวแถวบ้าง ที่มา crash อ่านข่าวสาร MotoGP เพิ่มเติมได้ที่นี่
รถมอเตอร์ไซค์สปอร์ตคลาสตำนานแบบ 4 สูบ 400 ซีซี นั้นถือเป็นกลุ่มของรถมอเตอร์ไซค์ที่เรามักจะจับไปเชื่อมโยงกับผู้ผลิตฝั่งญี่ปุ่นทั้ง 4 ค่าย แต่รู้หรือไม่ว่าในยุคเดียวกันกับที่รถคลาสนี้กำลังรุ่งเรือง ค่ายรถยุโรปขนาดเล็กอย่าง Bimota ก็ได้สร้างรถคู่แข่งมาร่วมแย่งส่วนแบ่งตลาดที่กำลังเป็นที่นิยมนี้ด้วย จนเกิดขึ้นเป็น Bimota YB7 ปกติแล้ว Bimota เป็นค่ายรถขนาดเล็กจากยุโรป ที่มักจะนำเอาเครื่องยนต์ของค่ายรถรายใหญ่มาติดตั้งในโครงสร้างรถที่พวกเขาทำขึ้นมาเอง แน่นอนว่า Bimota YB7 ที่ว่านี้ก็ไม่ต่างกัน เพราะเครื่องยนต์ที่ใช้ขับเคลื่อนรถรุ่นนี้ก็ยกมาจาก Yamaha FZR400 รถสปอร์ตคลาสตำนานจากฝั่งญี่ปุ่นนั่นเอง โดยจุดเริ่มต้นของรถรุ่นนี้ก็มาจากการที่ตัวแทนจำหน่าย Bimota ในญี่ปุ่นต้องการรถมอเตอร์ไซค์สปอร์ตขนาดเล็กมาสู้กับเจ้าตลาดในประเทศ แต่ก็ต้องการรถที่มีความสปอร์ต มีเอกลักษณ์โดดเด่นแบบอิตาลีทั้งในด้านการออกแบบและการขับขี่ สำหรับลูกค้าที่ไม่มีเงิน หรือไม่มีใบขับขี่สำหรับมอเตอร์ไซค์คลาสใหญ่ของค่าย ซึ่งในตอนนั้นเป็นช่วงที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังเติบโต ยอดขายของค่ายรถขนาดเล็กรายนี้ก็มาจากญี่ปุ่นเกือบครึ่งนึง ส่งผลให้ Bimota ตกลงสร้างรถรุ่นนี้ขึ้นมาเพื่อเจาะตลาดญี่ปุ่นโดยเฉพาะ โดยมีการทำข้อตกลงกับตัวแทนจำหน่ายในญี่ปุ่นว่าจะต้องผลิตรถสำหรับตลาดญี่ปุ่นก่อน หลังจากนั้นพวกเขาจึงจะนำรถรุ่นนี้ไปขายในตลาดอื่นได้ แต่ต้องมียอดการผลิตรวมไม่เกิน 500 คัน เพื่อรักษาความพิเศษ ตัวรถใช้เครื่องยนต์แบบระบายความร้อนด้วยน้ำ 4 จังหวะ 4 สูบเรียง…
ระบบคลัทช์ไฟฟ้าของ Honda ที่เพิ่งเปิดตัวมาไม่นานอย่าง E-Clutch ถือเป็นเทคโนโลยีที่สร้างความฮือฮาได้พอสมควรในตลาดรถยุคใหม่ เพราะถึงแม้ว่ามันไม่ใช่ตัวช่วยแรกที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหา “ขี้เกียจกำคลัทช์” แต่มันเป็นเทคโนโลยีที่ดูเข้าถึงง่ายกว่าของแบบเดียวกันที่เคยมีมาก่อนหน้า เนื่องจากมันถูกใช้อยู่ในรถที่มีราคาไม่แพง แถมยังมีแนวโน้มที่จะกระจายไปสู่รถหลากหลายรุ่นในอนาคตอันใกล้ เพราะฉะนั้นจะมีหรอที่คู่แข่งอย่าง Yamaha จะไม่ทำตามบ้าง? ภาพสิทธิบัตรล่าสุดจาก Yamaha ได้ทำการจดทะเบียนเกี่ยวกับเทคโนโลยีตัวช่วยการเปลี่ยนเกียร์ของรถมอเตอร์ไซค์เกียร์ธรรมดา ที่จะทำให้ผู้ขับขี่ไม่จำเป็นต้องกำคลัทช์ขณะเปลี่ยนเกียร์ เช่นเดียวกับระบบ Honda E-Clutch แต่ระบบที่ว่านี้จากฝั่งส้อมเสียงก็จะมีความแตกต่างจากฝั่งค่ายปีกนกพอสมควร โดยในระบบของ Honda จะมีการเพิ่มอุปกรณ์ควมคุมชุดคลัทช์ที่ด้านขวาของเครื่องยนต์เพียงอย่างเดียว เพื่อมาแทนที่การกำคลัทช์ด้วยมือของผู้ขี่ แต่ในฝั่งของ Yamaha จะมีทั้งการเพิ่มอุปกรณ์ควมคุมชุดคลัทช์ที่ด้านขวา รวมถึงอุปกรณ์ควบคุมชุดเกียร์ที่ด้านซ้ายของเครื่องยนต์เข้าไปด้วย ซึ่งของที่เพิ่มเข้ามานี้ก็จะทำให้ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนเกียร์เองเลยด้วยซ้ำ นอกจากนี้ในภาพสิทธิบัตรยังมีการระบุถึง “สวิทช์เพิ่มและลดเกียร์” บนประกับแฮนด์ฝั่งซ้ายมือ คล้ายกับที่มีอยู่ในรถที่ใช้ระบบเกียร์ DCT จาก Honda เนื่องจากตอนนี้รถของเราสามารถควบคุมจังหวะการกำคลัทช์และเปลี่ยนเกียร์ได้ผ่านสมองกลของรถ ถ้าจะบอกว่าระบบที่ว่านี้จะทำให้รถของเราสามารถใช้งานแบบเดียวกับรถเกียร์ออโตเมติกก็คงจะไม่ผิด แต่ถึงอย่างนั้นระบบที่ว่านี้ก็ไม่ได้เหมือนกับระบบเกียร์ DCT หรือ Dual Clutch Transmission เนื่องจากรถของเรายังมีชุดคลัทช์เพียงแค่ชุดเดียวเท่านั้น ถึงแม้ว่าจังหวะการตัดต่อกำลังจะลื่นไหลมากกว่าการที่เราเปลี่ยนเกียร์ตามปกติ แต่ก็ไม่มีทางทำได้เรียบเนียนและต่อเนื่องเท่ารถที่มี 2 คลัทช์…
ดิสก์เบรก เป็นระบบห้ามล้อที่ถือว่าได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน การทำงานของมันถือว่าเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน แถมมีประสิทธิภาพ เพียงแค่บีบตัวจานเบรกให้แรงพอในขณะที่รถของเราวิ่งอยู่ ก็จะทำให้รถเคลื่อนที่ช้าลงจนหยุดนิ่งในที่สุด ซึ่งวัสดุที่ใช้ทำดิสก์เบรกในปัจจุบันก็จะมีอยู่ด้วยกัน 2 แบบคือ เหล็ก และ คาร์บอน-เซรามิก แต่ทุกคนรู้หรือไม่ว่าดิสก์เบรกทั้งคู่นั้นมีความแตกต่างกันอย่างไร? เราจะขอเริ่มต้นกันตั้งแต่หลักการพื้นฐานของดิสก์เบรกกันก่อน โดยปกติแล้ววัตถุอะไรก็ตามที่มีเคลื่อนที่ ก็จะเก็บสะสมพลังงานจลน์ไว้ในตัวเอง พลังงานเหล่านั้นจะสูงขึ้นตามความเร็วที่วัตถุนั้นเคลื่อนที่ วิธีการลดความเร็วของวัตถุนั้น ถ้าไม่สร้างแรงขับเคลื่อนไปในทิศทางตรงข้าม ก็ต้องหาวิธีระบายพลังงานจลน์ที่ว่าออกมา ซึ่งดิสก์เบรกและผ้าเบรกก็จะทำหน้าที่สร้างแรงเสียดทานระหว่างกัน แล้วเปลี่ยนพลังงานจลน์ของรถให้กลายเป็นพลังงานความร้อน เมื่อพลังงานจลน์ลดลง ความเร็วก็จะลดลง ซึ่งดิสก์เบรกที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ “ดิสก์เบรกเหล็ก” ที่ทำจากวัสดุเหล็กหรือโลหะผสม มีจุดเด่นด้านราคาที่ถูก ผลิตง่าย ผลิตจำนวนมากได้ไวด้วยเทคโนโลยีทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นการตัดด้วยเลเซอร์หรือหล่อชิ้นส่วนโลหะตามปกติ แถมยังทนความร้อนได้มากพอตัว ซึ่งแปลว่าสามารถรองรับการใช้งานที่หนักหน่วงและต่อเนื่องได้พอประมาณ หรืออย่างน้อยก็มากพอสำหรับการใช้งานในสถานการณ์ทั่วไปในชีวิตประจำวัน ทางด้านของ “ดิสก์เบรกคาร์บอน-เซรามิก” นั้นผลิตขึ้นจากการผสมเส้นใยคาร์บอน แบบเดียวกับที่ใช้ในชิ้นส่วนคาร์บอนไฟเบอร์ เข้ากับซิลิกอนเรซินที่ทนความร้อนสูง แล้วนำไปบีบอัดด้วยความดันและความร้อนสูง ซึ่งขั้นตอนทั้งหมดที่ว่านี้ทำให้การผลิตจานเบรกแต่ละชิ้นต้องใช้เวลานานนับเดือน ยากต่อการผลิตในจำนวนมาก ส่งผลกระทบไปถึงต้นทุนที่สูงขึ้น เมื่อเทียบกับดิสก์เบรกเหล็กที่ใช้เวลาไม่กี่นาทีต่อชิ้น ทางด้านข้อดีด้านการใช้งานของดิสก์เบรกคาร์บอน-เซรามิก ที่เหนือกว่าดิสก์เบรกเหล็กนั้นก็เรียกได้ว่ารอบด้าน เพราะมันทั้งเบากว่า และแข็งแรงกว่าด้วยเส้นใยคาร์บอนไฟเบอร์ มีการสึกหรอช้ากว่า…
Honda CB1000 Hornet รถมอเตอร์ไซค์สปอร์ตเปลือยรุ่นใหญ่จากค่ายปีกนก Honda ที่ได้ทำการเปิดตัวครั้งแรกในงาน EICMA เมื่อปลายปีที่ผ่านมา แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีการเปิดเผยสเปคอย่างเป็นทางการออกมาเสียที จนล่าสุดเราก็มีการอัพเดตข้อมูลใหม่ จากภาพสิทธิบัตรที่ทำให้เราเชื่อว่าตัวต่อตัวท็อปรุ่นนี้ อาจมาพร้อมกับระบบคลัทช์ไฟฟ้า E-Clutch E-Clutch หรือระบบคลัทช์ไฟฟ้านั้นเป็นสิ่งประดิษฐ์ใหม่จากค่ายปีกนก ที่จะช่วยให้ผู้ใช้รถสามารถขับขี่รถเกียร์ธรรมดาของตัวเองได้โดยไม่ต้องกำก้านคลัทช์ เพิ่มความสะดวกในการใช้งานในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี โดยระบบนี้ถูกนำมาติดตั้งเป็นครั้งแรกใน CB650R และ CBR650R นอกจากนี้ทางค่ายก็มีแผนที่จะนำระบบดังกล่าวไปใช้กับรถรุ่นอื่นในอนาคตด้วย ซึ่งรถรุ่นอื่นที่ว่าก็อาจจะเป็นรถสปอร์ตเปลือยรุ่นใหญ่อย่าง Honda CB1000 Hornet หากอ้างอิงจากภาพสิทธิบัตรใหม่ของค่าย ที่มีรูปของ CB1000R ที่ได้ทำการติดตั้งระบบ E-Clutch มาให้ด้วย ซึ่งรถทั้งสองรุ่นนั้นก็ใช้เครื่องยนต์ตระกูลเดียวกัน และยังถือเป็นรถที่จะมาทำตลาดแทนที่กันและกันโดยตรง นอกจากนี้สไตล์ของรถสปอร์ตเปลือยที่มีสมรรถนะสูง แถมยังใช้งานในเมืองได้ ก็นับว่าเป็นกลุ่มตลาดที่เหมาะสมที่จะติดตั้งระบบคลัทช์ไฟฟ้าที่ว่านี้ สิ่งที่เพิ่มเข้ามาในสิทธิบัตรใหม่นอกเหนือจากระบบ E-Clutch ปกติคือ ระบบก้านคลัทช์ไฟฟ้าแบบ Clutch-by-Wire คล้ายกับคันเร่งไฟฟ้า ที่จะทำการถอดสายคลัทช์ออกไป แล้วเปลี่ยนไปใช้ระบบไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ทำให้วิศวกรสามารถเพิ่มลูกเล่นของระบบอิเล็กทรอนิกส์ส่วนอื่น รวมถึงเพิ่มฟังก์ชั่นการทำงานของ E-Clutch ได้มากกว่าของเดิมที่ยังใช้ก้านคลัทช์แบบที่ควมคุมด้วยเส้นลวด จะบอกว่าเป็นระบบ…