ก่อนหน้านี้ในปีที่แล้ว MotoGP และ Michelin ได้ทำการทดลองใช้กติกาควบคุมแรงดันลมยางใหม่ เพื่อห้ามไม่ให้ทีมแข่งลดแรงดันลมยางต่ำไปกว่าที่กำหนด เนื่องจากทีมแข่งเหล่านั้นพยายามลดแรงดันลมยางลงเพื่อเพิ่มการยึดเกาะ แต่ก็ตามมาด้วยปัญหาความเสี่ยงที่ยางอาจจะหลุดออกจากวงล้อ แต่ตลอดช่วงทดสอบที่ผ่านมาทั้งผู้ผลิตยางและทีมแข่ง ต่างก็ยังไม่สามารถหาข้อตกลงเรื่องตัวเลขที่เหมาะสมได้ ในที่สุดก่อนเริ่มการแข่งขันจริงสนามแรกที่ QatarGP เราก็ได้ข้อสรุปที่ว่านั้นแล้ว ปัญหาส่วนหนึ่งที่ทำให้ผู้ผลิตยางและทีมแข่งไม่สามารถตกลงร่วมกันได้ เนื่องจาก Michelin ต้องการให้แรงดันลมยางสูงไว้ก่อนเพื่อไม่ให้ยางหลุดออกจากวงล้อตอนที่เร่งหรือเบรกอย่างหนัก แต่ทางด้านทีมแข่งก็มองว่าแรงดันลมยางจะเพิ่มขึ้นตอนแข่งขันจนยางไม่ยึดเกาะ โดยเฉพาะเมื่อยางร้อนเกินไปในช่วงที่ขี่ตามคู่แข่งในระยะใกล้ ซึ่งลมยางเจ้าปัญหานั้นคือส่วนของยางหน้า ที่ผู้ผลิตยางต้องการให้สูงกว่า 1.88 บาร์ แต่ทางทีมแข่งต้องการตัวเลข 1.8 บาร์ Dani Pedrosa ได้ให้ข้อมูลว่า “ถ้าแรงดันลมยางเกิน 2.1 บาร์ คุณจะไม่เหลือแรงยึดเกาะอยู่เลย รถของเราจะเบรกไม่ได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายมาก” ซึ่งล่าสุดทาง Michelin ก็ได้ทำการปล่อยภาพที่ระบุรายละเอียดของแรงดันลมยางขั้นต่ำที่ด้านหน้าไว้ที่ 1.8 บาร์ ตามความต้องการของทีมแข่ง และยางหลังอยู่ที่ 1.68 บาร์ นอกจากนี้ยังมีข้อมูลที่น่าสนใจอื่นอย่างจำนวนยางสูงสุดที่ใช้ได้ในแต่ละสนามที่ 22 เส้น และอุณหภูมิที่เหมาะสมในการใช้งานยางที่สูงมากถึง 100-120 องศาเซลเซียส…
Author: Kristha
CFMoto ค่ายรถมอเตอร์ไซค์สัญชาติจีนที่กำลังมาแรงในตลาดโลก เตรียมกลับมาทำตลาดในประเทศไทยอีกครั้ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ค่ายรถดังกล่าวเคยเข้ามาทำตลาดในบ้านอยู่ก่อนแล้ว แต่ก็ต้องเงียบหายไปอย่างน่าเสียดาย เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจและโรคระบาดที่ไม่เป็นใจ บวกกับรถในไลน์อัพในยุคนั้นก็ไม่มีความเป็นเอกลักษณ์ และไม่น่าดึงดูด แต่เมื่อเวลาผ่านไปในช่วงที่ CFMoto เงียบหายไปจากประเทศไทย แต่ค่ายรถรายนี้ก็ได้ไปเก็บประสบการณ์ในตลาดระดับโลกทั้งยุโรปและอเมริกา จนสามารถเปิดตัวรถทั้งรุ่นเล็กและรุ่นใหญ่ที่น่าสนใจออกมาหลายรุ่น แก้ปัญหารูปลักษณ์ของรถสไตล์จีนที่จืดชืดด้วยการจ้างนักออกแบบจากยุโรป รวมถึงสร้างเครื่องยนต์ลูกใหม่ในคลาสเริ่มเป็นของตัวเอง ส่วนเครื่องยนต์ของรถคลาสกลางและคลาสใหญ่ที่ตัวเองยังไม่มี ก็ไปยืมมาจากค่ายรถชื่อดังอย่าง KTM ทำให้ไลน์อัพในปัจจุบันของพวกเขาน่าสนใจเป็นอย่างมาก ทางด้านกำหนดการเปิดตัวรถของ CFMoto ในปีนี้ก็จะถูกแบ่งเป็น 2 ช่วง คือช่วงต้นปี ที่เราคาดว่าจะได้เห็นการเปิดตัวค่ายรถเป็นครั้งแรก(คาดว่าเป็นช่วง MotorShow 2024) พร้อมกับเปิดตัวรถชุดแรกในคลาสเริ่มต้นระดับ 250-450 ซีซี และจะมีรถรุ่นอื่นอีกชุดที่จะถูกเปิดตัวเพิ่มเติมในช่วงปลายปีนี้ แต่รถเหล่านั้นจะเป็นรุ่นอะไรกันบ้าง ก็ต้องรอติดตามกันต่อไป ซึ่งซีรีส์ของรถที่เรามองว่าน่าสนใจและเหมาะกับตลาดของประเทศไทยที่สุดก็คงจะเป็น 450 series ที่จะประกอบไปด้วย 450SR โฉมสปอร์ตแฟริ่ง, 450NK โฉมสปอร์ตเปลือย, 450MT โฉมแอดเวนเจอร์ยกสูง ที่ต่างก็มีงานออกแบบที่โดดเด่น สเปคจัดเต็ม และมีราคาที่สู้กับคู่แข่งคลาสเดียวกันได้ อ่านข่าวสาร CFMoto เพิ่มเติมได้ที่นี่
Francesco Bagnaia นักแข่งแชมป์โลก MotoGP คนล่าสุดจากค่าย Ducati ได้ทำการต่อสัญญาฉบับใหม่กับค่ายเดิมของตัวเองไปจนถึงสิ้นปี 2026 แล้วทุกคนอยากรู้กันไหมว่าค่าเหนื่อยแต่ละปีของแชมป์โลกคนนี้อยู่ที่เท่าไร? เราบอกไว้ก่อนเลยว่า “ไม่เยอะอย่างที่คิด” ข้อมูลที่เราได้มานั้นมาจากปากของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ Ducati และจาก Albert Valera ผู้จัดการส่วนตัวของ Jorge Martin ซึ่งเขาได้ให้ข้อมูลว่าค่าตัวเริ่มต้นของ Francesco Bagnaia นั้นจะอยู่ที่ประมาณ 7 ล้านยูโร(271 ล้านบาท) ต่อหนึ่งฤดูกาล ซึ่งเป็นตัวเลขที่แทบไม่ต่างจากค่าเหนื่อยของ Jorge Martin หรือ Enea Bastianini แต่สิ่งที่แตกต่างออกไปสำหรับ Pecco คือเงินโบนัสที่เขาจะได้รับเพิ่มจากผลงานที่สามารถทำได้ในแต่ละสนาม ตรงนี้เองคือส่วนที่เขาจะได้รับมากกว่านักแข่งคนอื่นของค่าย และจะเพิ่มขึ้นไปถึงประมาณ 10 ล้านยูโร(388 ล้านบาท) หากเขาสามารถคว้าแชมป์โลกได้อีกครั้ง ซึ่งแตกต่างกับสมัยของ Valentino Rossi และ Jorge Lorenzo ที่ได้รับค่าเหนื่อยมากกว่า 2-3…
Honda CB1000 X ภาพเรนเดอร์รถมอเตอร์ไซค์แนวสปอร์ตแอดเวนเจอร์จาก Honda ร่างแยกสายท่องเที่ยวของ CB1000 Hornet สปอร์ตเปลือยตัวท็อปของค่ายปีกนก ที่พอมีความเป็นไปได้อยู่เล็กน้อยที่จะเกิดขึ้นจริง แต่ค่ายปีกนกต้องการเพิ่มรถรุ่นนี้เข้ามาในไลน์อัพจริงหรอ? เพราะมันดูใกล้เคียงกับญาติ 2 สูบเรียง ของมันอย่าง NT1100 เหลือเกิน Honda CB1000 X ที่เรากำลังพูดถึงอยู่เป็นเพียงแค่ชื่อสมมุติที่นิตยสารจากญี่ปุ่นตั้งให้เท่านั้น โดยสื่อต้นทางสร้างภาพเรนเดอร์นี้ขึ้นมาจากความเป็นไปได้ที่ Honda จะทำการเพิ่มรุ่นย่อยใหม่ให้รถที่สร้างขึ้นบนพื้นฐานของ CB1000 Hornet แต่ปัญหาคือรถรุ่นใหม่ที่ว่านี้จะมีตำแหน่งการตลาดที่ใกล้เคียงกับรถที่มีขายอยู่แล้วอย่าง NT1100 ที่เป็นรถยกสูงสายเที่ยวทางเรียบเป็นอย่างมาก แล้วอะไรคือแรงผลักดันให้ค่ายปีกนกสนใจทำรุ่นนี้ขึ้นมา? ความเป็นไปได้อย่างนึงคือ Honda อาจมองเห็นว่าตลาดของรถยกสูงสายเที่ยว และรถยกสูงสายสปอร์ตนั้นต่างกัน ค่ายรถหลายรายที่ทำรถสายเที่ยวอยู่แล้วก็มักจะมีรถยกสูงสายสปอร์ตมาขายคู่กันด้วยไม่ว่าจะเป็น Suzuki ที่มีทั้ง V-Strom 1050 และ GSX-S1000GX หรือทางฝั่งของ BMW ที่มีทั้ง R1300GS และ X1000XR นอกจากนี้ Honda เองก็เป็นค่ายรถอีกรายที่ชอบทำตลาดรถมอเตอร์ไซค์หลายรุ่นที่อยู่ในคลาสใกล้กันอยู่แล้วทั้ง…
Yamaha YZF-R1 รถมอเตอร์ไซค์ Superbike ตัวท็อปที่สุดของความแรงและเทคโนโลยีจากค่ายส้อมเสียง Yamaha ที่ถือเป็นตำนานอีกรุ่นในวงการสองล้อ แต่ไม่ว่ารถรุ่นนี้จะแรงขนาดไหน หรือคว้าในแชมป์รายการแข่งขันอะไรมาบ้าง แต่ตำนานที่ว่านั้นก็กำลังจะจบลงเมื่อสิ้นสุดปี 2024 เนื่องจากทางค่ายไม่คิดจะพัฒนารถรุ่นนี้เพื่อให้ผ่านมาตรฐานไอเสีย Euro5+ ที่กำลังจะถูกบังคับใช้ เพราะฉะนั้นเราจะพากันมาทวนประวัติของรถรุ่นนี้ก่อนที่มันจะปิดตำนานลง ตำนานของรถตระกูล YZF-R1 นั้นเริ่มต้นมาจากความต้องการของค่ายที่จะสร้างรถใหม่ขึ้นมาแทนที่รถรุ่นก่อนหน้าอย่าง YZF1000R Thunderace (1996) ซึ่งเดิมทีแล้วรถรุ่นดังกล่าวก็ทำหน้าที่เป็นสายสปอร์ตตัวท็อปของค่ายอยู่แล้ว เพียงแต่แนวทางการออกแบบของมันจะมีความคล้ายกับรถสปอร์ตทัวริ่งแบบ Suzuki Hayabusa หรือ Kawasaki ZZR1400 มากกว่าที่จะเป็นแนวสปอร์ตสายสนามในปัจจุบัน YZF-R1 (1998) เป็นรถรุ่นแรกในตระกูล YZF-R1 ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อความแรงขั้นสุด โดยที่ไม่ทิ้งความคล่องตัวในการเข้าโค้งในถนนที่คดเคี้ยว ได้ต้นแบบมาจากตัวแข่ง WorldGP อย่าง YZR500 ตัวรถมาพร้อมกับเครื่องยนต์แบบระบายความร้อนด้วยน้ำ 4 จังหวะ 4 สูบเรียง 998 ซีซี 5 วาล์ว/สูบ ที่ให้พละกำลังสูงสุด 150…
นอกจากการแข่งขันรายการใหญ่ MotoGP ที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นในสุดสัปดาห์นี้ที่ Qatar ก็ยังมีรายการรองในรุ่นกลางและรุ่นเล็กอย่าง Moto2 และ Moto3 ที่ในปีนี้มาพร้อมกับซัพพลายเออร์ยางรายใหม่ Pirelli ที่จะเข้ามาทำหน้าที่แทนยางค่ายเก่าอย่าง Dunlop ซึ่งก่อนที่จะเริ่มต้นการแข่งขันนัดเปิดฤดูกาล เราก็ขอพาทุกคนมาดูสเปคยางใหม่ที่ว่านี้ก่อนว่าเป็นอย่างไร แตกต่างจากในรุ่นใหญ่ไหม? ยางที่ใช้ในการแข่งขันของรุ่น Moto2 และ Moto3 จะเป็นยางสูตรมาตรฐานคล้ายกับยางสลิคที่มีขายทั่วไป ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อเจาะจงการใช้งานในสนามแข่งไหนเป็นพิเศษ ต่างกับยางของฝั่งของรุ่นพี่อย่าง Michelin ที่ยางเหล่านั้นจะเป็นยางโปรโตไทป์ ซึ่งมีหน้ายางแต่ละด้านที่แข็งไม่เท่ากัน เนื่องจากถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานแต่ละสนามที่มีจำนวนโค้ง ซ้าย/ขวา ต่างกัน ในรุ่น Moto2 และ Moto3 จะมาพร้อมกับยาง 2 ประเภทคือ ยางสลิค(Pirelli Diablo Superbike) และ ยางฝน(Pirelli Diablo Rain) โดยยางแต่ละแบบก็จะถูกแบ่งออกเป็น ยางหน้า และ ยางหลัง ซึ่งยางของแต่ละล้อก็จะมีตัวเลือกความแข็งของคอมปาวด์ยางที่แตกต่างกัน ไล่ตั้งแต่ SC0 ที่เป็นคอมปาวด์ยางที่นิ่มที่สุดไปจนถึง…
Dani Pedrosa อดีตนักแข่งร่างเล็กในรุ่น MotoGP กับฝีมือเกินร้อยที่ทำให้เขาเกือบคว้าแชมป์โลกมาได้หลายครั้งกับค่าย Honda แต่หลังจากที่เขาแขวนหมวกไป ปัจจุบันเขาก็รับงานเป็นนักทดสอบรถแข่งให้กับ KTM หนึ่งในค่ายรถอีกรายที่มีพัฒนาการด้านแอโร่ได่นามิคที่ล้ำหน้า แต่ถึงอย่างนั้นนักแข่งผู้นี้กลับไม่ปลื้มการพัฒนาไปในทิศทางที่ว่าเท่าไร Dani Pedrosa ได้พูดในรายการ Paddock Pass Podcast เกี่ยวกับหน้าที่ของเขาในฐานะนักทดสอบว่า “นักทดสอบทุกคนมีวิธีการและหน้าที่ต่างกัน ส่วนหนึ่งก็เป็นผลมาจากตัวแปร 2 อย่าง อย่างแรกคือความว่าง เพราะมันเป็นไปไม่ได้ที่จะให้นักทดสอบคนเดียวทำทุกหน้าที่ เรื่องถัดไปคือปัญหาที่แต่ละค่ายต้องเจอมันไม่เหมือนกัน” “ตอนที่ผมเข้าไปอยู่กับ KTM พวกเขามีประสบการณ์น้อยมากในรุ่น MotoGP ขั้นตอนการทำงานเลยต่างกับที่ Honda หรือ Yamaha เป็นอย่างมากเนื่องจากพวกนั้นมีประวัติศาสตร์ในรายการนี้มายาวนาน” และเมื่อเขาถูกถามเกี่ยวกับความแตกต่างของรถ MotoGP ยุคใหม่และยุคเก่า เขาก็ได้ให้ความเห็นว่า “ความต้องการพละกำลังทางร่างกายในการควบคุมรถรุ่นใหม่มันเพิ่มขึ้นกว่าเดิมเยอะมาก มันยากขึ้นในการพลิกรถจากซ้ายไปขวา และยากขึ้นในการขับไล่ตามคู่แข่ง ทั้งความนิ่งและความเร็วในโค้งก็เพิ่มมากขึ้น แต่นั่นก็หมายความว่าความคล่องตัวต้องหายไป” “ถ้าจะอธิบายให้เข้าใจง่ายคือ ตอนนี้เราต้องหาสมดุลระหว่างแอโร่ไดนามิคและความง่ายในการควบคุมรถ สำหรับผมแล้ว ผมชอบรถแข่งในยุคเก่าที่ยังไม่มีแอโร่ไดนามิคมากกว่า เพราะรถพวกนั้นขี่ได้สนุกกว่า” Dani Pedrosa…
Jorge Lorenzo อดีตนักแข่งดีกรีแชมป์โลก MotoGP ที่ถึงแม้เขาคนนี้จะแขวนหมวกเลิกแข่งไปนานแล้ว แต่ก็ยังอยู่บนพื้นที่สื่อไม่ขาด ซึ่งก่อนเริ่มฤดูกาลแข่งขัน 2024 เขาที่ได้เห็นผลงานการทดสอบรถของ Marc Marquez ที่เป็นทั้งเพื่อร่วมชาติและเพื่อนร่วมทีมกับรถใหม่ค่าย Ducati โดยเขาได้ตั้งข้อสงสัยที่ Marc Marquez ต้องหาคำตอบให้ตัวเองให้ได้ เพื่อที่จะสามารถทำผลงานขึ้นมาอยู่หัวแถวอีกครั้ง Jorge Lorenzo ได้ตั้งคำถามเกี่ยวกับอดีตเพื่อนร่วมทีมว่า “ตอนนี้ผมมีคำถามในหัวเกี่ยวกับ Marc ในปีนี้ อย่างแรกคือ เขาจะต้องใช้เวลาเท่าไรในการทำความเข้าใจรถของ Ducati เพราะตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะยังไม่รู้วิธีควบคุมรถอย่างถูกต้อง เพราะเขายังคงขี่มันเหมือนกับตอนที่ขี่ Honda” “อย่างที่สองคือ Ducati ในรุ่น GP23 และ GP24 มีความแตกต่างกันมากขนาดไหน มันวิวัฒนาการเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วไปเท่าไร เพราะดูเหมือนว่าความแตกต่างของรถทั้งสองรุ่นจะเยอะพอสมควร Bagnaia และ Martin ไม่ใช่นักแข่งที่แย่พวกเขาเป็นพวกที่เก่งที่สุด ถ้าพวกเขามีรถที่ดีกว่า พร้อมประสบการณ์ที่มากกว่ากับรถค่ายแดง เรื่องนี้ก็จะเป็นตัวแปรสำคัญต่อผลงาน” “คำถามที่สามคือ เรื่องเกี่ยวกับสภาพร่างกายของ Marc ว่าตอนนี้แขนของเขาหายดีแล้ว…
กำลังจะเข้าฤดูร้อนกันแล้ว ปัญหาอย่างนึงที่ผู้ใช้รถมอเตอร์ไซค์หลายคนต้องเจอคือเรื่อง “ความร้อนสะสม” แน่นอนว่าเรื่องนี้สามารถแก้ได้หากรถของเราใช้ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ ซึ่งช่วยกำจัดความร้อนส่วนเกินออกจากเครื่องยนต์ แต่ถึงอย่างนั้นของเหลวที่ใช้หล่อเย็นในเครื่องยนต์ของเรากลับไม่ใช่แค่ “น้ำเปล่า” แต่เป็น “น้ำยาหล่อเย็น” ของเหลวที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อการหล่อเย็นเครื่องยนต์โดยเฉพาะ แต่คำถามคือ “เราใช้น้ำเปล่าธรรมดาไม่ได้หรอ?” ก่อนอื่นเราต้องอธิบายหน้าที่การทำงานของระบบระบายความร้อนด้วยน้ำอย่างง่ายกันก่อน เริ่มจากการที่เครื่องยนต์แบบสันดาปภายในมีการเผาไหม้เชื้อเพลิงเพื่อขับเคลื่อน และยิ่งมีการเผาไหม้ที่มากขึ้น ก็แปลว่ามีความร้อนถูกสร้างขึ้นมากตามไปด้วย เราจึงต้องหาวิธีกำจัดความร้อนดังกล่าวโดยการบังคับให้ของเหลวไหลผ่านส่วนที่ร้อนของเครื่องยนต์ เพื่อดึงความร้อนไประบายออกในหม้อน้ำ แน่นอนว่าตามหลักการแล้ว “น้ำ” ก็เป็นของที่สามารถใช้งานได้ เนื่องจากน้ำเป็นสสารอย่างนึงที่สามารถรับความร้อนได้ในปริมาณมาก โดยที่ตัวเองไม่ร้อนตามอยู่แล้ว แต่ผู้ผลิตหลายรายก็ได้สร้าง “น้ำยาหล่อเย็น” หรือ “Coolant” ขึ้นมาเพื่อให้การหล่อเย็นมีประสิทธิภาพมากขึ้นไปอีก สิ่งที่ทำให้ “น้ำยาหล่อเย็น” ทำหน้าหล่อเย็นที่ได้ดีกว่า “น้ำเปล่า” คือการเติมสาร “Ethylene Glycol” ที่ช่วยเพิ่มจุดเดือดของน้ำให้กลายเป็น 120 องศาเซลเซียส ช่วยให้ของเหลวในระบบระเหยกลายเป็นไอน้ำได้ยากขึ้น แปลว่าของเหลวในระบบของเราสามารถรับความร้อนไประบายออกได้มากกว่า “น้ำเปล่า” นอกจากนี้น้ำยาหล่อเย็นยังมีส่วนช่วยรักษาเครื่องยนต์ เนื่องจากมีการเติมสารเคมีป้องกันสนิม และสารเคมีที่ช่วยป้องกันการแข็งตัวของของเหลว ในกรณีที่เราต้องใช้รถในสภาพแวดล้อมที่หนาวเย็น สุดท้ายคือเรื่องของ “สี” ของ “น้ำยาหล่อเย็น” ที่ช่วยให้เราสามารถสังเกตการรั่วซึมได้ง่ายกว่าการใช้…
รู้หรือไม่ว่าทีมแข่งอิสระที่กำลังทำผลงานไปได้สวยอย่าง VR46 ของแชมป์โลกเจ้าตำนาน Valentino Rossi เคยเกือบจะไม่ได้เลือกใช้ตัวแข่งของ Ducati แบบที่เห็นในปัจจุบัน เนื่องจากในช่วงก่อตั้งทีม Uccio Salucci ผู้จัดการของเขาเคยสนใจที่จะเลือกใช้รถของค่ายคนบ้า Suzuki กันมาก่อน Uccio Salucci มือขวาของ Valentino Rossi ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับช่วงก่อตั้งทีมตอนแรกกับสื่อว่า “ในตอนเริ่มต้น Vale เตือนผมว่า MotoGP เป็นการแข่งขันที่ยาก มันไม่เหมือนกับใน Moto2 ที่เราประสบความสำเร็จ” เขากล่าว “ตอนนั้นผมบอกกับเขาว่าผมสบายใจที่จะอยู่ใน MotoGP มากกว่า เพราะผมทำงานกับเขาในรุ่นนั้นมาตลอด แถมยังเป็นทีมโรงงานด้วย Moto2 เลยดูเป็นของใหม่สำหรับผม” “สุดท้าย Vale ก็ให้งานผมในการทำทีมแข่งในรุ่นใหญ่ ในตอนแรกผมต้องการทำงานกับ Suzuki แต่ตอนนั้นพวกเขาก็ไม่คิดจะทำทีมรอง แถมต่อมายังถอนตัวออกไปจากการแข่งอีก ทางด้านของ Yamaha ก็มีทีมรองอย่าง Petronas SRT เราเลยไม่อยากไปยุ่งกับเขาเพิ่ม” “ในตอนที่ผมไปคุยกับ…