ในที่สุดการแข่งขัน MotoGP สนามล่าสุดใน Circuit de Jerez ก็ได้จบลงไปเป็นที่เรียบร้อย แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ยังมีช่วงทดสอบรถกลางฤดูกาลที่ถูกจัดขึ้นในสนามดังกล่าว ซึ่งเป็นการทดสอบแบบสาธารณะ ที่เปิดให้สื่อได้ทำการบันทึกภาพ ทำให้เราได้เห็นเหล่าของเล่นใหม่จากทีมแข่งค่ายต่าง ๆ Honda อันดับแรกที่เราจะพูดถึงคือ Honda ที่น่าจะเป็นค่ายรถที่ขยันทดสอบเฟรมชุดใหม่บ่อยที่สุดแล้ว เพราะนอกจากทางค่ายจะทำเฟรมขึ้นมาทดสอบเอง 3-4 ชุด ตั้งแต่ต้นฤดูกาล แต่ขณะเดียวกันก็ได้มีความร่วมมือกับผู้ผลิตเฟรมที่ประสบความสำเร็จที่สุดจาก Moto2 อย่าง Kalex ให้ช่วยสร้างเฟรม รวมถึงสวิงอาร์มให้หลายครั้ง ซึ่งก็ได้ถูกนำมาทดสอบด้วยในรถทดสอบสี HRC (เฟรมเดิมอยู่ในรถสี Repsol) นอกจากนี้ยังนี้ยังมีการทดสอบแฟริ่งด้านข้างแบบใหม่ ที่มีตัวแฟริ่ง Downwash ที่ช่วยดูดให้รถติดกับพื้นขณะเข้าโค้ง ซึ่งมีหน้าตาที่ซับซ้อนมากขึ้นต่างกับของที่เคยใช้อยู่ เพราะมีการเพิ่มแฟริ่งเป็นทางลาดขึ้นเพิ่มเข้ามา แต่เรายังไม่ทราบถึงเป้าหมายของแฟริ่งด้านบนนี้ Yamaha ค่ายส้อมเสียงมีการทดสอบชุดปีกหน้าแบบใหม่ที่มีหน้าตาคล้ายกับของที่ใช้อยู่บนรถของ Aprilia ที่ตัวปีกนั้นเป็นแบบมีร่องตรงกลาง และไม่ได้ถูกลากไปเชื่อมกับส่วนอื่นของแฟริ่ง รวมถึงมีจงอยปากที่ยาวออกมาด้านหน้ามากกว่าปกติ ทางด้านเฟรมนั้นก็มีการทดสอบของที่แตกต่างกันสองชุดโดยนักแข่งทั้งสองคน คาดว่าจะถูกใช้เป็นรากฐานให้กับรถในช่วงหลังของฤดูกาล KTM ทีมเครื่องดื่มชูกำลังก็เป็นอีกทีมนึงที่ชอบทดลองของแปลก ถ้าค่ายส้อมเสียงไม่ใช้ปีกแบบลากยาวข้ามแฟริ่ง KTM ก็จัดเต็มกับการลากปากข้ามแฟริ่งให้ยาวที่สุด…
Author: Kristha
Honda ค่ายรถยักษ์ใหญ่จากแดนอาทิตย์อุทัย ที่ได้ทำการเปิดเผยแผนการพัฒนารถมอเตอร์ไซค์พลังงานไฟฟ้า EV จำนวนมากที่จะถูกทะยอยเปิดตัวภายในปี 2025 ได้อธิบายเกี่ยวกับรถที่จะถูกสร้างขึ้นมาเพื่อนสมรรถนะไว้ว่า มันอาจจะมีพละกำลังที่เทียบได้กับมอเตอร์ไซค์เครื่องยนต์สันดาปคลาส 500-750 ซีซี ซึ่งเป้าหมายนี้ก็ดูจะสูงมากหากเทียบกับค่ายคู่แข่ง ที่มองรถไฟฟ้าเป็นแค่รถขนาดเล็กพลังงานต่ำสำหรับใช้งานในเมือง คำพูดนี้ก็ไม่ได้มาจากใครอื่นแต่เป็น Shinji Aoyama ผู้บริหารระดับสูงของ Honda ที่กล่าวไว้ว่า “เรามีเป้าหมายที่จะขายมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า 3 ล้านคัน ในตลาดประเทศจีนและอีก 3 ล้านคัน ในตลาดอาเซียและอินเดียภายในปี 2030 โดยจะใช้ชื่อตระกูล :e ซึ่งรถเหล่านั้นจะรวมทั้งแบบที่เปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ และแบบที่ยึดแบตเตอรี่ไว้กับตัวรถ โดยรถจำนวนหลายรุ่นของเราก็ตั้งเป้าจะเปิดตัวภายในปี 2024” “ในช่วงปี 2024-2025 เราก็ได้วางแผนสำหรับรถมอเตอร์ไซค์ที่เน้นขับขี่เพื่อความสนุก มันคงจะเทียบได้กับรถเครื่องยนต์สับดาปแบบ 2 สูบ ที่มีเครื่องยนต์ประมาณ 500-750 ซีซี มันจะไม่ใช่รถสปอร์ตเต็มตัว แต่จะเป็นรถที่มีความเป็นสปอร์ตที่สามารถใช้งานได้ในชีวิตประจำวัน” “แน่นอนว่าผมไม่ปฏิเสธอนาคตของเชื้อเพลิงสังเคราะห์ แต่การใช้งานของมันยังอยู่ในวงจำกัด ผมเชื่อว่าเชื้อเพลิงสงัเคราห์จะต้องถูกใช้งานมากขึ้นในบางงาน แต่ถ้าเกิดพลังงานไฟฟ้ามันได้เกิดขึ้นมาและได้รับความนิยม มันก็คงเป็นเรื่องยากที่เราจะได้เห็นสถานีเชื้อเพลิงสังเคราะห์อยู่ทั่วไป โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนา เนื่องจากมันไม่มีความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ”…
Kawasaki ค่ายรถยักษ์เขียวจากโกเบ ที่เราคุ้นชินกับรถมอเตอร์ไซค์ขนาดใหญ่ของค่ายในตระกูล Z หรือ Ninja แต่ล่าสุดได้มีข่าวลือออกมาจากประเทศเพื่อนบ้านเราในแหลมมาลายู ว่าค่ายรถรายดังกล่าวกำลังซุ่มพัฒนารถมอเตอร์ไซค์ประเภทสปอร์ต Moped ซึ่งเป็นประเภทรถที่ได้รับความนิยมสูงในตลาดอาเซี่ยน เพื่อมาทำหน้าที่เป็นรถคลาสเริ่มต้นแทนที่กลุ่มมินิไบค์ที่เสื่อมความนิยม หากอ้างอิงจากข่าวลือดังกล่าว รถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ที่ว่านี้เกิดจากความร่วมมือระหว่าง Kawasaki และ Modenas ผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์คลาสเล็กจากประเทศมาเลเซีย เพื่อทำรถบ้านในสไตล์สปอร์ตแบบเดียวกับ Yamaha Exciter 155 หรือ Honda RS-X 150 ที่ได้รับความนิยมสูงในตลาดมาเลเซียและอินโดนีเซีย แต่ทางค่ายเขียวกลับไม่มีรถเพื่อมาตอบสนองตลาดรถประเภทนี้เลย เพราะรถคลาสเล็กของค่ายก็มีเพียงแค่รถประเภทเอนดูโร่ ที่ไม่ได้เป็นที่นิยมกว้างขวาง ในขณะที่รถมินิไบค์ที่เคยฝากความหวังไว้กับ Z 125 ก็เรียกได้ว่าล้มเหลว ข้อมูลต้นทางระบุว่ารถตัวต้นแบบนั้นถูกสร้างเสร็จแล้ว แต่ก็ถือว่ายังอยู่ในช่วงต้นของการพัฒนา เนื่องจากต้องถูกขัดเกลาในหลายส่วน(อาจจะเป็นเพราะ Kawasaki ทำรถแนวนี้เป็นครั้งแรก) คาดว่าตัวรถจะถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2025 มาพร้อมเครื่องยนต์ระบายความร้อนด้วยน้ำ 1 สูบ ปริมาตรกระบอกสูบ 150-175 ซีซี ซึ่งถือว่าไม่หนีไปจากรถของคู่แข่ง โดยจะทำการจัดจำหน่ายในประเทศมาเลเซียอย่างเดียว ที่มา pandulaju…
Honda CN250 มอเตอร์ไซค์สกู๊ตเตอร์ทรงอวกาศจากค่ายปีกนก Honda ที่แสดงออกถึงเอกลักษณ์ด้านงานออกแบบของรถในยุค 80s ออกมาได้อย่างโดดเด่น ถึงแม้เวลาจะผ่านมาหลายสิบปี ด้วยโครงสร้างตัวรถที่ยาวเป็นพิเศษเพื่อใช้ในการขับขี่แบบท่องเที่ยว และเครื่องยนต์ขนาดพอดีมือ ก็ทำให้มันได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงจนถูกลากขายนานถึง 20 ปี วันนี้เราเลยจะพามาดูประวัติของมันกัน Honda CN250 นั้นเป็นรถสกู๊ตเตอร์ที่มีจุดเริ่มต้นมาจากรถมอเตอร์ไซค์สกูีตเตอร์อีกรุ่นหนึ่ง ที่วางจำหน่ายในช่างต้นยุค 80s ที่มีชื่อรหัสว่า CH250 (ภาพด้านบน) กับชื่อทางการค้าที่หลายคนอาจจะรู้จักในนาม Elite หรือ Spacy ซึ่งรถรุ่นนี้ก็ถือว่าได้รับความนิยมไม่น้อย เพราะมันถูกซอยรุ่นย่อยมากมายตั้งแต่ CH50, CH80, CH125, CH150 และเราก็จะเห็นได้ว่างานออกแบบของรถทั้งสองรุ่นนั้นมีอะไรหลายอย่างที่เหมือนกัน และต่อมาในปี 1986 ทางค่ายปีกนกก็ได้ทำการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ในรหัส CN250 ที่ถูกรู้จักในชื่อ Fusion หรือ Helix หรือ Spazio ขึ้นอยู่กับตลาดที่ถูกวางจำหน่าย ซึ่งจะมีพื้นฐานแนวคิดคล้ายกับรถรุ่นเดิม แต่ถูกดัดแปลงให้เหมาะสมกับการใช้งานเชิงท่องเที่ยวเดินทางไกลมากขึ้น โดยลดความสูงของเบาะนั่งลง และขยายฐานล้อเพิ่มขึ้นจนยาวถึง 1,625 มิลลิเมตร ซึ่งจะช่วยให้พื้นที่ว่างขานั้นเพิ่มขึ้น…
Kawasaki ZX-9R ภาพเรนเดอร์ใหม่ล่าสุดจากปกของนิตยสารยานยนต์ญี่ปุ่น Young-Machine ฉบับเดือน มิถุนายน 2023 ซึ่งถือเป็นอีกสำนักข่าวเรนเดอร์และนักเล่นข่าวข้อมูลวงใน (ที่มีความแม่นยำ) หลังจากที่ก่อนหน้านี้สำนักพิมพ์ดังกล่าวขยันปุ่นข่าวของ ZX-4R จนเราได้เห็นการเปิดตัวจริงไปไม่นานนี้ และล่าสุดกับข่าวลือของ Z400RS คราวนี้ก็ถึงตาของรุ่นใหญ่กันบ้าง Kawasaki ZX-9R นั้นเป็นแนวคิดของรถมอเตอร์ไซค์สไตล์สปอร์ต ที่ถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานของรถคลาสกลางของค่ายอย่าง Z900 ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง ปริมาตรกระบอกสูบ 948 ซีซี โดยเราคาดว่าทางสำนักพิมพ์อาจจะเอาไอเดียนี้มาจากรถมอเตอร์ไซค์อีกรุ่นที่เป็นข่าวลือเช่นกันอย่าง Yamaha YZF-R9 รถสปอร์ตที่จะถูกสร้างบนพื้นฐานของ MT-09 ซึ่งต่างก็เป็นรถรถคลาสกลางระดับบนเช่นกัน ส่วนนึงก็เพื่อทดแทนช่องว่างทางการตลาดที่หายไปของรถสปอร์ตสายสนาม Kawasaki ZX-6R ซึ่งถูกยกเลิกการขายไปในหลายส่วนของโลก เนื่องจากความนิยมของรถสปอร์ตเต็มตัวนั้นลดลงอย่างต่อเนื่อง และเป็นการยากที่จะทำให้เครื่องยนต์รอบสูงแบบนั้นผ่านมาตรฐานไอเสียยุคใหม่ที่เข้มงวด หลายค่ายจึงมองว่าไม่คุ้มที่จะลงทุนต่อ และหันไปทำรถสปอร์ตที่ใช้พื้นฐานร่วมกับรถถนนที่ได้รับความนิยม และมีความคุ้มค่าที่จะลงทุนมากกว่าแทน นอกจากนี้ในนิตยสาร Young-Machine ฉบับนี้ก็ได้พูดถึงเรื่องที่ Kawasaki วางแผนจะเปิดรถมอเตอร์ไซค์รวมกว่า 30 รุ่น ภายในปีหน้า(นับรวมทุกรุ่นย่อยที่เปิดไปเมื่อต้นปีนี้ด้วย) ซึ่งภาพรถที่เด่นที่สุดในนี้ก็คงจะเป็นภาพเรนเดอร์ของ…
การแข่งขัน MotoGP ในช่วง 4 ฤดูกาลที่ผ่านมานั้นถือได้ว่าเป็นช่วงที่ไม่มีใครผูกขาดตำแหน่งแชมป์สนาม และแชมป์โลกไว้กับตัวเองแต่เพียงผู้เดียว เพราะนักแข่งที่สามารถสู้ในระดับหัวแถวได้อย่าง Marc Marquez, Juan Mir, Fabio Quartararo, Francesco Bagnaia ต่างก็ผลัดกันอยู่ในตำแหน่งสูงสุดกันคนละฤดูกาล ยากที่จะเดาว่าใครจะเป็นแชมป์ ซึ่งในมุมมองของ Aleix Espargaro ที่เป็นนักแข่งในวงการมานานก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน “ถ้าพูดถึงปีนี้ไม่ว่าจะ Fabio หรือ Yamaha ก็ดูเหมือนว่าจะไม่อยู่ในระดับเดียวกับปีที่แล้ว ทางด้าน Pecco ที่ล้มในอเมริกาก็คงเสียความมั่นใจไปไม่น้อย เราคงต้องรอดูว่ามันจะเป็นอย่างไรต่อไป” Aleix Espargaro กล่าว “ปีที่แล้วผมแกร่งมาก(ได้แชมป์สนามครั้งแรก) ไม่อยากจะคุย แต่ผมคิดว่าปีนี้ผมดีกว่าปีที่แล้ว และผมหวังที่จะชนะ ในอเมริกาผมทำ Fastest-Lap เป็นอันดับสอง และจบอันดับ 4 ใน Sprint Race ซึ่งนี่เป็นสนามที่ผมห่วยที่สุด ผมเร็วอยู่แล้ว แค่ต้องไม่เคลียดและสนุกไปกับมัน” Aleix Espargaro…
การแข่งขัน MotoGP ตั้งแต่ในฤดูกาลที่ผ่านมาและฤดูกาลนี้ สร้างข้อสงสัยแบบแก้ไม่ตกให้กับแฟนกลับเป็นอย่างมาก ว่ารถแข่งของ Ducati ที่มีอยู่เต็มกริดมากถึง 8 คัน นั้นมันมากไปหรือไม่ หลังจากที่ทางผู้จัดการของ Aprilia อย่าง Massimo Rivola นั้นเสนอว่าควรมีการจำกัดจำนวนรถของแต่ละค่าย ซึ่งแน่นอนว่าผู้กัดการของ Ducati อย่าง Gigi Dall’Igna ก็ออกมาปกป้องเต็มที่ว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้นเป็นไปตามกติกา Gigi Dall’Igna ได้อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อทีมอิสระมาทำการเช่ารถจากทีมโรงงานไว้ดังนี้ “ผมคิดว่าเรื่องนี้มันยุติธรรมมากเลยนะ สิ่งที่เราทำนั้นได้รับการอนุญาติโดยกติกา ทีมโรงงานจะได้รับการอุดหนุนจากผู้จัดการแข่งขันเป็นเงิน 3 ล้านยูโร(ประมาณ 110 ล้านบาท) ถ้าหากเป็นซัพพลายให้กับทีมอิสระ(เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ทีมโรงงานยอมปล่อยรถให้ทีมอิสระเช่า)” “ไม่มีการจ่ายเงินอุดหนุนให้กับทีมอิสระในกรณีนี้ กติกานี้มีขึ้นมาตั้งแต่แรกและไม่เคยเปลี่ยนไม่ว่ากับทีมไหน ถ้าทีมอิสระต้องการใช้รถของ Ducati นั่นเป็นเพราะรถของเราดีกว่าของค่ายอื่น ถ้า Aprilia ต้องการให้มีรถของตัวเองมากขึ้น เขาก็ต้องหาวิธีโน้มน้าวทีมเหล่านั้นเอง” “เรากำลังทำงานเพื่อรักษาจำนวนรถให้ยังคงเป็นแบบนี้ในปีหน้า กติกาเป็นแบบเดียวกันกับทุกคน Honda ก็เคยมีรถเยอะบนกริดแต่ดันไม่มีใครบ่น KTM หรือ Aprilia จะเอาวิธีนี้ไปใช้ก็ได้ถ้าต้องการ”…
2023 Harley-Davidson CVO Street Glide และ CVO Road Glide มอเตอร์ไซค์ทัวริ่งครุยเซอร์รุ่นพิเศษจากค่ายตราโล่ Harley-Davidson ที่มาพร้อมรหัส(ราคา)แรงอย่าง CVO ได้ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อย โดยรถตัวเทพทั้งสองรุ่นนั้นจะมาพร้อมกับรูปลักษณ์ใหม่แหวกแนว เน้นความโมเดิร์นทั้งในด้านดีไซน์และสมรรถนะ แต่ยังเก็บอารมณ์คลาสสิกเอาไว้ พร้อมกับเครื่องยนต์ลูกใหม่ขนาด 2 ลิตร 2023 Harley-Davidson CVO Street Glide และ CVO Road Glide นั้นถือเป็นรถรุ่นพิเศษจาก Custom Vehicle Operation ที่มีความโดดเด่นเครื่องการทำสีสุดพิเศษ พร้อมด้วยสเปคตัวรถที่มีความพิเศษกว่ารุ่นมาตรฐานเล็กน้อย แต่ในครั้งนี้มันกลับไม่ใช่แค่การนำรถรุ่นเดิมมาแต่ง แต่เป็นการเปิดตัวรถรุ่นใหม่พร้อมรูปลักษณ์ใหม่เลย ซึ่งที่รถรุ่นธรรมดาที่มีหน้าตาแบบนี้คาดว่าจะถูกเปิดตัวตามมาในภายหลัง โดยความเปลี่ยนแปลงด้านหน้าตาของ CVO Road Glide นั้นจะมาพร้อมแฟริ่งด้านหน้าที่มีรูปทรงโดยรวมคล้ายเดิม แต่เพิ่มความเป็นเหลี่ยมสันมากขึ้น ไฟหน้าเปลี่ยนเป็นทาง(เกือบ)สี่เหลี่ยมพร้อมแถบไฟ DRL เป็นแถบยาวคาดแฟริ่ง ในขณะที่ CVO Street…
BMW R1250GS มอเตอร์ไซค์สไตล์แอดเวนเจอร์รุ่นใหญ่จาก BMW เจ้าของตำแหน่งรถที่ขายดีที่สุดในคลาส ตัวจบสายเที่ยว และแทบจะเรียกได้ว่าเป็นทางออกสำหรับคนที่ตัดสินใจไม่ได้ว่ารถรุ่นไหนในกลุ่มนี้เหมาะสมกับตัวเอง แต่ถึงอย่างนั้น วันเวลาอันรุ่นโรจของมันก็ต้องจบลง ไม่ใช่เพราะขายไม่ออก แต่เป็นเพราะเวลาของรถรุ่นใหม่ที่จุดจัดกว่ากำลังจะมาถึง เราจึงจะพามาดูกันว่าตัวตายตัวแทนของรถรุ่นนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง จากข้อมูลที่เรามี – BMW R1300GS จะถูกสร้างขึ้นพื้นพื้นฐานของโครงสร้างตัวรถชุดใหม่หมดจด โดยการเปลี่ยนจากชุดเฟรมแบบเหล็กท่อที่ใช้มาตั้งแต่ยุคเริ่มต้น มาเป็นชุดเฟรมอลูมีเนียมที่ทันสมัยกว่า เบากว่า แข็งแรงกว่ารถรุ่นก่อน – เครื่องยนต์สูบนอนแบบระบายความร้อนด้วยน้ำและอากาศ จะถูกเปลี่ยนเป็นเครื่องยนต์ลูกใหม่หมดจดเช่นกัน โดยจะใช้ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำเต็มระบบ ความจุเครื่องยนต์จะมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นเป็นประมาณ 1300 ซีซี ตามข้อมูลที่หลุดออกมาจากเว็บของค่าย ช่วยให้สามารถรีดแรงม้าออกมาได้มากขึ้น จนสามารถสู้คู่แข่งที่ขยับไปสู่ระดับ 150 แรงม้า กันนานแล้ว รวมถึงทำให้ผ่านมาตรฐานไอเสียใหม่ได้อีกด้วย – ระบบวาล์วแปรผันแบบ ShiftCam นั้นยังคงมีมาให้เช่นเคย – ตัวรถจะมีการอัพเกรดระบบอิเล็กทรอนิกส์รอบคัน อย่างน้อยก็ต้องเทียบเท่ากับคู่แข่งรายอื่นในคลาส ระบบไฟส่องสว่างแบบ LED และหน้าจอสีแบบ TFT เป็นของที่มาเป็นมาตรฐาน โดยจะมีการเพิ่มเรดาร์หน้า-หลัง ช่วยให้รถสามารถติดตั้งระบบ Adaptive…
Suzuki ทีมแข่งค่ายคนบ้าจากแดนอาทิตย์อุทัย ที่ได้ประกาศถอนตัวออกจากการแข่งขัน MotoGP และการแข่งขันทุกรายการไปเมื่อปีที่แล้วไปอย่างกระทันหัน หลังจากที่เพิ่งได้แชมป์โลกไปครองได้แค่สองปี ทั้งที่ทีมดังกล่าวมีสัญญาที่จะต้องแข่งต่อจนถึงปี 2026 แต่ทางประธานสมาพันธ์จักรยานยนต์นานาชาติ Jorge Viegas ได้แสดงความเห็นว่าเจ้าตัวนั้นเชื่อในการกลับมาอีกครั้งของทีม Suzuki “มันคงไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะผมได้คุยกับคนใหญ่คนโตของ Suzuki ว่าพวกเขากำลังพัฒนาเครื่องยนต์แบบใหม่ ผมเชื่อว่าพวกเขาจะกลับมา แต่ไม่รู้ว่าตอนไหน” “เรามีปีที่ยากลำบากเพราะโควิด แต่หลายอย่างเริ่มฟื้นตัว และเราเริ่มมีข่าวดี ยกตัวอย่างเช่นการร่วมแข่งขันในรายการ Endurance ของทาง Ducati เราร่วมมือกับค่ายรถในการออกกติกา เพื่อช่วยโน้มน้าวใจให้พวกเขามาลงแข่งกับเรา” “การแข่งขันมอเตอร์ไซค์นั้นท้าทายขีดจำกัดเทคโนโลยี และการพัฒนาบุคลากร เพราะอย่างนั้นเราจึงอยากจะสร้างโมเดลธุรกิจที่เหมาะสมกับเทคโนโลยี บุคลากร และเส้นทางสู่ความยั่งยืน” Jorge Viegas กล่าว ที่มา crash อ่านข่าวสาร MotoGP เพิ่มเติมได้ที่นี่