สมเกียรติ กลายเป็น “นักกีฬาชาวไทย” คนแรกในประวัติศาสตร์ที่คว้าชัยชนะในการแข่งขันระดับ “เวิลด์ กรังด์ปรีซ์” รุ่น Moto2 และจารึกว่าเขาเป็น “นักกีฬาจากเซาท์อิสต์เอเชีย” คนแรกที่ทำได้ด้วยเช่นกัน ชัยชนะครั้งนี้จึงมีความหมายอย่างยิ่งต่อวงการกีฬาของไทยและเอเชีย
เพลงชาติไทยที่ดังกระหึ่มสนาม เปอร์ตามิน่า มันดาลิกา เซอร์กิต บ่งบอกว่า “นักกีฬาชาวไทย” มีความสามารถไม่แพ้ชาติใดในโลก ภายใต้โครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” ที่มีเป้าหมายพาเด็กไทยไปสู่การแข่งขันระดับสูงสุดของโลกอย่าง “MotoGP” ภายในปี 2025 ก็เริ่มมีความชัดเจนขึ้นอย่างมาก
เจ้าของชัยชนะในศึกเวิลด์ กรังด์ปรีซ์ คนแรกของไทย ซึ่งปัจจุบันอายุ 23 ปี เข้าสู่เส้นทางสายนักบิดตั้งแต่อายุ 9 ขวบ ในโครงการ ฮอนด้า เรซซิ่ง สคูล และที่นี่เขาถูกบ่มเพาะความสามารถจนได้รับคัดเลือกเข้าสู่โปรเจกต์ “โร้ด ทู โมโตจีพี” ในรายการ เอเชีย ทาเลนต์ คัพ ในปี 2013 ด้วยวัยเพียง 15 ปี จากนั้นเส้นทางสู่ “เวิลด์ กรังด์ปรีซ์” ของนักบิดจากชลบุรีเริ่มชัดเจนมากขึ้น หลังผงาดคว้าแชมป์ เอเชีย ทาเลนต์ คัพ ในปี 2016 และได้รับโอกาสก้าวสู่การแข่งขันในรายการ “เอฟไอเอ็ม ซีอีวี โมโตทรี จูเนียร์” ในปี 2017-2018 ขณะที่มีอายุ 18 ปี
เกมระดับ “เวิลด์ กรังด์ปรีซ์” ครั้งแรกของ สมเกียรติ คือการลงบิดด้วยสิทธิ์ไวด์การ์ดในการแข่งขันรุ่น โมโตทรี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2018 รายการ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ ซึ่งนักบิดไทยก็ตอบแทนโอกาสทองนี้ ด้วยการคว้าอันดับ 9 ในโฮมเรซต่อหน้าแฟนความเร็วชาวไทย และนี่คือ “ตั๋วใบสำคัญ” ให้เขาได้รับการโปรโมตขึ้นสู่การแข่งขันชิงแชมป์โลกอย่างแท้จริงในรุ่น โมโตทู เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ ภายใต้สังกัด อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย ในปีถัดมา
สมเกียรติ ออกสตาร์ทการแข่งขัน โมโตทู ชิงแชมป์โลก ในปี 2019 และยกระดับความสามารถของตัวเองขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกฤดูกาล จนได้รับสัญญาต่อในปี 2020 และ 2021 ผลงานดีที่สุดคือการคว้าอันดับ 5 ที่สนาม เรดบูล ริง ประเทศออสเตรีย ในรายการ ออสเตรียน กรังด์ปรีซ์ จนกระทั่งสร้างผลงานระดับมาสเตอร์คว้าชัยชนะครั้งแรกในชีวิตของตนเองได้สำเร็จ ในรายการ อินโดนีเซียน กรังด์ปรีซ์ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ด้วย “ความเป็นไทย” ในตัวเองที่เข้มข้น สมเกียรติ ให้สัมภาษณ์หลังจบเรซด้วยความภาคภูมิใจว่า “แทบไม่เชื่อสายตาตัวเองกับชัยชนะครั้งแรก และขอมอบความสำเร็จนี้ให้แฟนๆ ชาวไทยทุกคน” พร้อมยกเครดิตให้กับ บริษัท ไทยฮอนด้า แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ที่ยังคงเชื่อมั่นใจตัวเขาจนพิสูจน์ตัวเองได้
จากความสำเร็จนี้ สะท้อนให้เห็นว่าโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” มีโครงสร้างการพัฒนานักแข่งที่แข็งแกร่ง และเป็นระบบ และช่วยยกระดับวงการมอเตอร์สปอร์ตไทยอย่างชัดเจน ส่งผลให้นักแข่งไทยเข้าใกล้เป้าหมายระดับโลกไปอีกขั้น
ความหวังของคนไทยที่จะได้เห็น “นักแข่งไทย” คว้าชัยชนะใน “เวิลด์ กรังด์ปรีซ์” เกิดขึ้นจริงแล้วจากผลงานของ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ผลผลิตจากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” และเป้าหมายต่อไปของเขาคือรักษามาตรฐานที่แข็งแกร่งนี้ไว้ เพื่อเป้าหมายสูงสุดคือการแข่งขัน “โมโตจีพี” นั่นเอง
อ่านข่าว Moto2 เพิ่มเติมได้ที่นี่