หลังจากที่เราได้ยืนยันข่าวใบขับขี่ Bigbike มาในช่วงกลางปีนี้ ไม่เป็นความจริง ไปตั้งแต่ 2 เดือนที่แล้ว วันนี้เราต้องขอมาอธิบายข้อเท็จจริงแบบเชิงลึกถึงลูกถึงคน เกี่ยวกับแผนการเตรียมจัดทำใบขับขี่ Bigbike กันครับ หลังจากที่โลก Social เริ่มกลับมาแชร์ข่าว ใบขับขี่ Bigbike ในกลางปีนี้กันอีกครั้ง
ประเด็นแรกทาง MotoRival เรายังยืนยันเช่นเดิม ในกลางปีนี้จะยังไม่เห็นใบขับขี่ Bigbike แน่นอน ผู้เขียนได้ทำการเช็คข้อมูลเท็จจริงจากภายในหน่วยงานซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้อง (ทางผู้ให้ข้อมูลไม่อนุญาตให้เผยแพร่รายละเอียดในส่วนนี้)
ปัจจุบันทางกรมขนส่งฯ มีการวางแผนเตรียมจัดทำใบขับขี่รถ Bigbike จริง! และมีการยื่นเรื่องนำเสนอหน่วยงานที่บังคับออกกฎหมาย แต่ยังไม่ได้รับการอนุมัติ เพราะต้องพิจารณาความเหมาะสม และแก้ไขปรับแต่งจนกว่าจะสิ้นสุด และอนุมัติบังคับใช้กฎหมายที่จะให้มีใบขับขี่ Bigbike ออกมา และเมื่อมีการอนุมัติเรียบร้อย จะต้องมีแจ้งทำหนังสือเวียนจากทางกรมขนส่งฯ เป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อประชาสัมพันธ์ข้อมูลแก่ประชาชนรับทราบให้เตรียมตัวกันเสียก่อน ซึ่งตามที่เราทราบกันการดำเนินเรื่องของทางหน่วยงานภาครัฐนั้นต้องใช้เวลา ดังนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเห็นกฎใบขับขี่ Bigbike ในกลางปีนี้
ประเด็นคำถามต่อมาคือ ใบขับขี่ Bigbike จะมีการแบ่งเกณฑ์เช่นไร? และอายุเท่าไรถึงทำได้?
จากข่าวที่เราได้ยินกันมาก็คือ ใบขับขี่ Bigbike จะถูกแบ่งออกโดยความจุเครื่องยนต์ที่มากกว่า 400cc ขึ้นไป เรามองว่ามีความเป็นไปได้สูง เพราะการแบ่งแค่เกณฑ์เดียวที่วัด Bigbike นี้จะทำให้คนไทยเราตีความกันได้ง่าย และชัดเจนเสียทีว่า 400cc Up คือ Bigbike
อย่างไรก็ดี MotoRival เราขอวิเคราะห์ให้ลึกซึ้งกันต่อ ขอยกตัวอย่างประเทศอังกฤษมีใบขับขี่ License แบ่งในกลุ่มรถความจุขนาดใหญ่ออกเป็น A1, A2 และ A (ขอแบ่งเพียง 3 ประเภทเพราะมีความใกล้เคียงกับรถในบ้านเรา)
A1 รถในพิกัด 120-125cc กำลังเครื่องยนต์ไม่เกิน 11kW อายุ 17-19 ปี
A2 ช่วง 395-595cc กำลังอยู่ในช่วง 20-35kW อายุ 19-23 ปี
A พิกัด 595cc ขึ้นไป กำลังเครื่องยนต์ตั้งแต่ 40kW ขึ้นไป อายุมากว่า 24 ปีขึ้นไป
เรามองว่าประเทศไทยอาจมีการใช้ไอเดียนี้ แบ่งใบขับขี่ออกเป็น 3 ประเภท แต่ เรามองว่า ช่วงกลางนั้น อาจแบ่งเป็น ระดับ พิกัด 200-400cc หรือ 250-400cc เสียมากกว่า
เนื่องจากรถในระดับ A2 นั้นในประเทศไทยเราอาจจะไม่ได้มีมากเทียบเท่าในพิกัด 250cc ขึ้นไป ผู้เขียนมองว่าในพิกัด 250cc ช่วงนี้เป็นรถที่มีจำหน่ายในประเทศไทยบ้านเรามาก
ขณะที่อายุนั้น ทางเรามองว่า หากมีการแบ่งใบขับขี่ Bigbike เพียงใบเดียวคือ 400cc Up มีความเป็นไปได้ที่จะต้องมีอายุมากกว่า 20 ปี แต่ถ้ามีการแบ่งเกณฑ์ Bigbike ออกเป็น 2 ช่วงตามที่เราวิเคราะห์ น่าจะแบ่ง ใบแรก 250-400cc สอบได้ในช่วง 18-20 ปี และใบ 400cc ขึ้นไป อายุขั้นต่ำ 20 ปี ตามเกณฑ์ ช่วงระยะเวลา 2 ปีเช่นเดียวกับทางอังกฤษ
ดังนั้นการวิเคราะห์ของ MotoRival เราวิเคราะห์ว่า แนวโน้มใบขับขี่ Bigbike อาจมีการแบ่งออกมาแค่แบบเดียวคือ 400cc ขึ้นไป หรือ หากมีการแบ่งออกเป็น 2 ระดับ น่าจะอยู่ในช่วงพิกัด 250-400cc โดยช่วงอายุ 18 หรือ 20 ปี ถึงจะสามารถสอบใบอนุญาตได้
OK แล้วเมื่อมีการอนุมัติกฎหมายเรียบร้อย Bikers อย่างเราๆ ต้องไปสอบกันใหม่ใช่หรือไม่?
มีความเป็นไปได้ 2 แนวทาง
1. อาจต้องสอบใหม่ เพื่อให้เกิดความยุติธรรมเช่นเดียวกับผู้ทำใบขับขี่ใหม่ โดยเริ่มกระบวนการ อบรม -> สอบข้อเขียน -> สอบปฏิบัติ (โดยนำรถของตนเองเข้ามาสอบ)
2. ให้สิทธิแก่ผู้ที่มีรถและใบขับขี่เดิมอยู่แล้ว นั่นหมายความว่า กฎหมายใหม่จะบังคับใช้กับ ผู้ที่สอบใบขับขี่ใหม่เท่านั้น
นอกจากนี้ ทางขนส่งยังมีแนวทางการทำใบขับขี่แบบใบเดียว นั่นหมายความว่า ผู้ที่มีใบขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ ที่ต้องพก 2 ใบ ณ ขณะนี้ ในอนาคตคุณอาจจะได้พกเหลือเพียงใบเดียว
โดยจะมีรูปโลโก้ แยกตามกายภาพของรถ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกให้แก่ผู้ขับขี่มากขึ้น (ยกเว้นกรณีโดนยึดใบขับขี่)
*ห้ามไม่ให้นำเนื้อหาในบทความส่วนใดส่วนหนึ่งไปแอบอ้างเป็นบทความของตน โดยไม่มีการเครดิตแหล่งที่มา*
เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ