Ducati Multistrada V2 ราคา ไม่ถึง 7แสนบาท ทัวร์ริ่ง-แอดเวนเจอร์น้องรองจากตระกูล Multistrada โมเดลใหม่ล่าสุด ถูกเผยโฉมเป็นครั้งแรกในโลกกเมื่อปลายปี 2021 ในทวีปยุโรป และตอนนี้มันก็ได้ถูกนำมาเผยโฉมในประเทศไทยของเราแล้วที่งาน Bangkok International Motor Show 2022
Ducati Multistrada V2 ราคา 6.89 แสนบาท หากมองจากภายนอกมันอาจไม่ได้มีหน้าตาที่เปลี่ยนไปจาก Multistrada 950 เท่าไหร่นัก เนื่องจากมันยังคงมาพร้อมกับชุดแฟริ่งภายนอกหน้าตาเดิม ตัวโคมไฟส่องสว่างต่างๆรอบคันก็เหมือนเดิม แต่ในความจริงแล้ว ทาง Ducati ได้ทำการปรับปรุงสเป็คชิ้นส่วนบางอย่างของตัวรถให้เบาลงกว่าโฉมก่อนหน้าถึง 5 กิโลกรัม เหลือ 199 กิโลกรัมในรุ่นพื้นฐาน และ 202 กิโลกรัมในรุ่น S (น้ำหนักไม่รวมของเหลว) ไล่ตั้งแต่ การเปลี่ยนกระจกมองข้างใหม่แบบเดียวกับพี่ใหญ่ Multistrada V4, ฐานจานเบรกใหม่ กับ ชุดล้อใหม่ ที่เบาลงกว่าเดิมถึง 1.7 กิโลกรัม
ไม่เพียงเท่านั้น แม้เครื่องยนต์ L-Twin “Testastretta 11°” ของมัน จะยังคงมีความจุเท่าเดิมคือ 937cc พร้อมทำแรงม้าสูงสุด 113 แรงม้า (PS) ที่ 9,000 รอบ/นาที กับแรงบิดสูงสุด 96 นิวตันเมตร ที่ 7,750 รอบ/นาที ที่ผ่านมาตรฐานไอเสียระดับ Euro5 แล้วเหมือนเดิม แต่ชิ้นส่วนภายในก็ได้ถูกปรับปรุงใหม่โดนเน้นการไล่น้ำหนักส่วนเกินออกไปถึง 2 กิโลกรัม ซึ่งกว่า 1.5 กิโลกรัมในนั้นก็มาจากการเปลี่ยนชิ้นส่วนระบบคลัทช์ นอกนั้นก็จะมาจากการปรับปรุงในส่วนของก้านสูบ และชุดกระปุกเกียร์ ที่นอกจากจะเบาลงแล้ว ยังถูกออกแบบให้การต่อเกียร์รวมถึงการหาเกียร์ว่างทำได้ง่ายมากยิ่งขึ้นด้วย
นอกจากการรีดน้ำหนักส่วนเกิน Multistrada V2 ยังมาพร้อมกับเบาะนั่งใหม่ที่เตี้ยลงกว่า Multistrada 950 อีก 10 มิลลิเมตร เหลือ 830 มิลลิเมตร ไม่เพียงเท่านั้น ตัวเบาะที่ว่ายังถูกออกแบบให้พื้นที่ตรงหว่างขาแคบลง ทำให้ผู้ขี่สามารถยืนคร่อมรถตอนจอดได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ขี่ไซส์เล็กทั้งหลาย ไม่เพียงเท่านั้นตัวพักเท้าเอง ก็ยังเปลี่ยนใหม่ มาใช้ของเดียวกันกับ Multistrada V4 แถมยังเตี้ยลงกว่าเดิมอีก 10 มิลลิเมตร เช่นเดียวกับเบาะนั่งอีกด้วย
นอกนั้นในด้านรายละเอียดทางเทคนิคอื่นๆของ Multistrada V2 ก็ยังคงแทบบจะเหมือนกันกับ Multistrada 950 ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นชุดเฟรมที่ยังคงเป็นแบบโครงเหล็กถัก, ชุดยาง Pirelli Scorpion Trail II ที่เป็นไซส์ 120/90-19 และ 170/60-17 ตามลำดับหน้า-หลัง, ระบบกันสะเทือน ด้านหน้า โช้กตะเกียบคู่หัวกลับ ขนาดแกน 48 มิลลิเมตร ปรับเซ็ทได้ทุกค่า – ด้านหลัง โช้กเดี่ยวปรับเซ็ทได้ทุกค่า ทำงานร่วมสวิงอาร์มอลูมิเนียมแขนคู่ และมีระบบปรับความหนืดด้วยไฟฟ้าแบบกึ่ง-อัตโนมัติ Skyhook Evo ในรุ่น S มาให้เช่นเดิม
แน่นอน ระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ก็ยังคงจัดมาให้ครบครัน ทั้งชุดหน้าจอมาตรวัดแบบ Full Digital TFT ขนาด 5 นิ้ว, Cornering ABS, Vehicle Hold Control, Ducati Traction Control, Riding Modes 4 รูปแบบ (Sport, Touring, Urban, Enduro), Ducati (Emergency) Brake Light system ซึ่งจะเป็นออพชันพื้นฐานสำหรับตัวรถรุ่นปกติ และในรุ่น S นอกจากระบบปรับโช้กไฟฟ้าแล้ว ยังมีระบบ Cruise Control, Ducati Cornering Light, Ducati Quick Shift Up & Down, Hands Free system, และ Backlit handlebar controls เพิ่มเข้ามาด้วย
อ่านข่าวสาร Ducati เพิ่มเติมที่ได้ที่นี่
