วันนี้ 13 กค. บริษัท เมนทาแกรม จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายกล้องโกโปร เปิดตัว GoPro Hero4 Session กล้องโกโปรที่เล็กและเบาที่สุดพลิกโฉมรูปแบบกล้องโกโปร และ GoPro Hero+ LCD โกโปร หน้าจอสัมผัสในตัว พร้อมฟีเจอร์ตัดวิดีโอใหม่ล่าสุดและมี Wi-Fi ในตัว
คุณณัฐพล ปัทมพงศ์ ผู้จัดการ บริษัท เมนทราแกรม ได้กล่าวว่า หลังจากปีที่แล้ว 2014 ทางบริษัทฯ สามารถทำรายได้กว่า 500 ล้านบาท จากกล้องโกโปร ซึ่งแบ่งสัดส่วนรุ่นที่ขายดีที่สุด คือ Silver คิดเป็น 60% ตามด้วย Black 30% และ Hero 10% ในปีนี้ 2015 ได้เปิดตัวกล้องรุ่นใหม่อีก 2 รุ่น ซึ่งตั้งเป้ารายได้โตขึ้นเป็น 800 ล้านบาท
พร้อมกันนี้ในปีหน้าอาจได้เห็นกล้องตัวใหม่ GoPro Camera Drone ซึ่งจะช่วยให้การเก็บภาพมุมสูงเป็นไปได้ง่ายยิ่งขึ้น
HERO4 Session
เป็นกล้องโกโปรที่เล็กที่สุด เบาที่สุด มากับทรงลูกเต๋าเล็กกระทัดรัด มีขนาดที่เล็กลง 50% และเบากว่าเดิม 40% เมื่อเทียบกับ GoPro HERO4 Black และ Silver
HERO4 Session มาในดีไซน์กันน้ำในตัวไม่จำเป็นต้องใช้ Housing ทั้งยังใช้งานง่ายด้วยปุ่มกดเพียงปุ่มเดียว ทำให้การบันทึกภาพและวิดีโอในสถานการณ์กระทันหันได้อย่างรวดเร็วและสะดวกยิ่งขึ้น กล้อง HERO4 Session ยังสามารถใช้งานร่วมกับ Mount ทุกรุ่นของโกโปรที่วางจำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน
กล้อง GoPro HERO4 Session มีราคา 14,800 บาท สามารถซื้อได้ตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคมนี้ เป็นต้นไป
HERO4 Session สามารถบันทึกวิดีโอคุณภาพในความละเอียด 1440p30, 1080p60, และ 720p100 พร้อมการบันทึกภาพนิ่งขนาด 8 ล้านพิกเซล ทั้งในโหมดภาพเดี่ยว ภาพนิ่งต่อเนื่อง (Burst) และภาพแบบตั้งเวลา (Time Lapse) โดยมีฟีเจอร์ล้ำๆ ที่พบได้ในกล้อง HERO4 Black และ Silver รวมถึง SuperView (ซูเปอร์วิว) Protune (โปรทูน) และ Auto Low Light หรือการบันทึกภาพในสภาวะแสงน้อยอัตโนมัติ การควบคุมและตั้งค่าที่ทำได้มากขึ้นผ่านแอพโกโปร หรือ
ตัวควบคุมระยะไกลอัจฉริยะ (Smart Remote)
HERO4 Session มีความทนทานตามมาตรฐานของGoPro สามารถลงน้ำได้ลึกถึง 33 ฟุต (10 เมตร) โดยยังคงระบบ mounting ที่สามารถเข้ากันได้กับmount อื่นๆทุกชนิดของโกโปรที่มีจำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน ระบบไมโครโฟนคู่ที่สลับกันบันทึกเสียงระหว่างการใช้งาน เพื่อลดเสียงลมรบกวนขณะบันทึกภาพกิจกรรมต่างๆ การบันทึกเสียงกิจกรรมต่างๆในน้ำได้รับการปรับปรุงให้ดีมากยิ่งขึ้น การออกแบบเพื่อกันน้ำในตัว ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้กล่องกันน้ำซึ่งมักจะไปปิดกั้นเสียงในขณะทำกิจกรรม
การใช้งาน HERO4 Session ทำได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่กดปุ่มชัตเตอร์สั้นๆ กล้องจะเปิดและเริ่มบันทึกวิดีโอโดยอัตโนมัติ กดปุ่มชัดเตอร์ค้างไว้จะเปิดกล้องและเริ่มบันทึกภาพนิ่งแบบ Time Lapse กดปุ่มชัตเตอร์อีกครั้งเพื่อบันทึกวิดีโอและภาพถ่าย และปิดกล้อง การออกแบบให้สั่งการด้วยปุ่มเพียงปุ่มเดียวมอบความรวดเร็วและสะดวกในการบันทึกภาพทุกไลฟสไตล์ได้ทันที
ถ้าใครได้ดูรายการแข่งขัน MotoGP รายการ GermanGP เมื่อวานนี้ ถ้วยรางวัลสำหรับ Top3 ทางสนามได้มอบ GoPro Hero4 Session ใหม่ตัวนี้ให้แก่นักแข่งที่ได้โพเดียมอีกด้วย
HERO+ LCD
เป็นกล้องที่สะดวกครบเครื่องด้วยหน้าจอสัมผัสและการเชื่อมต่อผ่านระบบ Wi-Fi
บันทึกภาพวีดีโอด้วยความละเอียดสูงถึง 1080p60 และภาพนิ่ง 8 ล้านพิกเซล กล้อง HERO+ LCD มาพร้อมหน้าจอสัมผัสเพื่อให้การถ่ายภาพเป็นไปอย่างง่ายดาย ทั้งยังช่วยในการตั้งค่าและเข้าถึงฟีเจอร์ตัดวิดีโอใหม่ล่าสุดอีกด้วย HERO+ LCD มาพร้อมกับกล่องกันน้ำในตัว (housing) เช่นเดียวกับกล้อง HERO รุ่นปกติ ด้วยการออกแบบที่ครบในหนึ่งเดียวพร้อมผนึกฟีเจอร์ที่มากขึ้น ช่วยให้การบันทึกช่วงเวลาที่น่าจดจำแห่งชีวิตได้สะดวกและง่ายยิ่งขึ้นกว่าเดิม
ทนทาน กันน้ำได้ถึง 131 ฟุต (40 เมตร) HERO+ LCD ได้รวมฟีเจอร์ขั้นสูงอย่าง HiLight Tag และฟีเจอร์ตัดวิดีโอในตัวกล้อง (video trimming) ช่วยให้ง่ายในการเลือกและแบ่งปันช่วงเวลาที่คุณโปรดปราน HiLight tagให้คุณกำหนดช่วงเวลาสำคัญขณะบันทึกภาพและระหว่างเล่นวิดีโอ เพื่อให้คุณค้นหาช่วงเวลาดังกล่าวได้ง่ายขึ้น ฟีเจอร์การตัด
วิดีโอใหม่นี้ช่วยให้คุณทำคลิปสั้นๆ พร้อมแชร์ใน Social Mediaได้โดยไม่ต้องใช้คอมพิวเตอร์
ระบบ Wi-Fi และ Bluetooth ในตัวช่วยเชื่อมต่อ HERO+ LCD กับแอพโกโปรบนสมาร์ทโฟนหรือแทบเล็ตของคุณเพื่อควบคุมกล้องและถ่ายภาพพรีวิวได้ง่ายขึ้นเมื่อกล้องของคุณ mount ติดกับอุปกรณ์อื่นหรืออยู่ไกล แอพโกโปรยังช่วยแบ่งปันคอนเทนต์ไปยังอินสตาแกรม เฟซบุ๊ค ทวิตเตอร์ และอื่นๆ ได้ง่ายขึ้น พร้อมผนึกฟีเจอร์ตัดวิดีโอลงไปด้วยเพื่อความสะดวกในการมอบโซลูชั่นสำหรับการแบ่งปันคอนเทนต์
กล้อง GoPro HERO+ LCD วางจำหน่ายแล้วในราคา 10,999 บาท
สรุปข้อมูลทางเทคนิค
HERO4 Session ราคา 14,800บาท
• บันทึกวิดีโอ1440p30,1080p60, และ720p100
• กันน้ำ 33 ฟุต (10 เมตร) ไม่จำเป็นต้องใช้กล่องกันน้ำ
• ควบคุมง่ายด้วยปุ่มเดียว: กดปุ่มชัตเตอร์สั้นๆเพื่อเปิดกล้องและเริ่มถ่ายวิดีโอ กดปุ่มชัตเตอร์ค้างไว้เพื่อเปิดกล้องและเริ่มถ่ายภาพนิ่งแบบ Time-lapse
• ถ่ายภาพขนาด 8 เมกะพิกเซล ได้ทั้งภาพเดี่ยว ภาพต่อเนื่อง (Burst) และภาพแบบตั้งเวลา (Time Lapse)
• เข้ากันได้กับ mount และอุปกรณ์เสริมอื่นๆทุกชนิดของโกโปร
• ระบบไมโครโฟนคู่ช่วยบันทึกเสียงในที่ลมแรงและกิจกรรมในน้ำได้ดียิ่งขึ้น
• WiFi และ Bluetooth ในตัวช่วยให้เชื่อมต่อกับแอพโกโปรและตัวควบคุมระยะไกล (Smart Remote)
• การปรับทิศทางภาพอัตโนมัติจะปรับแนวการวางภาพให้ถูกต้องขณะบันทึกภาพ
• รวม mount มาตรฐานและแบบบางเพื่อเพิ่มความหลากหลายของ mount
• มากับ mount แบบ Ball Joint Buckle ช่วยให้สามารถปรับมุมกล้องได้หลากหลายยิ่งขึ้น
• รองรับเมมโมรี่การ์ด microSD (อย่างน้อย Class 10 หรือ UHS-I) ความจุสูงสุด 64GB
HERO+ LCD ราคา 10,999บาท
• บันทึกภาพวิดีโอด้วยความละเอียดสูง1080p60 และภาพนิ่ง 8 เมกะพิกเซล
• หน้าจอสัมผัส ช่วยให้สะดวกในการควบคุมกล้อง การจัดภาพ และการดูวิดีโอบนกล้อง
• มี WiFi และ Bluetooth เพื่อเชื่อมต่อกับแอพโกโปรและ Smart Remote
• HiLight Tagช่วยกำหนดช่วงเวลาสำคัญระหว่างการถ่ายวิดีโอ หรือขณะเล่นวิดีโอ เพื่อตัดต่อได้รวดเร็วขึ้น
• ฟีเจอร์ตัดวิดีโอในกล้องช่วยให้สร้างคลิปสั้นๆ สำหรับการแบ่งปันเนื้อหาได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องใช้คอมพิวเตอร์
• เปิดเครื่องแล้วบันทึกทันทีด้วยการกดปุ่มเพียงปุ่มเดียวด้วย QuikCapture
• แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ยาวนานขึ้น บันทึกภาพได้นานถึง 2 ชั่วโมง
• Housing ในตัว ช่วยให้ใช้งานได้สะดวกและง่ายยิ่งขึ้น
• รองรับเมมโมรี่การ์ด microSD (อย่างน้อย Class 10 หรือ UHS-I) ความจุสูงสุด 64GB
กล้อง GoPro ที่วางจำหน่ายในปัจจุบัน จะมีทั้งสิ้น 5 รุ่น ดังนี้
Hero4 Black 18,500 บาท
Hero4 Plus 14,800 บาท
Hero4 Session 14,800 บาท
Hero+ LCD 10,999 บาท
Hero 4,999 บาท
อ่านข่าว GoPro เพิ่มเติมได้ที่นี่
เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ