หากนึกถึงรถจักรยานยนต์สไตล์ครุยเซอร์ที่เรียกได้ว่าเป็นตำนานของโลก คงจะมีไม่กี่รุ่นที่เป็นที่ยอมรับจากเหล่าไบค์เกอร์อย่างแท้จริง ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ Honda Rebel ที่ยังโลดแล่นและครองใจนักบิดมาหลายเจเนอเรชั่นจนถึงปัจจุบัน
จุดเริ่มต้นของตำนานรถ Custom Bobber แห่งแดนอาทิตย์อุทัย เกิดขึ้นครั้งแรกในปี 1985 เมื่อฮอนด้าเปิดตัว Rebel หรือ CMX250 สู่สายตาสาธารณชนเป็นครั้งแรกของโลก พร้อมกับเสียงตอบรับที่ดีจากคนรุ่นใหม่ที่อยากเป็นเจ้าของมอเตอร์ไซค์เท่ ๆ สักคัน ด้วยดีไซน์ที่สวยงาม ราคาไม่แรง และขี่ง่าย Honda Rebel รุ่นแรกยังได้รับการยอมรับจากสื่อมวลชนโดยเฉพาะนิตยสารสองล้อชั้นนำอย่าง Motorcyclist ยกย่องให้เป็นมอเตอร์ไซค์ที่สมบูรณ์แบบรุ่นหนึ่งที่มีอยู่ในตลาด ณ ขณะนั้นเลยทีเดียว
ด้วยความตั้งใจของฮอนด้า ที่ต้องการขยายตลาดสู่กลุ่มนักบิดรุ่นใหม่ผู้ชื่นชอบสไตล์การขับขี่แนวคลาสสิก Honda Rebel จึงเป็นรถที่มีราคาจับต้องได้ ประกอบกับรูปร่างหน้าตามีความโดดเด่น ท่วงท่าการขับขี่เป็นธรรมชาติ ให้ความสะดวกสบายและคล่องตัว ส่งผลให้ Honda Rebel กลายเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ของนักบิดในยุค 80s
ในยุคแรกนั้น Honda Rebel ภายใต้รหัส CMX250 ใช้เครื่องยนต์พิกัด 250 ซีซี ให้การขับขี่ที่นุ่มนวลแต่ทรงพลังแม้แต่มือใหม่ก็ขี่ได้ไม่ยาก ช่วงระหว่างปี 1985-1996 Honda Rebel จึงกลายเป็นครุยเซอร์หนึ่งเดียวจากญี่ปุ่น ที่สามารถยืนหยัดต่อกรกับเหล่าตัวเลือกรถครุยเซอร์สัญชาติอเมริกันได้อย่างสนุก อีกทั้งยังกลายเป็นรถที่ขึ้นชื่อเรื่องความประหยัด เพราะน้ำมันหนึ่งถังสามารถวิ่งได้ไกลถึง 310 กิโลเมตร แบบสบายๆ โดยไม่ต้องแวะเติม
สิ่งสำคัญที่สุดอีกด้านหนึ่งที่ทำให้ Honda Rebel ได้รับความนิยมมากก็คือ นี่คือรถครุยเซอร์ที่นำมาดัดแปลงในสไตล์ Bobber ได้อย่างสวยงามและหลากหลายมาก มีค่ายแต่งจำนวนมากที่ผลิตชุดแต่งออกมาให้เจ้าของรถได้เลือกกันไม่หวาดไม่ไหว
กว่า 3 ทศวรรษต่อมา ฮอนด้าได้เปิดตัว Rebel ออกมาอีกหลายรุ่นโดยเน้นไปที่เครื่องยนต์พิกัด 250 ซีซี ก่อนจะเข้าสู่ยุคโมเดิร์นของ Rebel ในปี 2017 ที่ตัวรถถูกออกแบบให้ดูร่วมสมัยมากขึ้นในสไตล์ Custom Bobber เน้นทำตลาดในพิกัด 300 และ 500 ซีซี วางจำหน่ายทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยในรูปแบบโกลบอลโมเดล
ล่าสุด ในปี 2020 นี้ Honda Rebel ยังคงได้รับการพัฒนาให้เป็นที่สุดของ Custom Bobber ยุคใหม่ ด้วยการผสานเอกลักษณ์ความเท่สุดคลาสสิกและเทคโนโลยีอันทันสมัยรอบคัน ภายใต้แนวคิด “Express Yourself เท่ให้ถึงแก่น” โดยมี
จุดเด่นอยู่ที่ชุดไฟ LED ทั้งคัน และติดตั้งระบบแอซซิสท์/สลิปเปอร์คลัชท์ (Assist/Slipper Clutch) เพื่อให้การขับขี่มีความนุ่มนวลที่สุด
ด้านขุมพลังของ New Honda Rebel เวอร์ชันล่าสุดนี้ ยังคงมีให้เลือก 2 ขนาดเช่นเคย ได้แก่เครื่องยนต์ขนาด 500 ซีซี สองสูบ เพื่อคนที่ชอบขับขี่ท่องเที่ยวทางไกล และเครื่องยนต์ขนาด 300 ซีซี สูบเดียว ที่เน้นไปที่การขับขี่ในเมือง และใช้ระบบเบรก ABS ทำงานร่วมกับดิสก์เบรกหน้า-หลัง
เอ.พี. ฮอนด้า วางจำหน่าย New Honda Rebel Series ผ่านสองช่องทาง โดย Rebel 500 มีวางจำหน่ายที่ศูนย์ Honda BigWing ด้วยราคาแนะนำที่ 222,780 บาท และ Rebel 300 วางจำหน่ายที่ศูนย์จำหน่ายและบริการ Honda Wing Center ด้วยราคาแนะนำที่ 146,830 บาท
อ่านข่าว Honda เพิ่มเติมได้ที่นี่
เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ