อย่างที่เราทราบกันดีว่า ในปีนี้สถานการณ์ COVID-19 ทำให้ทุกภาคส่วนธุรกิจได้ผลกระทบในวงใหญ่ และในช่วง 2 เดือนหลังมานี้ สถานกาณ์ในประเทศเราเริ่มคลี่คลายดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนสามารถจัดงาน BIMS2020 ได้
และทางเราได้มีโอกาสพบปะ และพูดคุยสัมภาษณ์ กับ คุณเกษม เกาจารี ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและประชาสัมพันธ์ Royal Enfield Thailand ว่าทางค่าย “Made like a gun Goes like a bullet” นี้จะเป็นอย่างไรบ้าง เรามาฟังไปพร้อมๆ กันเลยครับ
– ในช่วงสถานกาณ์ COVID-19 ที่ผ่านมาที่ ประเทศไทยเรามีการ Lock Down ต่างๆ ทาง RE Thailand เราได้รับผลกระทบอย่างไรบ้างครับ?
ต้องบอกว่า Royal Enfield เป็นบริษัทในกลุ่มยานยนต์ ที่ไม่มีการปลดพนักงานเลยจากทั่วโลก ซึ่งเป็นนโยบายจากทาง Global
ทางอินเดีย ก็เข้มงวดกับการรักษามาตรการในช่วง COVID-19 นี้มาก
โดยทาง RE Thailand เราให้ WFH มาตั้งแต่ ต้นเดือน มี.ค. จนปึงปัจจุบัน นี้ผมเองยัง WFH แต่ก็ มีบางวันที่ สลับเข้าไปออฟฟิศอยู่บ้าง
ถามว่า WFH สบายไหม ก็ไม่เลยนะ เพราะว่า ต้องมี Conference แทบจะตลอด
นอกจากนี้ ยังมี Conference กับทาง ดีลเลอร์ เป็นรายบุคคล อยู่ทุกสัปดาห์ เพื่อถามไถ่แผนการทั่วไป ว่าเป็นอย่างไรบ้าง
หรือ มีไอเดียอะไรเ ต้องการเสนอแพลนให้ทางเราช่วยหรือไม่
และทาง ดีลเลอร์ ในประเทศเรา ก็จะมีให้คุยกับทาง Headquater ที่อินเดีย ด้วยเดือนละครั้ง ซึ่งผมเองก็จะเป็นคนกลางที่เข้าร่วมด้วย ทั้งช่วยประสาน และในเรื่องของการแปลต่างๆ
– แล้วยอดขายในช่วงที่ผ่านมาได้รับผลกระทบยอดตกมาไหมครับ?
และ ถ้าพูดถึงเรื่องยอดขายเราเป็นอย่างไรในช่วงนี้ ก็ต้องบอกว่า จริงๆ เป็นไปตามสภาพ เศรษฐกิจ ที่ ตกลงมา ตั้งแต่ไตรมาสแรกแล้ว จริงๆ ต้องบอกว่า มาตั้งแต่ปีที่แล้ว
ซึ่ง ถามว่าเราได้รับผลกระทบมากขนาดไหนนั้น ส่วนใหญ่ จะมีผลกับลูกค้าที่เข้าโชว์รูม ค่อนข้างมาก
โดยทางเรา ก็จะมีให้ลูกค้าสามารถจองรถได้ผ่านทางออนไลน์ นอกจากนี้สำหรับลูกค้าที่สนใจ ก็จะมีการนำรถไปให้ลองขี่ได้ถึงที่บ้านอีกด้วย
– แล้วพวกทริปนี้ ต้องยกเลิกไปหมดเลยไหมครับ?
ใช่เลย เพราะ จากมาตรการ Lock Down ห้ามเดินทางข้ามจังหวัดต่างๆ ก็ทำให้พวกทริปกิจกรรม โดยปกติของเราจะมีจัดประมาณ 3ครั้ง/เดือน ตรงนี้จะต้องงดไปเลย
ซึ่งทริปแรกที่เรากลับมาเริ่มได้ คือ ช่วงต้นเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา
โดยปกติทริปเราจะมีอยู่ประมาณ 25 คน แต่การกลับมาเริ่มออกทริปในครั้งนี้ คนเข้าร่วมเป็นทวีคูณ เลยเนื่องจากลูกค้าเราค่อนข้างอัดอั้น ไม่ได้ไปขี่ออกทริปแล้วจึงให้ความสนใจตอบรับมาก
– แล้วฝั่งของ Service นี้เป็นอย่างไรบ้างครับในช่วง COVID-19?
ต้องบอกว่า ยอดตกไม่มากในเรื่องของ Service ดร็อปลงไปเพียง 5% เท่านั้น
เพราะว่าหลายคน มองว่าช่วงนี้เป็นช่วงมีเวลา ก็นำรถมา Service หรือ หลายคนก็อย่างที่ทราบๆ กันดีก็นำรถไปแต่งก็มีเช่นกัน
เรื่องยอด Service จึงไม่ถือว่าตกลงจนน่าเป็นห่วง
– ช่วงที่ผ่านมา ส่งผลกระทบให้ลูกค้าออกรถยากขึ้นไหมครับ จากการพักชำระหนี้ อะไรต่างๆ ทำให้ไฟแนนซ์ปล่อยรถยากขึ้นมากไหม?
ลูกค้าเราก็มีทั้งกลุ่มที่โดนกระทบโดยตรง อย่างเช่น คนที่ทำงานในกลุ่มการท่องเที่ยว ร้านอาหาร
พวกนี้ จะยิ่งออกสินเชื่อยากมาก
แต่ก็มีคนที่ไม่ได้รับผลกระทบมาก ออกรถได้ โดยทางไฟแนนซ์ ก็จะให้เพิ่มยอดเงินดาวน์ จากปกติ ดาวน์สัก 10% ก็ต้องขยับเพิ่มมาเป็นสัก 25%
ขึ้นมาแทน
– ยอดขายรถ RE ของเรา เป็นอย่างไรบ้างครับ สัดส่วนกลุ่มไหนขายดีสุด?
ขายดีสุดต้องบอกว่าเป็น
Interceptor 650
ตามด้วย Classic 500
แล้วค่อยมา Continental GT 650
ถัดมาก็ Himalayan
แล้วมาเป็น Bulellet Trial Works Replica
และปิดท้ายด้วย Bullet 500
ซึ่งต้องถือว่าสัดส่วนยอดขายถึง 70% เป็นกลุ่มตัวเครื่องยนต์ Parallel Twin 650cc
– แล้วตอนนี้ การส่งมอบรถของเราเป็นอย่างไรบ้างครับ มี Back Order ไหม?
ก็ต้องถือว่ามี Back Order อยู่ เพราะว่า รถของเราที่ยกเข้ามาจากอินเดีย ยังนำเข้ามาไม่ได้ ต้องรอไปถึง 5 เดือน
และเพิ่งเข้ามาได้ 1 Container ช่วงเดือน ก.ค. นี้เอง
– แล้วในตอนนี้ ในงาน Motor Show 2020 ครั้งนี้ (นับจากวันที่ได้สัมภาษณ์ 18 ก.ค.) ยอดจองเป็นเช่นไรบ้างครับ?
ต้องถือว่าตอบรับดีเกินคาด
ตัวขายดีก็ยังเป็น INT650, แล้วก็พวก Classic, Himalayan
อย่าง Royal Enfield สีดำ Stealth Black ที่เราเพิ่งเปิดในงานนี้ และมีจำกัด 150 คัน ณ ถึงตอนนี้ (นับจากวันที่ได้สัมภาษณ์ 18 ก.ค.) ก็มีบอด Booking เข้ามาแล้วถึง 30 คันเฉพาะใน BIMS2020
ส่วนทางฝั่ง Dealer ก็มีสั่ง Order มาแล้วเรื่อยๆ
– หลังจากนี้ จะมีกิจกรรมแผนกับลูกค้า เพิ่มเติมอีกอย่างไรบ้างครับ?
อย่างที่ได้บอกไปตอนแรก เราก็จะกลับมาจัดทริปให้กับลูกค้าอย่างปกติ 3ครั้ง/เดือน
ซึ่งทางผมเองก็จะมีทำกลุ่ม Line Group Community ของ Royal Enfield ซึ่งบางทีก็มีนัดชวนขี่รถเล่นชิลๆ ในเมืองแบบขี่กินกาแฟ
– แล้วในปีนี้ เรามีการปรับเป้าการขายเราอย่างไรบ้างครับ?
จริงๆ ต้องบอกว่าทางผู้ใหญ่ ยังไม่มีการปรับลดเป้านะ ยังตั้งเป้าเดิม 7,000 คัน
ซึ่งคงต้องรอดูสถานการณ์หลังจากนี้อีกสักหน่อยว่า จะเป็นอย่างไรต่อไป
– แล้วในเรื่องของการขยายตัวแทนจำหน่ายของเรา มีที่จะต้องชะลอการขาย หรือ อย่างไรบ้างไหมครับ?
เนื่องจากทางเรามีการคัดดีลเลอร์จริงจัง ดูสถานะทางการเงินด้วย เพราะเราจะตั้งใจอยู่ไปยาวๆ จึงต้องคัดตัวแทนจำหน่ายที่ไว้วางใจได้ ในการดำเนินแผนตามธุรกิจที่วางไว้
ซึ่งปัจจุบันวางแผนปีนี้ไว้ 14 แห่ง เราไม่มีชะลอหรือยกเลิก แต่อย่างใด
– แล้วรถที่ผลิตในประเทศไทย นี้ Lot แรกที่จะส่งมอบให้แก่ลูกค้า นี่ประมาณช่วงไหนครับ?
ช่วงเริ่ม Fiscal Year ของปีหน้า (หลัง เม.ย. 2021)
อ่านบทสัมภาษณ์ อื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่านข่าว Royal-Enfield เพิ่มเติมได้ที่นี่
เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ