Kawasaki ค่ายรถยักษ์เขียวจากโกเบ ที่น่าจะเป็นหนึ่งในค่ายรถมอเตอร์ไซค์จากญี่ปุ่น ที่มีท่าทีตื่นตัวกับอนาคตของตลอดพลังงานสะอาดมากที่สุดค่ายหนึ่ง จนในปีที่แล้วก็ได้มีการเปิดตัวรถต้นแบบพลังงานไฟฟ้าล้วน(EV) รถพลังงานไฮบริด(Hybrid) หรือแม้แต่รถพลังงานไฮโดรเจน(Hydrogen) รวมถึงประกาศอย่างชัดเจนถึงแผนการเปิดตัวรถกลุ่มนี้ในอนาคต
โดยวันนี้เรามีข้อมูลข่าวลือน่าสนใจเกี่ยวกับรถในกลุ่มไฮบริด หลังจากที่ทางค่ายได้นำรถต้นแบบมาโชว์ตัวเป็นครั้งแรก มาพร้อมเครื่องยนต์ 2 สูบเรียง ลูกเดียวกับที่ประจำอยู่ในรถคลาสเริ่มต้นอย่าง Ninja 400 หรือ Z400 พ่วงด้วยระบบมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ขนาดเล็ก ที่เข้ามาช่วยเพิ่มอัตราเร่งและลดมลพิษ แต่ต่อมาสื่อต่างประเทศก็เริ่มมีการพูดถึงรถพลังไฮบริดเช่นเดิม แต่คราวนี้เปลี่ยนเครื่องยนต์ไปใช้ของ 650 series ที่ประจำอยู่ในรถคลาสกลางแทน
เนื่องจากทางค่ายมีการจดสิทธิบัตรหลายตัวในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ที่โดดเด่นที่สุดก็คงจะเป็นระบบคลัทช์อัตโนมัติที่ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะมีประโยชน์มากในการผสานการทำงานของเครื่องยนต์ปกติ และระบบไฟฟ้าที่ซับซ้อน โดยไม่ต้องกังวลความยุ่งยากที่เกิดขึ้นจากระบบคลัทช์และเกียร์แบบมาตรฐาน รวมถึงการเปลี่ยนเกียร์และกำคลัทช์ที่ไม่เรียบเนียนโดยผู้ใช้รถ ซึ่งนี่จะไปสอดคล้องกับการที่ทางค่ายจดสิทธิบัตรระบบ e-Boost ที่จะใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเสริมกำลังในช่วงสั้น หรือ ระบบเดินหน้า-ถอยหลังในความเร็วต่ำ และการจะนำระบบทั้งหมดที่ซับซ้อนขนาดนี้ไปใช้ในรถคลาสเริ่มต้น ก็คงจะเป็นเรื่องที่ดูไม่มีเหตุผลในทางการตลาดเท่าไร
แต่ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่การคาดเดาเท่านั้น เนื่องจากรถต้นแบบที่ทางค่ายปล่อยออกมานั้นยังมีเพียงแค่รุ่นที่ใช้เครื่องยนต์จาก 400 series และถ้าทางค่ายยังมองว่ารถที่มีกำลังสูงนั้นยังไม่เหมาะสำหรับระบบไฟฟ้า Kawasaki อาจจะหาวิธีอัพเดตรถกลุ่ม 650 series ของตัวเองให้สามารถตามทันคู่แข่งคลาส 750-800 ซีซี ด้วยวิธีขยายความจุเครื่องยนต์ซึ่งมีความเรียบง่ายกว่าแทน แต่เราต้องบอกตามตรงว่าการยัดระบบไฟฟ้าไฮบริด เพื่อทำให้รถของตัวเองสู้กับคู่แข่งเครื่องใหญ่ได้นั้น ถือเป็นวิธีที่น่าสนใจและแปลกใหม่ไม่น้อย หรือไม่แน่ทางค่ายอาจจะทำทุกอย่างเพื่อเป็นการทดลองตลาดเลยก็ได้
ที่มา motorrad
อ่านข่าวสาร Kawasaki เพิ่มเติมได้ที่นี่
