Kawasaki ค่ายรถมอเตอร์ไซค์สายเขียวจากญี่ปุ่น ที่ดูเหมือนว่ากระแสของค่ายรถรายนี้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จะดูเงียบลงไปพอสมควร เนื่องจากรถรุ่นใหม่ที่เปิดตัวออกมาได้ไม่ปัง ซ้ำด้วยกระแสของตลาดรถมอเตอร์ไซค์แนวสปอร์ต ซึ่งเป็นแนวถนัดของค่ายที่หดตัว
เพราะผู้ใช้รถคลาสเริ่มต้นในระดับ 250-400 ซีซี ส่วนใหญ่หันไปใช้รถแนว Big Scooter ที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากกว่ากันหมด ถ้าพวกเขาไม่รีบแก้ปัญหานี้ในอนาคตอันใกล้ ก็อาจจะทำให้ช่องว่างกับค่ายร่วมชาติอย่าง Honda และ Yamaha หรือแม้แต่ Suzuki ยิ่งห่างกันเข้าไปอีก
ซึ่งล่าสุดทางสื่อออนไลน์จากอินโดนีเซียอย่าง Iwanbanaran ก็ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ผู้บริหารของ Kawasaki Motor Indonesia จนได้รับข้อมูลที่น่าสนใจว่า “เราคิดว่าตอนนี้มันช้าไปแล้วที่จะลงเล่นในตลาดของรถออโตเมติก เพราะคู่แข่งอย่าง Honda และ Yamaha นั้นแข็งแกร่งในตลาดนี้เป็นอย่างมาก”
“แต่ก็มีข้อยกเว้นในตลาดของบิ้กสกู๊ตเตอร์ และใช่ครับ เรากำลังพิจารณาทำรถบิ้กสกู๊ตเตอร์” Michael C. Tanadhi ผู้บริหารฝ่ายขายของค่ายเขียวกล่าว
และเมื่อถูกถามว่ามีความเป็นไปได้ไหมที่จะเป็นรถในตระกูล J series ที่มีขายในตลาดยุโรป ทางผู้บริหารการได้ตอบว่า “มันอาจจะเป็นรถที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ หรือจะเป็นรถที่นำเข้ามาก็ได้ แต่ราคาของรถก็จะแพงมากถ้าเป็นการนำเข้า(แม้แต่ตลาดประเทศไทย) ตอนนี้เรายังบอกอะไรไม่ได้ แต่สิ่งที่บอกได้คือสำหรับเราแล้ว การทำบิ้กสกู๊ตเตอร์นั้นดูมีเหตุผลมากกว่าการทำสกู๊ตเตอร์ขนาดเล็ก และเราก็ได้คุยเรื่องนี้กับทางญี่ปุ่นไปแล้ว”
เมื่อถูกถามถึงแหล่งพลังงานของรถ ว่าจะเป็นรถที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงหรือไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ ทางค่ายเขียวก็ตอบว่า “เป็นไปได้ทั้งคู่”
ถึงตรงนี้พวกเราที่รอคอยรถสกู๊ตเตอร์จาก Kawasaki ก็คงต้องรอติดตามกันว่ารถรุ่นใหม่ที่ว่านี้จะมีหน้าตาเป็นแบบไหน มีขนาดเครื่องยนต์เท่าไร จะเริ่มต้นเท่าคู่แข่งที่ 300 ซีซี หรือจะเกทับด้วยเครื่องยนต์ 400 ซีซี ไปเลย แต่เราเชื่อว่ารถรุ่นใหม่ที่ว่านี้อาจจะเป็นรถรุ่นใหม่หมดจดที่ทางค่ายเขียวเป็นคนพัฒนาขึ้นมาเอง
เนื่องจาก J300 ที่ขายอยู่ในตลาดยุโรปนั้นเป็นรถที่พัฒนาร่วมกับ Kymco ทำให้ทางค่ายไม่สามารถควบคุมสเปคและการพัฒนาได้อย่างเต็มที่ รวมถึงรถรุ่นเดิมที่ขายอยู่ก็มีอายุที่เก่ามากจนไม่สามารถสู้กับคู่แข่งในตลาดยุคปัจจุบันได้แล้ว การพัฒนารถรุ่นใหม่จึงดูมีเหตุผลมากที่สุด
ที่มา iwanbanaran
อ่านข่าวสาร Kawasaki เพิ่มเติมได้ที่นี่