หลังจากที่เมื่อสนามก่อนหน้า Jorge Lorenzo ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าตนรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่นักกับผลงานของตัวเองในขณะนั้น แต่ในสัปดาห์การแข่งขัน MotoGP สนามที่ 5 ครั้งนี้นั้นต่างออกไป เพราะนับตั้งแต่เปิดรอบฝึกซ้อม เราก็จะเห็นได้ว่านักบิดดีกรีแชมป์โลก 5 สมัยรายนี้เริ่มจับทางอะไรบางอย่างในตัวแข่ง Honda RC213V ได้บ้างแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรอบ FP2 ซึ่งเป็นการฝึกซ้อมตอนผิวแทร็คยังแห้งที่เขาสามารถกดเวลาได้ดีจนติดท็อป 4 ของรอบซ้อมนั้นเลยทีเดียว
โดยเกี่ยวกับเรื่องนี้นั้น ทาง Lorenzo ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า สาเหตุหนึ่งที่ทำให้เขาสามารถทำเวลาได้ดีเช่นนี้ก็เป็นเพราะว่า เขาเริ่มจับจุดในเรื่องของการเบรกและความรู้สึกช่วงหน้าของตัวรถ RC213V ได้ทีละนิด แต่ที่เด็ดที่สุดคือการ “เปลี่ยนทรงเบาะนั่งใหม่” ที่ช่วยให้เจ้าตัวสามารถควบคุมตัวแข่งคู่ใจของตนได้อย่างมั่นใจ ปลอดภัย และสบายตัวมากขึ้น
“จริงๆเบาะแบบเดิม (ที่ใช้ก่อนหน้านี้มา 4 สนาม) ผมใช้มาตั้งแต่ตอนยังอยู่กับ Yamaha และเอามันมาใช้ต่อใน Ducati, และแน่นอนผมเอามันมาใช้กับ Honda แต่ว่าดูเหมือนมันจะไม่ช่วยอะไร และกลายเป็นว่าเบาะเดิมๆที่ Honda ทำไว้ดันเป็นทางแก้ปัญหาที่ดีกว่า”
“คือผมไม่ได้ทำกดเวลาที่ดีได้แค่ในรอบเดียว, แต่ผมสามารถกดเวลา 1’31.5xx ได้ถึง 3 รอบ ดังนั้นมันไม่ใช่เพซที่แย่, แต่เราแปลง(ข้อมูล)เหล่านี้ไปใช้ในการแข่งขันให้ได้, ถ้าเราทำไม่ได้, เราก็จะไม่สามารถมั่นใจ, พิสูจน์, และแสดงให้เห็นได้เลยว่าเราทำอะไรได้บ้าง”
“จริงอยู่ว่ามันก็แค่รอบซ้อม, แต่ถ้าถามถึงความรู้สึก ผมว่าเราได้เลื่อนขึ้นไปอีกขั้น, ดังนั้นสำหรับผม มันเหมือนกับความสำเร็จเล็กๆ, แต่การจะไปให้เร็วมันคือกระบวนการระยะยาว, มันไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ”
งานนี้ก็มาลุ้นกันต่อล่ะครับ ว่าในการแข่งขัน MotoGP 2019 ศึก FrenchGP ที่จะเกิดขึ้นในช่วงค่ำวันนี้ Jorge Lorenzo จะไปได้ดีกับตัวแข่ง Honda RC213V แค่ไหน ยังไงก็รอชมกันได้เลยครับผม
อ่านข่าว MotoGP เพิ่มเติมได้ที่นี่
เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ
