ต่อจากกรณีข่าวที่ว่า Valentino Rossi ได้วิจารณ์ถึง Marc Marquez อย่างตรงไปตรงมาว่า “นักบิดแชมปโลก 6 สมัยคนดังกล่าวได้ทำลายกีฬานี้ไปแล้ว และการกระทำที่บวกนักบิดคนอื่นให้บานออกเป็นการกระทำด้วยความตั้งใจ” ล่าสุดในเวลาต่อมาไม่นานนักทางนักบิดหมายเลข 93 ก็ได้ออกมาแย้งว่า “ตัวเองไม่เคยคิดแบบนั้นกับนักบิดร่วมสนามเลยซักครั้ง”
โดยก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุการณ์ Marquez เข้าไปปะทะกับ Rossi จนนักบิดฝ่ายหลังล้มลงเพราะเหยียบพื้นหญ้านอกผิวแทร็คนั้น ทาง MM93 ได้เริ่มอธิบายถึงเหตุการณ์ที่ตนเองต้องโดนทำโทษ Ride Trough เพราะตัวแข่ง Honda RC213V ของตนดับจนต้องเข็นสตาร์ทแล้ววกกลับไปจอดบนกริดใหม่ ซึ่งผิดกฏการแข่งขัน ว่า “ขณะที่ผมกำลังจะขับเข้ากริดสตาร์ท รถของผมมันดันดับขึ้นมา ซึ่งผมก็ได้ยกมือเพื่อจะแจ้งกรรมการหรือทีมงานแล้วว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น แต่ก็เหมือนไม่มีใครเห็น จนสุดท้ายผมต้องเลือกเข็นรถออกมาเพื่อสตาร์ท และโชคดีที่เครื่องมันติด แต่หลังจากนั้นผมก็ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงต่อ”
“จริงๆผมรู้นะว่าถ้ารถดับ ผมต้องออกจากกริดแล้วไปออกตัวที่พิทเลน แต่รถผมยังสตาร์ทได้อยู่ และเมื่อกรรมการได้วิ่งเข้ามาผมก็ถามกับเขาให้แน่ใจแล้วว่า ‘ผมยังออกตัวบนกริดได้อยู่ หรือต้องไปพิทเลน ?’ ซึ่งกรรมการคนดังกล่าวก็ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงเหมือนกัน จนผมและเค้าหันไปมองกรรมการอีกคนที่ชูนิ้วโป้งอยู่ข้างสนามเหมือนบอกว่าไม่เป็นไร ผมจึงเข้าใจว่าผมยังสามารถกลับไปยังกริดสตาร์ทของผมแล้วออกตัวจากตรงนั้นได้เหมือนเดิม”
“หลังจากนั้นตอนที่ผมขับออกไปได้สักพัก (เริ่มการแข่งขันแล้ว) จู่ๆ ที่หน้าจอของผมก็มีข้อความแจ้งขึ้นมาว่า ‘Ride Through Penalty’ ซึ่งผมไม่เข้าใจเลยว่า ในเมื่อกรรมการอณุญาติให้ผมสตาร์ทบนกริดอย่างนั้นแล้วทำไมถึงมาแจ้งกันย้อนหลังแบบนี้”
ต่อมา Marc ก็ได้อธิบายถึงการเสียบ Aleix Espagaro ที่รุนแรงจนกรรมการต้องสั่งให้ตนเองคืนอันดับให้ในรอบที่ 9 ซึ่งทาง MM93 ก็ให้สัมภาษณ์ว่า “หลังโดนปรับ Ride Trough ผมก็เริ่มกดเวลาในทันที และดูเหมือนว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะเป็นอะไรที่ร้ายแรงที่สุดแล้วในการแข่งขันครั้งนี้ เพราะเอาจริงๆแล้วในเวลานั้นผมทำเวลาต่อรอบได้ไวกว่า Espagaro ถึง 4 วินาที ซึ่งมันค่อนข้างอึดอัด”, “ผมพยายามที่จะหลีกเลี่ยงการปะทะให้มากที่สุด แต่เมื่อชนผมก็ขอโทษ”, “ผมยอมรับบทลงโทษครั้งนั้นที่บอกให้ผมคืนอันดับ 1 อันดับ แต่ผมเลือกที่จะคืน 2 อันดับเพื่อความชัวร์”
ด้านเหตุการณ์การปะทะกับ Rossi จนคู่กรณีล้มนั้น Marc ก็ได้กล่าวเอาไว้เพิ่มเติมอีกว่า “ผมคิดว่าไม่ได้ทำอะไรที่บ้าบอนะ”
“ผมหมายถึงตอนนั้นผมอยู่ในโค้ง และคุณต้องเข้าใจเงื่อนไขผิวแทร็ค”, “จริงอยู่ว่าในไลน์สนามพื้นแทร็คมันอาจจะแห้ง แต่จังหวะนั้นผมไปหลุดเหยียบแอ่งน้ำเข้า ล้อหน้าผมจึงล็อค แน่นอนว่าผมต้องปล่อยเบรกจนสุดท้ายก็ปะทะกับ Rossi เข้าให้ ซึ่งผมก็พยายามเลี้ยวแล้ว และทันทีที่ผมเห็นเค้าล้ม ผมก็พยามที่จะขอโทษ”
“และถ้าคุณลองตรวจสอบดูคุณก็จะรู้ว่าวันนี้มีเหตุการณ์คล้ายๆกันกับผมหลายครั้งมาก ทั้งตอน Zarco กับ Dani หรือ Petrucci กับ Espagaro ซึ่งสิ่งที่ผมจะสื่อก็คือ วันนี้มันยากมากที่จะคุมไลน์ด้วยการขี่แบบ 100% อย่างนั้น”
นอกจากนี้ Marc Marquez ยังได้กล่าวถึงเหล่าผู้ที่วิจารณ์ถึงตัวเค้าเองหลังจบเหตุการณ์นี้เพิ่มเติมอีกว่า
“จากใจเลย ผมไม่แคร์”, “ผมแค่อยากโฟกัสกับสิ่งที่ผมต้องทำและผมรู้ดีว่ามีอะไรบ้างที่เกิดขึ้น”, “ใช่วันนี้ผมทำผิดพลาด แต่ส่วนนึงก็เพราะการตัดสินที่น่าสับสน และส่วนนึงก็เป็นเพราะตัวผมเอง ซึ่งผมก็พร้อมที่จะแก้ไขมันให้ดีขึ้นในอนาคต”
และอย่างที่บอกว่าการสัมภาษณ์ Marc Marquez ครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ทางสื่อไปสัมภาษณ์ Valentino Rossi ซึ่ง VR46 ได้กล่าวในบทสัมภาษณ์ว่าเค้าจงใจชนแบบนั้นกับนักบิดคนอื่น ดังนั้นทางโจทก์อย่าง MM93 จึงได้ตอบโต้กลับไปว่า “ผมไม่เคยคิดที่จะพุ่งเข้าไปชนนักบิดคนอื่นๆแล้วหวังให้เค้าล้มลง ไม่เคยเลยซักครั้ง”, “ผมพยายามที่จะหลีกเลี่ยงให้มากที่สุดเท่าที่ได้ด้วยซ้ำ แต่ก็ยอมรับว่าในการแซงแต่ละครั้งมันมีทั้งที่เฉียดกันไปมากับแซงได้อย่างขาวไสสลับกันอยู่บ้าง”
“สำหรับเหคุการณ์วันนี้ที่ผมได้พลาดไปชนกับ Rossi เข้า มันเกิดขึ้นเพราะสภาพสนามที่เปียกลื่นจนล้อหน้าผมล็อคจริงๆ และตลอดระยะเวลาการทำอาชีพนี้ของผม ผมบอกได้เลยว่าเค้า (Rossi) คิดผิดทั้งหมด”
อ่านข่าว MotoGP เพิ่มเติมได้ที่นี่
เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ
