จะเป็นอย่างไรเมื่อรถสมรรถนะสูง ทั้งฝั่งรถ 2 ล้อและ 4 ล้อ ได้มาเผชิญหน้ากัน ในวันนี้ MotoRival เราขอพาทุกท่านไปพบกับแบรนด์รถหรูจากเยอรมันนี Mercedes AMG และประติมากรรมแห่งรถ 2 ล้อ MV Agusta กับเจ้า สิงห์เทา Mercedes-Benz A45 AMG และ หงส์ขาว MV Agusta Stradale
ทำไมถึงต้องเป็น Mercedes AMG และ MV Agusta ด้วย? ขอเท้าความไปเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว ทาง เดมเลอร์ เอจี บริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่จากเยอรมัน เจ้าของแบรนด์รถ Mercedes-Benz ประกาศเข้าซื้อหุ้นของ MV Agusta ในสัดส่วน 25% เมื่อวันที่ 31 ตค. 2014 ที่ผ่านมา จึงเป็นที่มาของรีวิว แบรนด์แม่ปะทะลูก ซึ่ง MotoRival เราเลือกโมเดล Mercedes-Benz A45 AMG (สิงห์เทา) ที่สุดของรถ Compact Hatchback และ MV Agusta Stradale (หงส์ขาว) ที่ได้ขึ้นชื่อชั้นในความเป็นรถ Moto Tourer สวยงามมากที่สุดในโลก และเป็นโมเดลคันล่าสุดจาก MV Agusta Thailand
Mercedes-Benz A45 AMG ถือเป็นรุ่นท๊อปในตระกูล A-Class ซึ่งภายนอกเรียกได้ว่าหล่อแบบครบสูตร ไม่มีความจำเป็นต้องไปตกแต่งเพิ่มใดๆโดยไม่จำเป็น
ด้านหน้า กันชนหน้ามากับช่องดักลมขนาดใหญ่ ครีบเรียงอากาศ ทางด้านท้ายมากับ สปอยเลอร์หลัง ท่อไอเสียออกคู่ทรงเหลี่ยม และกันชนท้ายที่มีการดีไซน์เพื่อลดลมตีกลับ
สวมล้อ AMG 19” สีดำ ร่วมกับตัวถังสีเทาด้าน Mountain Grey ทั้งหมดนี้ช่วยให้ A45 AMG คันนี้สปอร์ตลงตัว
ด้วยเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง ขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบ แต่เรียกพละกำลังได้มากถึง 355 แรงม้า และแรงบิดที่ระดับ 450Nm
นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น! เจ้าสิงห์เทา มันมีอัตราส่วน แรงม้า/ความจุ = 177.5 แรงม้า/ลิตร เทียบสมรรถนะได้ระดับเครื่องยนต์รถ Superbike คลาส 1000 เลยทีเดียว
A45 AMG สามารถทำตัวเลข 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลา 4.6 วินาที (Launch Control) กับ Top Speed ที่โดนล๊อคไว้ 250 กม./ชม.
ครั้งแรกที่ตัวผมเองได้อ่านสเป็กบนโบรชัวร์ ถึงกับอึ้งไปกับตัวเลข 0-100 เพราะนี่มันเร็วกว่า รถ Bentley Continental GT V8 S ที่ผมเคยขับเสียอีก (GT V8 S อยู่ที่ 4.7 วินาที) ใช่ครับสิ่งที่ผมกำลังจะบอก คือ อัตราเร่งมันเทียบชั้นได้กับรถเครื่องยนต์ 8 สูบ ที่มีความจุมากกว่าถึง 3 เท่า!
ต้องขอยอมรับว่า Mercedes ได้ผลิตรถ AMG คันนี้ของพวกเขาออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องความแรง แต่มันยังเป็นรถที่ขับได้ง่ายและมอบความสบายมากกว่าที่คิด
การขับขี่ในเมือง ที่รอบเครื่องยนต์ต่ำ ขับง่ายราวกับรถบ้านไซส์ Compact ทั่วๆไป แต่เมื่อกดคันเร่งเพิ่มน้ำหนักเท้า ทอร์คระดับ 450Nm จะเริ่มมาให้ใช้ตั้งแต่ช่วงประมาณ 2,000rpm+ (ช่วงที่บูสต์เริ่มทำงาน) และลากยาวแบบ Flat Torque ขึ้นไปถึง 5,000rpm มันพร้อมดึงให้หลังคุณติดเบาะโดยทันที ร่วมกับเสียงเครื่องยนต์ที่ทุ้มๆทรงพลังในแบบผู้ดี ไม่หนวกหูไม่แว้ดจนลั่น แต่ด้วยการที่ผมนั่งบนหลังพวกมาลัย ร่วมกับระบบเกียร์ DCT 7-Speed ที่มอบความสมูทได้อย่างไร้ที่ติ มันจึงลดความดิบลงไปพอสมควร ช่วยให้ขับได้ง่าย และให้ความสะดวกสบายเป็นอย่างดี
ลองออกตัวด้วย Launch Control ที่อาจจะยุ่งยากในการเซ็ทระบบไปบ้าง แต่เมื่อได้ลองดูแล้ว ต้องบอกว่า “ฟินเฟ่อ” อัตราเร่งพุ่งทะยานอย่างน่าตกใจ ระบบ Traction ช่วยจับไม่ให้ล้อฟรีทิ้งมากเกินไปมอบ Grip ในการยึดเกาะออกตัวได้อย่างสมบูรณ์แบบ รอบเครื่องยนต์ไล่ขึ้นไปจนถึงระดับ Redline ก่อนโดนตัดขึ้นเกียร์ที่ราวๆ 6,500rpm ถ้าหากคุณขี่เจ้า Stradale ในโหมด Sport มาก่อน และได้สัมผัสแรง G แบบเต็มๆ จากลมที่ปะทะโดยตรงสู่ลำตัว อาจมองว่า A45 คันนี้ ดูไม่รุนแรงเท่าที่ควร ซึ่งขอให้คิดใหม่ โดยหันกลับไปดูที่มาตรวัดความเร็ว เพราะผมได้ถูกอาการของตัวรถหลอกเข้าอย่างเต็มๆ ด้วยความรู้สึกที่คิดว่ากำลังขับอยู่ที่ความเร็วระดับ 130 กม./ชม. นั้น แท้ที่จริงมันไปถึงระดับ 190 กม./ชม. เสียแล้ว
ต้องขอบคุณระบบช่วงล่าง อิสระ 4 ล้อ ที่ปรับจูนมาอย่างดีจาก AMG พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 4 Matic ที่กระจายสัดส่วนการส่งกำลัง 50/50 ช่วยสร้างความมั่นใจในการยึดเกาะถนนได้อย่างดีเยี่ยม ช่วงล่างที่คิดว่าแข็งนั้นแท้ที่จริงแล้ว หากไม่ได้ไปขับผ่านลูกระนาด มันก็ไม่ได้ดูแข็งกระด้างแต่อย่างใด กลับให้ความรู้สึกแข็งแบบแน่นเฟิร์มเสียมากกว่า
และระบบเบรกจาก AMG ด้านหน้า 4 pot จานขนาด 350 มม. และหลัง 2 pot จานขนาด 330 มม. มันช่วยหยุดฝูงม้าจอมพยศนี้ลงได้เกือบราบคาบ
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เรายังแนะนำให้เปิดระบบช่วยอย่าง ESP และ Traction Control เอาไว้อยู่ดี อย่าเผลอไปปิดระบบเล่นซี้ซั้วกันล่ะครับ ทอร์คมหาศาลแบบนี้ บนตัวรถที่เบาและไซส์เล็ก แบบนี้ประมาทกันไม่ได้เลย
มาต่อกันที่ MV Agusta Stradale ซึ่งเป็นรถคันแรกในคอลัมน์รีวิวของ MotoRival เราที่ได้ขึ้นรีวิวไปเป็นที่เรียบร้อย ดังนั้นในรายละเอียดเราจะไม่ขอกล่าวซ้ำกันมากนัก (สามารถอ่านรีวิว Stradale ได้ที่นี่)
ด้วยรูปลักษณ์ที่ดูหรูกับดีไซน์อันแปลกตา ซึ่งที่จริงแล้วได้ใช้พื้นฐานมาจาก MV Agusta Rivale ที่มีชื่อชั้นด้านความสวยงาม มาปรับแต่งให้กลายเป็นสไตล์ทัวริ่ง นั่นจึงเป็นคีย์สำคัญที่ทำให้มันขี่ได้อย่างสบายมากยิ่งขึ้น
เครื่องยนต์ 3 สูบ อันเป็นเอกลักษณ์ของ MV Agusta ในรหัส F3 798cc ได้ถูก 115 แรงม้า หากเทียบสัดส่วนของ แรงม้า/ความจุ นั่นอาจจะไม่สามารถสู้ เจ้าสิงห์เทา อย่าง A45 AMG ได้ แต่หากเทียบ อัตราส่วนน้ำหนักตัว/แรงม้า เจ้าหงส์ขาวคันนี้ จะแบกเพียง = 1.57 กก./hp เท่านั้น ขณะที่ A45 AMG อยู่ที่ 4.38 กก./แรงม้า
ซึ่งสัดส่วนของทั้งแรงม้า/ความจุ และ อัตราส่วนน้ำหนักตัว/แรงม้า มันทำให้รถทั้ง 2 คันนี้ ไม่ได้เป็นต่อ เป็นรองกันมากเท่าใดนัก
ในช่วงออกตัวแบบ Rolling Start ที่เกียร์ 2 หรือ เกียร์ 3 เมื่อกระแทกคันเร่งออกพร้อมกัน เจ้าหงส์ขาว และสิงห์เทา ช่างเป็นคู่ที่เหมาะสมกันได้ดีทีเดียว ทอร์ค ที่มาหนัก ไม่ได้ทำให้ทั้ง 2 คันนี้เป็นรองกันและกัน ร่วมกับเสียงเครื่องยนต์ที่รอบสูงขึ้นเรื่อยๆ แม้ MV Agusta เสียงอาจจะไม่ทุ้มแน่นเท่า AMG แต่ แต่ต้องยอมรับว่าเสียง 3 สูบอันเป็นเอกลัษณ์นี่ก็น่าฟังไม่แพ้กัน อัตราเร่งนั้นมันทำได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ที่ความเร็วสูงนั้น คงต้องยอมรับสภาพว่า 2 ล้อ กับลมที่เข้าปะทะตัวรถที่สูงเช่นนี้ คงไม่อาจสู้ 4 ล้อ ที่มี Aerodynamics ที่ยอดเยี่ยมกว่าได้ แต่ถึงอย่างไรการทำความเร็วขึ้นสูงกว่า 180 กม./ชม. ของ Staradale คันนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากเย็นนัก (เมื่อถอดกระเป๋า)
นอกจากเครื่องยนต์อันทรงพลังที่มอบสมรรถนะที่ร้อนแรงไม่แพ้ AMG แล้ว เทคโนโลยี อย่าง Engine Map ที่มีถึง 4 แบบ ก็ช่วยให้การขับขี่เป็นไปได้เหมาะสม กับสภาวการณ์มากยิ่งขึ้น Normal และ Rain ที่ตัดลดเหลือ 90 แรงม้า ช่วยให้เจ้าหงส์ขาว คันนี้ลดความดิบ และดูเป็นรถผู้ดีมากยิ่งขึ้น แต่ถ้าคุณต้องดวลกับ AMG แล้ว เลือก Map Sport จับแฮนด์ให้มั่น ลากรอบให้ได้สัก 9,000rpm เพื่อรีดทอร์ค สูงสุดออกมา ก่อนที่จะงัดเกียร์ขึ้นได้ทันทีโดยไม่ต้องใช้คลัชจากระบบ Quickshift EAS 2.0 ใหม่ พร้อมการลดเกียร์ลงได้โดยไม่ต้องกำคลัชเช่นเดียวกัน ให้คุณเปลี่ยนเกียร์ลงได้ง่าย ไม่แพ้ การกดก้าน Paddle Shift ที่ด้านหลังพวงมาลัยของ AMG เลย
หากคุณกลัวว่า รถ 2 ล้อ อย่าง Stradale ที่มีพละกำลังแรงจะดูอันตรายหากเปิดคันเร่งมากเกินไป ไม่ต้องห่วงมันมีระบบ Traction Control ปรับได้ถึง 8 ระดับ มันมีประสิทธิภาพ อันยอดเยี่ยมคอยช่วยตัดกำลังล้อหลัง ไม่ให้สูญเสีย Traction เช่นเดียวกับที่ AMG มีเช่นกัน
บทสรุปกับการที่ผมได้อยู่กับรถทั้ง 2 คัน ซึ่งมีกำลังรวมทั้งสิ้น 470 แรงม้า รวมความจุ 2,789cc มีมูลค่ารวมกว่า 6.89 ล้านบาท แม้เป็นเวลาสั้นๆ เพียงไม่กี่วัน แต่เรียกได้ว่าเหมือนฝันที่เป็นจริงของคนรักความแรงเลยล่ะ
แม้รถทั้ง 2 คัน จะเป็นรถคนละประเภท แต่มีจิตวิญญาณเดียวกัน จากรูปโฉมที่งดงาม และสมรรถนะที่เร็วแรงหาตัวจับได้ยาก (ในระดับพิกัดเดียวกัน)
Mercedes-Benz A45 AMG ถือเป็นที่สุดของรถยนต์พิกัด 2.0 ลิตร ที่รีดแรงม้าได้อย่างคุ้มค่าทุก cc กับราคา 5.79 ล้านบาท ได้รถที่มีอัตราเร่งน้องๆ Supercar แต่สะดวกสบายในการขับขี่ใช้งานได้ในทุกๆวัน
ขณะที่ MV Agusta Stradale เป็นรถมอเตอร์ไซค์รูปแบบ Moto Tourer สวยงามที่สุดในโลก ความจุกำลังดี 800cc บอดี้ที่ไม่ใหญ่เกินไป มีอัตราเร่งที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้รถไซส์พิกัด 1200cc แม้จะไม่เหมาะแก่การใช้งานในทุกๆวัน แต่หากต้องการ 2 ล้อ เพื่อขี่ออกทริป นั่งสบาย ควบคุมไม่ลำบาก แถมพกเรทติ้งที่ขี่ไปไหนก็สะกดทุกสายตาแล้วล่ะก็ Stradale 800 คันนี้ล่ะ ใช่เลย
ถ้าคุณเป็นคนเงินถึง เป็นแฟนพันธุ์แท้ที่รักในความแรงทั้ง 4 ล้อ และ 2 ล้อ ขอแนะนำควรมีให้ครบทั้ง แม่ (สิงห์เทา) และ ลูก (หงส์ขาว) เชื่อผมสิ!
ขอขอบคุณ บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย และ บริษัท โมโตวิชั่น สำหรับรถทดสอบ ทั้ง 2 คันนี้
คุณวอร์ VIJAIFOON และ คุณเชียร์ Filmcultureproduction
ภณ เพียรทนงกิจ Test Driver&Rider
อ่านรีวิว MV Agusta Stradale เพิ่มเติมได้ที่นี่
เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ
สิงห์เทา ถือเป็นที่สุดของรถยนต์ระดับ 2.0 ลิตร
หงส์ขาว Moto Tourer สุดสวย ที่สมรรถนะไม่เป็นรองใคร
ถ้าคุณเงินถึง และรักในความเร็ว เราขอแนะนำให้มีมันทั้ง 2 คันไว้ในครอบครอง