หลายคนที่ติดตามการแข่งขัน MotoGP น่าจะรู้ดีกันอยู่แล้ว ว่ารายการใหญ่ระดับโลกรายการนี้ ถูกจัดขึ้นควบคู่กับรายการรุ่นน้องอย่าง Moto2 และ Moto3 ที่มาพร้อมรถแข่งรุ่นจิ๋ว และนักแข่งรุ่นจิ๋ว ที่จะไต่เต้าตามขั้นบันไดเพื่อขึ้นไปอยู่จุดสูงสุดของโลก
แต่นอกจากรายการระดับโลกที่เราได้กล่าวไป มันก็ยังมีการแข่งขันที่เราคุ้นเคยน้อยลงมาอย่าง Red Bull Rookie Cup หรือ Asia Talent Cup แต่รู้หรือไม่ว่ารายการเหล่านี้คืออะไร? แข่งตอนไหน? ใช้รถอะไร? แข่งจบแล้วไปไหนต่อ? วันนี้เราจะมาดูกัน

ก่อนอื่นเราขอมาพูดถึงการแข่งขันรุ่น Moto3 กันก่อน โดยรายการนี้จะถูกนับว่าเป็นจุดสูงสุดของการแข่งขันมอเตอร์ไซค์ทางเรียบชิงแชมป์โลกในคลาสเล็ก นักแข่งที่ชนะในรายการนี้จะถูกนับว่าเป็นแชมป์โลก ไม่ต่างจากแชมป์โลก MotoGP โดยจะจัดขึ้นควบคู่กับรุ่นใหญ่ในทุกสนามที่ลงแข่งขันทั่วโลก ตลอดทั้งฤดูกาล

รถแข่งที่ใช้จะเป็นรถมอเตอร์ไซค์ต้นแบบ หรือ Prototype ที่ไม่มีจำหน่ายสำหรับท้องถนน มาพร้อมเครื่องยนต์แบบ 1 สูบ ปริมาตรกระบอกสูบไม่เกิน 250 ซีซี โดยทีมแข่งสามารถเลือกใช้รถค่ายไหน รุ่นอะไรก็ได้ที่ตรงตามกติกา ในปัจจุบันนี้จะมีรถให้เลือกอยู่ 2 รุ่น คือ Honda NSF250RW และ KTM RC250GP (ความจริงแล้วยังมีรถที่ตีตรา Husqvarna และ CFMoto ลงแข่งด้วย แต่รถเหล่านั้นก็เป็นแค่ KTM ที่เปลี่ยนโลโก้)

ถัดมาจะเป็นรายการเล็กที่เราน่าจะคุ้นเคยกันมาหน่อยอย่าง Red Bull Rookie Cup และ Idemitsu Asia Talent Cup เนื่องจากเป็นรายการที่จะจัดขึ้นร่วมกับ MotoGP เช่นเดียวกับ Moto3 รถแข่งที่ใช้ก็จะอ้างอิงกติกาของ Moto3 เช่นเดียวกัน แต่ผู้ที่ชนะในรายการเหล่านี้จะไม่ถูกนับว่าเป็นแชมป์โลก และนับว่าเป็นแชมป์ของรายการที่ตัวเองลงแข่งเท่านั้น เช่นเดียวกับรายการอื่นที่เรากำลังจะพูดถึงหลังจากนี้ทั้งหมด

โดย Red Bull Rookie Cup จะจัดแข่งในอีเว้นเดียวกับ MotoGP ของสนามฝั่งยุโรป ฤดูกาลปัจจุบันจะมีการแข่งทั้งหมด 7 สนาม ตัวแข่งที่ใช้คือ KTM RC250R เพียงรุ่นเดียว และสเปคเดียวกันทั้งหมด จะมีแค่การปรับแต่งเล็กน้อยในส่วนของระบบกันสะเทือน และรายละเอียดบางอย่างตามแต่นักแข่งแต่ละคนเท่านั้น

ทางด้านของ Idemitsu Asia Talent Cub นั้นจะจัดแข่งในอีเว้นเดียวกับ MotoGP ของสนามฝั่งเอเชีย ฤดูกาลปัจจุบันจะมีการแข่งทั้งหมด 6 สนาม (เนื่อจากมีการแข่งซ้ำที่ Sepang International Circuit) ตัวแข่งที่ใช้คือ Honda NSF250R เพียงรุ่นเดียว และสเปคเดียวกันทั้งหมด การปรับแต่งที่นักแข่งแต่ละคนทำได้ก็จะมีเพียงเล็กน้อยตามที่ของติดรถมีให้เท่านั้น

ถัดมาคือรายการที่หลายคนน่าจะเคยได้ยินชื่อ แต่ไม่เคยเห็นแข่งเลยสักครั้งอย่าง JuniorGP โดยรายการนี้จะเรียกว่าเป็น Moto3 สำหรับยุโรปโดยเฉพาะก็คงไม่ผิดนัก เพราะนักแข่งจะใช้รถในกติกาเดียวกับ Moto3 โดยสามารถเลือกใช้รถค่ายไหนก็ได้ และสามารถปรับแต่งรถได้พอควร
โดยจะมีการจัดการแข่งขันในอีเว้นของตัวเองโดยเฉพาะ ไม่ได้เกาะไปจัดคู่กับ MotoGP ฤดูกาลปัจจุบันมีการแข่งขันทั้งหมด 7 สนาม ชื่อรายการ JuniorGP นั้นถือเป็นชื่อใหม่ที่มาแทนที่ชื่อเก่าอย่าง CEV Moto3 ที่หลายคนน่าจะเคยได้ยินมาบ้าง

และสุดท้ายคือ European Talent Cup ซึ่งน่าจะเป็นรายการที่คุ้นตาเราน้อยที่สุด จัดขึ้นในอีเว้นเดียวกับ JuniorGP แต่จะเป็นการแข่งขันแบบ One Make Race ที่ใช้ตัวแข่งสเปคเดียวกันของ Honda NSF250R หรือจะอธิบายให้เข้าใจง่าย มันก็คือ Asia Talent Cup แต่เป็นในฝั่งของยุโรป และไม่ได้จัดขึ้นในงานเดียวกับ MotoGP นั่นเอง
โดยทุกรายการนั้นต่างก็มีเป้าหมายเพื่อปั้นดาวแข่งรุ่นใหม่ เพื่อขึ้นไปแข่งขันต่อในรายการที่ใหญ่กว่า โดยจะเน้นไปที่การแข่งขันสาย Grand Prix อย่าง Moto3 เป็นหลัก จะเห็นได้จากการใช้กติกาและตัวแข่งของ Moto3 มาใช้เลย ซึ่งจะช่วยให้นักแข่งเหล่านี้สามารถปรับตัวเพื่อขึ้นอยู่ระดับโลกได้ง่ายขึ้น จะต่างกันก็แค่ค่ายรถที่ใช้ และภูมิภาคที่ใช้จัดการแข่งขันเท่านั้น
อ่านข่าวสารมอเตอร์สปอร์ตเพิ่มเติมได้ที่นี่