แม้จะมีการประกาศอย่างชัดเจนว่า All-New Ducati Multistrada V4 ของพวกเขาได้เริ่มขึ้นสายการผลิตจริงเป็นที่เรียบร้อย แต่ด้วยความที่กำหนดการเปิดตัวรถอย่างเป็นทางการจริงๆคือวันที่ 4 พฤศจิกายน จึงทำให้ทาง Ducati เลือกที่จะเปิดสเปคและรายละเอียดของเครื่องยนต์ V4 ลูกใหม่ที่จะประจำการอยู่ในแอดเวนเจอร์ทัวร์ริ่งรุ่นนี้เพื่อกระตุ้นกระแสของตัวรถไม่ให้หายไปเสียก่อน
โดยสำหรับรายละเอียดในเบื้องต้นก็มีอยู่ว่า เครื่องยนต์แบบ V4 ที่ประจำการอยู่ใน Multistrada V4 นั่น แท้จริงแล้วก็คือเครื่องยนต์บล็อคที่ต่อยอดมาจากเครื่องยนต์ของ Ducati Panigale V4 แต่เพื่อให้มันมีความเหมาะสมกับรูปแบบของตัวรถมากขึ้น ทาง Ducati จึงปรับความจุเครื่องยนต์เพิ่ม จาก 1,103cc เป็น 1,158cc ทว่าแทนที่พวกเขาจะเลือกเพิ่มความจุจากการยืดช่วงชักให้ยาวขึ้น ในแบบที่ค่ายอื่นๆทำกัน พวกเขากลับยังคงช่วงชักไว้เท่าเดิมคือ 53.5 มิลลิเมตร และไปขยายขนาดลูกสูบ จากเดิม 81 มิลลิเมตร เป็น 83 มิลลิเมตรแทน
แต่ถึงอย่างนั้นทาง Ducati ก็ได้มีการปรับปรุงขนาดปากแตรและคอท่อไอเสีย, ลดขนาดวาล์วลง, ลดขนาดลิ้นปีกผีเสื้อลง เพื่อเน้นการเพิ่มแรงบิดในรอบต่ำให้ติดมือมากขึ้น รวมถึงมีการออกแบบชิ้นส่วนจำพวกแครงก์ชาฟท์, ชุดคลัทช์, ก้านสูบ, ลูกสูบ, ฟลายวีล ใหม่เพื่อให้เหมาะสำหรับลักษณะการใช้งานของ Multistrada V4 มากขึ้น
นอกจากนี้ นี่ยังเป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปีที่ทาง Ducati ตัดสินใจยกเลิกการใช้ระบบกลไกควบคุมการเปิด/ปิดวาล์วไอดี และวาล์วไอเสียแบบ Desmodromic ออกไป แล้วกลับไปใช้ระบบกลไกควบคุมการเปิด/ปิดวาล์วไอดี และวาล์วไอเสียแบบสปริงกดเหมือนเครื่องยนต์ปกติของค่ายอื่นๆแทน โดยคาดว่าเพื่อลดต้นทุนในการผลิตจากการที่ชิ้นส่วนกลไกมีจำนวนน้อยลง, ลดความซับซ้อนในการบำรุงรักษา, และลดอัตราความเสื่อมสภาพของกลไกที่เกี่ยวข้องในระยาวลง จนถึงขนาดที่ว่าจากเดิมลูกค้าจะต้องเข้ามาตั้งวาล์วในระยะ 30,000 กิโลเมตร ก็จะขยายเป็น 60,000 กิโลเมตร หรือนานกว่าเดิม 2 เท่าเลยทีเดียว
ไม่เพียงเท่านั้น ทาง Ducati ยังระบุอีกว่า ด้วยการใช้เครื่องยนต์ที่ต่อยอดมาจากของ Panigale V4 ซึ่งเป็นซุปเปอร์ไบค์เน้นความปราดเปรียว จึงทำให้เครื่องยนต์บล็อคใหม่ลูกนี้มีขนาดที่กระทัดรัดกว่าเครื่องยนต์บล็อค L-Twin ที่อยู่ใน Multistrada V2 โดยด้านยาวจะสั้นลง 8.5 เซนติเมตร ด้านสูงลดลงอีก 9.5 เซนติเมตร มีเพียงด้านกว้างเท่านั้นที่มากกว่าเล็กน้อยคือ 2 เซนติเมตร ส่วนน้ำหนักตัวเครื่องฯก็เบากว่าเดิมอีก 1.2 กิโลกรัม
ด้านเทคโนโลยีอื่นๆที่น่าสนใจก็มีทั้งการที่เครื่องยนต์ลูกนี้ จะถูกออกแบบให้เพลาข้อเหวี่ยงหมุนแบบทวนเข็มนาฬิกา หรือหมุนสวนทิศกับการหมุนของล้อหน้า/หลังยามเคลื่อนตัวไปข้างหน้า จึงทำให้มันช่วยลดแรงต้านการเอียงของตัวรถลง ส่งผลให้ผู้ขี่สามารถพลิกเลี้ยวรถได้ง่ายกว่าเดิม และยังมีการเพิ่มระบบหยุดการจุดระเบิดเชื้อเพลิงในเสือสูบครึ่งหลัง ในจังหวะรถหยุดนิ่ง เพื่อประหยัดเชื้อเพลิง, ลดอุณหภูมิเครื่องยนต์, และลดปริมาณไอเสียที่ปล่อยออกมา ซึ่งนี่ถือเป็นครั้งแรกที่ Ducati เลือกใช้ระบบนี้กับรถมอเตอร์ไซค์ของตนเอง
อย่างไรก็ดี ทั้งหมดนี้ยังเป็นเพียงน้ำจิ้มของการเปิดตัว All-New Ducati Multistrada V4 รุ่นใหม่เท่านั้น ซึ่งหากเพื่อนๆคนไหนอยากอัพเดทข้อมูลของมันเพิ่มเติมอีกล่ะก็ ในวันที่ 4 พฤศจิกายนนี้ รอชมกันได้เลยครับ
อ่านข่าวสาร Ducati เพิ่มเติมที่ได้ที่นี่