ฮอนด้าได้มีการเปิดตัวรถคอนเซ็ปต์ Neo Sports Café ครั้งแรกที่งานโตเกียวมอเตอร์โชว์เมื่อปลายปี 2017 และนั่นทำให้คำว่า Neo Sports Café กลายเป็นกระแสฮือฮาในวงการมอเตอร์ไซค์ทั่วโลกอย่างรวดเร็ว เพราะนับเป็นการท้าท้ายขนบเดิม ๆ ของการออกแบบมอเตอร์ไซค์ไปอย่างสิ้นเชิง ด้วยการรวมเอาเทคโนโลยีล้ำสมัยแบบรถสปอร์ตและความคลาสสิคอย่างสไตล์คาเฟ่มาอยู่ในรถคันเดียว แต่นอกจากปลุกกระแสความตื่นเต้น ก็ยังมีสื่อและแฟน ๆ ฮอนด้าจำนวนมากตั้งคำถามว่าคอนเซ็ปต์นี้จะสามารถทำออกมาเป็นรถที่วางขายได้จริง ๆ หรือ?!
หลังจากปล่อยให้ทุกคนสงสัยไม่นาน ช่วงต้นปี 2018 ฮอนด้าได้เปิดตัวรถในตระกูล Neo Sports Café ทั้ง Honda CB1000R และ Honda CB300R ในงาน Eicma Show ซึ่งถือเป็นการขโมยซีนเพื่อนรวมวงการครั้งสำคัญเลยทีเดียว เพราะเมื่อเหล่าสื่อและแฟนๆ ได้เห็นรถตัวจริงของทั้ง Honda CB1000R และ Honda CB300R ต่างออกมายอมรับว่านี่มันคือรถที่ดีไซน์ใหม่หมดจดจริง ๆ
รถคอนเซ็ปต์แนว Neo Sports Café ในงานโตเกียวมอเตอร์โชว์
Honda CB Series กับ Neo Sports Café
แน่นอนว่า Neo Sports Café เป็นการผสมผสานกันระหว่างความสปอร์ตและคาเฟ่ แต่ทำไมต้องเป็น CB Series หากจะย้อนกลับไปถึงตำนานคาเฟ่ จริง ๆ แล้วมันเริ่มที่ยุโรปในยุค 60s ยุคที่เหล่าไบค์เกอร์ที่ชื่นชอบร็อคแอนด์โรล มารวมตัวกันที่คาเฟ่ต่าง ๆ แล้วขี่มอเตอร์ไซค์คู่ใจแข่งกันจากคาเฟ่หนึ่งไปอีกคาเฟ่หนึ่งในเวลาที่จำกัด และรถที่เหล่าไบค์เกอร์หัวใจร็อคแอนด์โรลทั้งหลายนำมาดัดแปลงให้เป็นรถสไตล์คาเฟ่ เรเซอร์นั้นก็จะเป็นการนำรถหลาย ๆ แบรนด์มาใส่รวมกัน ซึ่งในยุคแรก ๆ นั้นไม่มีรถญี่ปุ่นแบรนด์ไหนที่สามารถเข้าไปครองใจไบค์เกอร์เหล่านั้นได้เลย
ในอีกฟากของโลกช่วงเวลาเดียวกันประมาณปี 1959 – 1960 ฮอนด้าได้มีการเปิดตัวรถซีรีส์ใหม่ที่ชื่อ Honda CB72 และ Honda CB92 ซึ่งเป็นรถที่มีขนาด ซีซี ไม่มาก แต่ได้รับความนิยมสูงด้วยรูปลักษณ์ที่แปลกใหม่โดดเด่น
Honda CB92 หรือที่คนไทยนิยมเรียกกันว่าฮอนด้าหมู
แต่ถึงแม้จะโด่งดังในญี่ปุ่นและประเทศใกล้เคียง แต่ Honda CB Series ก็ยังไม่เป็นที่รู้จักของคนทั่วโลกเท่าไหร่นัก จนปี 1969 ฮอนด้าก็ได้เขย่าวงการมอเตอร์ไซค์โลกอีกครั้งด้วยการเปิดตัว Honda CB750 ซุปเปอร์ไบค์คันแรกของโลก และเป็นที่นิยมมาก ๆ ในอเมริกา
แต่การเป็นซุปเปอร์ไบค์คันแรกของโลกหรือการเป็นรถยอดนิยมของไบค์เกอร์อเมริกา ก็ไม่น่าตื่นเต้นเท่ากับ Honda CB750 ได้กลายเป็นหนึ่งในรถระดับตำนานของวงการคาเฟ่ เรเซอร์ในยุโรป เรียกได้ว่าเป็นรถญี่ปุ่นรุ่นแรกที่สามารถครองใจเหล่าไบค์เกอร์สายคาเฟ่ ฝั่งยุโรปได้ โดยเฉพาะไบค์เกอร์จากประเทศอังกฤษต้นกำเนิดของตำนานคาเฟ่ เรเซอร์ และ Honda CB750 ก็เรียกได้ว่าเป็นรถที่รันวงการคาเฟ่ เรเซอร์ตั้งแต่ยุคนั้นจนมาถึงปัจจุบันเลยทีเดียว
หลังจากสร้างความฮือฮากับการเป็นซุปเปอร์ไบค์คันแรกของโลก และสามารถเป็นที่ถูกอกถูกใจของไบค์เกอร์สไตล์คาเฟ่กันไปได้ แล้ว ฮอนด้าก็ได้ออกรถ CB Series มาอีกมากหมายหลายรุ่นแต่ก็ไม่เคยที่จะเรียกหรือบอกว่ารถในซีรีส์นี้เป็นสไตล์คาเฟ่เลยสักครั้ง
การเปิดตัว Honda CB Series ในคอนเซ็ปต์ใหม่อย่าง Neo Sports Café จึงเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นมาก ๆ ที่ฮอนด้ากล้าที่จะเอาจิตวิญญาณความเป็นสปอร์ตของ CB มาผสมกับความคลาสสิคอย่างสไตล์คาเฟ่ และไม่ใช่การออกแบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ อย่างการนำดีไซน์ CB แบบคลาสสิคมาใส่เทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้าไปเท่านั้น แต่ยังเป็นการดีไซน์ใหม่ทั้งคันในแบบที่เมื่อเห็นเราจะไม่มีทางนึกถึงรถในสไตล์ CB แบบเก่า ๆ เลย
Neo Sports Café ในประเทศไทย
ถึงแม้ฮอนด้าจะมีการเปิดตัวรถตระกูลนี้ไปในงาน Eicma Show แต่ในประเทศไทยรถในตระกูลนี้เพิ่งเปิดตัวกันไปเพียงสองรุ่น คือ Honda CB150R และ Honda CB300R ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีทั้งสองรุ่น เพราะมีจุดเด่นและตอบโจทย์ที่แตกต่างกัน เรียกว่าเป็นรถสองรุ่นที่เข้ามาสร้างสีสันให้กับวงการมอเตอร์ไซค์ในประเทศไทยได้อย่างดีหลังจากเงียบเหงาและไม่ค่อยเห็นรถดีไซน์ใหม่ๆ กันมาหลายป และในงาน Thailand Motor Show 2018 ที่ผ่านมาทาง เอ.พี. ฮอนด้า ก็ไม่ปล่อยให้แฟน ๆ ชาวไทยผิดหวังด้วยการเปิดตัวรุ่นพี่สุดในตระกูลอย่าง Honda CB1000R มาให้ได้เห็นกัน ซึ่งนับเป็นหนึ่งในรถบิ๊กไบค์ที่ได้รับความสนใจมากที่สุดรุ่นหนึ่งในงาน เลยทีเดียว
2 พี่น้องตระกูล Neo Sports Café ที่มีวางจำหน่ายในประเทศไทย
Honda CB1000R ตัวจริงในงาน Motor Show 2018
สำหรับใครที่ชื่นชอบรถคอนเซ็ปต์ Neo Sports Café ก็สามารถคลิกเข้าไปดูรายละเอียดได้ก่อนที่ www.aphonda.co.th
อ่านข่าว Honda เพิ่มเติมได้ที่นี่
เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ