ย้อนไปเมื่อปลายปีก่อนทาง Norton Superlight ได้ถูกเผยโฉมขึ้นเป็นครั้งแรก ด้วยการชูจุดเด่นความเป็นซุปเปอร์สปอร์ตไบค์งานแฮนด์เมดที่เบากว่าใครในคลาส แถมยังมาพร้อมกับเครื่องยนต์ 2 สูบเรียง ที่ถูกหั่นครึ่งจากบล็อค V4 ลงมา จนเหลือความจุไว้ที่ 650cc และทำแรงม้าได้สูงสุดที่ 105 HP ทว่าดูเหมือนแค่นั้นจะไม่เพียงพอทำให้ทางค่ายเลือกต่อยอดมันเป็นเวอร์ชัน “SS” ที่แรงขึ้นกว่าเดิมอีกถึงเกือบ 50%
สำหรับจุดเปลี่ยนที่ใหญ่ที่สุดใน Superlight SS เมื่อเทียบกับร่างต้นก็คือ การที่มันได้ถูกติดตั้งระบบซุปเปอร์ชาร์จเจอร์เข้าไปเพื่อเสริมอากาศขาเข้าห้องเผาไหม้ ช่วยให้เครื่องยนต์สามารถจุดระเบิดเกิดเป็นพละกำลังสูงสุดที่มากขึ้นจนแตะ 150 HP พร้อมเปลี่ยนเอาชุดเฟรมที่เป็นแบบท่ออลูมิเนียมทิ้งไป แล้วแทนด้วย “เฟรมท่อคาร์บอน” ที่เบากว่าเดิมอีก 5 กิโลกรัม ส่งผลให้น้ำหนักแห้งของมันอยู่ที่เพียง 153 กิโลกรัมเท่านั้น (หากรวมของเหลวคาดว่าจะอยู่ที่ราวๆ 170 กิโลกรัม++ ซึ่งก็ถือว่าเบาอยู่ดี)
นอกนั้นในส่วนของระบบกันสะเทือนหน้า/หลังที่ยกมาจาก Ohlins, ระบบเบรก Brembo, และระบบอิเลกทรอนิกส์สุดทันสมัยอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นคันเร่งไฟฟ้า Ride-By-Wire, Traction Control, ABS, launch control, เซนเซอร์ IMU 6 แกน, Riding Modes 3 แบบ, Quick-Shifter 2 ทางขึ้นลง, หน้าจอสีความชัดระดับ HD ขนาด 7 นิ้ว ต่างก็ถูกยกมาจาก Norton Superlight รุ่นพื้นฐานทั้งหมด เพียงแต่อาจจะมีการปรับเซ็ทระบบใหม่เล็กน้อยเพื่อให้มันเข้ากับพละกำลังตัวรถที่มากขึ้น
อย่างไรก็ดี เจ้า Norton Superlight SS Limited ที่เราเห็นกันอยู่ใน 2 ภาพด้านบนสุด จะถูกทำขึ้นมาแค่เพียง 50 คันในโลกเท่านั้น ไม่ได้ขายแบบไม่จำกัดจำนวนเหมือน Norton Superlight พื้นฐาน ส่วนราคาก็ไม่ได้มีการระบุเลขเอาไว้ แต่คาดว่าจะต้องมีไม่ต่ำกว่า 9 แสนบาทแน่นอนเนื่องจากตัวพื้นฐานก็ตั้งไว้ที่ราวๆ 800,000 บาทเข้าไปแล้วนั่นเอง (ราคานี้ไม่รวมภาษีนำเข้าในบ้านเรานะครับ เป็นการแปลงค่าเงินจากราคาตั้งขายในประเทศอังกฤษ)
อ่านข่าว Norton เพิ่มเติมได้ที่นี่
เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ