แม้จะได้ชื่อว่าเป็นแชมป์โลก MotoGP ยุคใหม่ของ Yamaha เหมือนกัน แต่ลักษณะนิสัย และบุคคลิกในการทำงานร่วมกับทีมของ Fabio Quartararo กลับต่างออกไปจาก Jorge Lorenzo อย่างสิ้นเชิง นั่นจึงทำให้ไม่ว่าใครก็ตามที่ทำงานร่วมกับแชมป์โลกคนใหม่คนนี้ ต่างก็เห็นตรงกันว่าเขาเป็นเด็กที่พร้อมจะเปิดรับ และปรับตัวกับทุกข้อเสนอแนะ ทำงานด้วยง่าย แถมยังทำให้บรรยากาศในทีมเป็นไปได้ดีอีกต่างหาก
“Fabio เป็น(นักบิด)คนหนึ่งที่ทำงานด้วยง่ายมาก, ขณะที่ Jorge Lorenzo รู้ว่าเค้าต้องการอะไร, และนอกจากนั้น(ถ้าไม่อยากได้)ก็ไม่เอา” Wilco Zeelenberg ผู้จัดการทีม Yamaha SRT ที่เคยร่วมงานกับทั้ง FQ20 และ JL99 ให้ความเห็นเกี่ยวกับลักษณะนิสัยการทำงานที่แตกต่างกันชัดเจนระหว่างทั้งสองนักบิด “Fabio กลับต่างออกไป, เค้ามีแนวคิดที่เปิดกว้าง และนั่นทำให้เค้ามีพื้นที่ให้ปรับตัวได้กว้างมากๆ”, “ลองคิดดูสิ, ขณะที่เค้าก็มีอัตตาที่ต้องการจะชนะทุกคน เพราะเค้าไม่อยากจะแพ้, แต่ในขณะเดียวกันเค้าก็ยังแสดงความเคารพกับผู้อื่นมากๆ, ซึ่งมันเป็นอะไรที่พิเศษมากกับสภาพแวดล้อม(การแข่งขันสูง)แบบนี้”
ด้าน Diego Gubellini หัวหน้าทีมช่างของ Fabio Quartararo คนปัจจุบัน ที่ทำงานร่วมกันมาตั้งแต่ตอนยังแข่ง Moto2 เอง ก็ให้ความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า “Fabio น่ะขึ้นมา MotoGP โดยที่ไม่ได้โดดเด่นในรุ่น Moto2 เลยนะ (ขึ้นมาแบบม้ามืด), และนั่นก็ทำให้เค้าเป็นอิสระจากแรงกดดัน และทำให้เค้ามีอิสระในการทำความเข้าใจว่า สิ่งสำคัญที่สุดที่เค้าควรเข้าใจคือตัวรถ และจะปรับตัวเข้าหามันยังไงก่อนที่จะไปพะวงเรื่องการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เสียอีก” (เพราะปกติหากเป็นนักบิด Moto2 แถวหน้าที่ได้เลื่อนขั้นขึ้นมา ก็มักจะกดดันถึงผลงานของตนเอง ว่าจะทำได้ดีเหมือนตอนอยู่ในรุ่นกลางหรือไม่ ? แต่ในเมื่อ FQ20 ไม่ได้โดดเด่นแต่แรกอยู่แล้ว เขาจึงไม่เห็นต้องกังวลอะไร และใช้เวลาในการทำงานกับทีมได้อย่างสบายใจกว่า)
“สำหรับ Yamaha, พวกเค้าช่วยได้มากจริงๆ, Fabio น่ะเป็นนักบิดที่คุณสามารถทำงานด้วยง่าย, มากกว่านั้น, เค้าเป็นคนที่ยอมรับความผิดพลาดเมื่อเค้าพลาด”, “เค้าเป็นคนง่ายๆ เพราะนั่นคือบุคลิกของเค้า, เค้าสุภาพเป็นปกติในแต่ละวันอยู่แล้ว, เค้าไม่ได้เป็นคนหยิ่งผยองอะไร”
ท้ายที่สุด แม้แต่ Lin Jarvis บอสใหญ่ของทีม Yamaha Factory ก็ยอมรับว่า การที่ Fabio Quartararo เข้ามาสู่ทีม ทำให้สิ่งต่างนั้นเป็นไปในทิศทางบวกขึ้นกว่าเดิมมาก “บุคลิก คือหนึ่งในพลังของเค้า”, “เค้าเป็นเด็กดี และมีความสามารถที่จะไปได้เร็วมากๆบนตัวแข่ง, แล้วยังสามารถจะขี่อย่างดุดันในเวลาที่ควร, แต่, พอรวมทุกสิ่งอย่างเข้าด้วยกัน, เค้าได้นำสิ่งดีๆมาให้กับทีมเยอะมากๆ”
“นักบิดบางคนอาจต้องการกองทัพหนุนหลังเพื่อแสดงศักยภาพของตนเอง, เพื่อเป็นพลังให้กับตัวเค้า และใช้มันทำลายคู่แข่งของเค้า, แต่ Fabio น่ะไม่ใช่”, “เค้าไม่ได้ต้องการกองทัพ, เค้าต้องการแค่คู่แข่งที่จะก้าวข้ามให้ได้, และผมคิดว่านั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเค้าถึงเป็นที่นิยมชมชอบท่ามกลางคู่แข่งของเค้า”
ขอบคุณข้อมูลจาก Motorsport.com
อ่านข่าวสาร MotoGP เพิ่มเติมที่ได้ที่นี่