ใกล้เข้ามามาแล้วกับการแข่งขัน AustrainGP ที่สนามแข่ง Red Bull Ring ประเทศออสเตรีย หนึ่งในสนามแข่งยุคใหม่ที่มีจุดเด่นในเรื่องของการทำความเร็ว Top Speed ไม่ต่างกับที่สนามแข่ง Mugello ในประเทศอิตาลี แต่ทุกคนรู้หรือไม่ว่านอกจากเรื่องของความเร็วแล้ว สนามแห่งนี้ยังขึ้นชื่อเรื่องความยากในการเบรกอีกด้วย และมันยากมากจนผู้จัดต้องเปลี่ยนกติกา เพื่อเพิ่มขนาดจานเบรกที่ใช้เลยทีเดียว
ในการแข่งขันมอเตอร์ไซค์ระดับ Grand Prix รถแข่งจากรุ่นเล็กและรุ่นกลางอย่าง Moto3 และ Moto2 นั้นจะใช้งานจานเบรกทั้งด้านหน้าและหลังที่ทำจากโลหะ ในขณะที่รุ่นใหญ่ MotoGP นั้นจะยังคงใช้งานจานเบรกแบบโลหะแค่ที่ล้อหลัง แต่ด้วยความเร็วของรถที่มากกว่า ทำให้ต้องมีการใช้งานจานเบรกแบบคาร์บอนเซรามิกที่ล้อหน้า ซึ่งมีจุดเด่นด้านการทนความร้อนจากการเบรกที่รุนแรงและต่อเนื่อง ส่วนสาเหตุที่จานเบรกหลังยังคงใช้แบบโลหะ ก็เป็นเพราะน้ำหนักตัวรถจะเทไปที่ด้านหน้าเกือบทั้งหมดในช่วงของการชลอตัว ทำให้ล้อหลังไม่ต้องรับภาระตรงนี้มากนัก
ในส่วนของขนาดจานเบรกหน้าจะถูกแบบออกเป็น 3 ขนาด คือ 320 มิลลิเมตร และ 340 มิลลิเมตร ซึ่งเดิมทีจานเบรกที่ใช้ในการแข่งขันก็จะมีอยู่แค่สองขนาดนี้ แต่ในปี 2022 ทางผู้จัดก็ได้มีการเพิ่มขนาดจานเบรกแบบใหญ่พิเศษ ที่มีขนาดใหญ่ถึง 355 มิลลิเมตร เพื่อแก้ปัญหาด้านความปลอดภัยในบางสนามที่ต้องใช้เบรกหนัก เช่นเดียวกับสนามแข่ง Red Bull Ring นอกจากนี้ในจานเบรกแต่ละขนาด ก็ยังมีประเภทย่อยให้เลือกลึกลงไปอีก เช่นแบบที่มีเนื้อของจานเบรกมากกว่าปกติ และแบบที่มีการเพิ่มครีบระบายความร้อน
โดยแต่ละสนามก็จะมีขนาดและประเภทของจานเบรกที่ทางกรรมการเป็นคนเปิดให้ทีมแข่งเลือกใช้งาน ไม่ต่างจากยางที่มีประเภทของเนื้อยางให้เลือกมากกว่าหนึ่งแบบ แต่ในบางสนามที่ต้องใช้เบรกหนัก พวกเขาก็จะมีการกำหนดแบบตายตัวมาเลยว่าต้องใช้จานใหญ่ที่สุดในขนาด 355 มิลลิเมตร เท่านั้น
โดยทาง Brembo ก็ได้แบ่งระดับความยากในการใช้เบรกของแต่ละสนามเป็นตัวเลข 1 – 6 ซึ่งสิ่งที่เป็นตัวตัดสินว่าสนามไหนจะต้องใช้จานเบรกขนาดเท่าไร ก็ไม่ได้ดูที่ความเร็วสูงสุด หรือจุดเบรกที่รุนแรงที่สุดเพียงอย่างเดียว แต่เป็นค่าเฉลี่ยของการเบรกที่รุนแรงและต่อเนื่อง เพราะต่อให้สนามไหนมีจุดที่ต้องใช้เบรกหนัก แต่ถ้าจุดเบรกอื่นไม่ได้ใช้เบรกรุนแรงมาก ก็จะทำให้จานเบรกมีเวลาระบายความร้อน จนพร้อมเบรกหนักอีกครั้งในรอบถัดไปอย่างไม่มีปัญหา
ซึ่งสนามแข่งที่ต้องใช้งานเบรกขนาด 355 มิลลเมตร นั้นก็จะเป็นสนามแข่งที่มีความยากอยู่ที่ระดับ 6 ซึ่งจะประกอบไปด้วย Red Bull Ring ประเทศออสเตรีย, Motegi ประเทศญี่ปุ่น, Sepang ประเทศมาเลเซีย และอีกสนามคือ Buriram International Circuit ที่ประเทศไทย
และถ้าจะให้เปรียบเทียบกับสนามแข่งที่อื่นอย่าง Phillips Islands ที่ประเทศออสเตรเลีย ก็จะมีระดับความยากอยู่แค่ 1 และในสนามที่มีการทำลายสถิติความเร็วสูงสุดกันทุกปีอย่าง Mugello ประเทศอิตาลี นั้นมีความยากอยู่ที่ระดับ 3 แต่ก็มีสนามที่มีข้อยกเว้นอย่าง Buddh ในประเทศอินเดีย ที่มีความยากสูงสุดที่ระดับ 6 แต่มีการใช้จานเบรกขนาด 340 มิลลิเมตร เท่านั้น
ที่มา brembo
อ่านข่าวสาร MotoGP เพิ่มเติมได้ที่นี่
