รีวิว 2025 Triumph Speed Twin 1200 RS ใหม่ รถโมเดิร์นคลาสสิค สาย Performance ที่มีการปรับรูปลักษณ์ และเพิ่มออปชั่น
หลังจากที่มันได้ถูกเปิดตัวเคาะราคาใน Motor Expo 2024 ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ล่าสุด Triumph Thailand ก็ได้จัดให้สือได้ทดสอบกันในสนามพีระฯ พร้อมกัน 4 รุ่น คือ Speed Twin 1200 RS และ Speed Twin 900 รวมถึง Trident 660 และ Tiger Sport 660 ที่เราได้นำรีวิว ขึ้นไปก่อนหน้า
เอาเป็นว่าเราขอกลับมาที่ 2025 Speed Twin 1200 RS คันนี้ ว่ามีอะไรใหม่บ้าง ได้แก่
โคมไฟหน้าทรงกลม Full LED ที่ มีการตกแต่งกรอบด้วยอลูมีเนียมปัดเงา
ถังน้ำมันใหม่โค้งมน ออกแบบให้แยกส่วนเป็นสีทูโทน, ฝาถังน้ำมันเชื้อเพลิงใหม่แบบพับขึ้นได้
แฟริ่งแผงข้างใหม่ รวมถึงฝาครอบปีกผีเสื้อใหม่
เบาะนั่งใหม่ ดูพรีเมี่ยมขึ้น ด้านหน้าแคบลง เหยียบได้ลงเต็มเท้าขึ้น
ล้ออัลลอยลายใหม่ 7 ก้านคู่
ชุดท่อไอเสีย แบบใหม่
นอกจากนั้นก็จะเป็นการ ปรับท่านั่งให้สปอร์ตขึ้น ด้วยการ ยกพักเท้าสูงขึ้น 6.5 มม. แฮนด์ปรับโน้มไปด้านหน้ามากขึ้น 16.2 มม.
เครื่องยนต์ปรับจูน กำลังเพิ่ม 5 แรงม้า เป็น 105 ps
เพิ่มเทคโนโลยี Triumph Shift Assist (QS 2Ways) รวมถึง Optimised Cornering ABS และ Cornering TC เข้ามา
มาเข้าที่การขับขี่ เริ่มที่ท่านั่ง
เบาะสูง 810 มม. แต่ช่วงเบาะไม่กว้างมาก ผมสูง 175cm ยังหย่อนเข่าได้สบาย
พักเท้า ร่นไปด้านหลัง และยกสูงขึ้นอีกหน่อย รวมถึงแฮนด์ที่ปรับโน้มไปด้านหน้า เพื่อให้ผู้ขี่เน้นการขี่แบบสปอร์ตควบคุมได้ดีขึ้น โดยรวมการขี่ในสนาม ถือว่า ok เพราะเราต้องจัด Riding Position แต่ถ้าขี่บนถนนยาาวๆ ก็อาจจะมีเมื่อยกันได้บ้าง
เครื่องยนต์ Bonneville 1200HP เป็นบล็อก Twin SOHC 8 วาล์ว ให้กำลังสูงสุดที่ 105 แรงม้า แรงบิด 112 นิวตันเมตร และนับเป็นครั้งแรกที่ให้ QS 2Ways มาในรถตระกูลโมเดิร์นคลาสสิค ของค่ายอังกฤษ
กำลังเครื่องยนต์ลูกใหญ่ ถือว่าแรงพอดี แต่ทอร์ค ถือว่ามาหนักตั้งแต่รอบต่ำ ลากเป็น Flat Torque ขึ้นเร็ว แอบตื้อเร็ว แต่ก็แน่นอน เป็นช่วงย่านที่กำลังแรงม้าสูงสุดมารับช่วงต่อ เลยทำให้ขี่ส่งกำลังได้ต่อเนื่อง สิ่งที่สำคัญ คือ ทอร์คมันเยอะ ก่อนหน้าผมขี่ Speed Twin 900 มา พอมาคันนี้เลยต้องระวังจังหวะกระแทกคันเร่งเสียหน่อย เพราะแฮนด์กว้าง หน้าเบา ทำให้มีอาการหน้าชก ในจังหวะออกโค้งซ้าย เพื่อเดินคันเร่งขึ้นเขา รวมถึงเปิดคันเร่งในโค้ง เพราะอยากทำความเร็วในช่วงโค้ง 100R ยังพอมีอาการออกมาให้เห็น สำหรับสุดทางตรงก่อนยกเบรก ผมได้ประมาณ 180kmph+ นิดๆ
ระบบกันสะเทือนปรับได้เต็มรูปแบบ จาก Marzocchi
ด้านหลังปรับโช้กคู่ ได้เต็มรูปแบบจาก Ohlins มาพร้อมกระปุก Piggyback ที่ตีโลโก้ Triumph
โดยรวมแล้ว ผมคิดว่า ช่วงล่างหน้า กำลังพอดี ส่วนด้านหลัง เซ็ทติ้งเดิม กับสรีระผม มันยังดูติดแข็งไปหน่อย ในจังหวะปีน Apex Chicane ผมยังรู้สึกดีดกระแทกอยู่พอควร ต้องยกก้นขึ้น บวกกับการที่แฮนด์กว้าง และทอร์คจัด ทำให้หน้ารถดูเบา มีหน้าส่ายในจังหวะเติมคันเร่งเยอะๆ เลยอาจจะมีนิดๆ ที่ยังรู้สึกการคอนโทรลช่วงหน้า-หลัง ไม่บาลานซ์นัก
ส่วนระบบเบรก จัดเต็มสเป็ก Superbike ทั้งปั๊มล่าง Brembo Stylema และปั๊มบน MCS หมุนปรับเบอร์ได้
บอกเลยว่า มันเป็นรถทั้งหมดในวันนี้ ที่ได้ทดสอบในพีระฯ แล้วเบรกได้หยุดมั่นใจดีที่สุด จุ่มลึกยังเอาอยู่ ไล่ นน. เบรกได้ดี จบครบ ไม่ต้องทำอะไรกับเบรกเพิ่ม
แถมการเพิ่มออปชั่น Cornering ABS และ TC นั่นยิ่งช่วยให้ผู้ขี่เบรกได้มั่นใจในโค้ง กล้าลง นน. โดยเฉพาะจังหวะที่เราขี่บนถนนแล้วบานโค้ง ต้องกำเบรกหนัก เพื่อให้รถหยุด ก็ไม่ต้องกลัวล้อล็อก หน้าพับ ส่วน Cornering TC นั้น ช่วยให้ผู้ขี่เติมคันเร่งได้เต็มที่มากขึ้นในโค้ง ไม่ต้องกลัวอาการ Slip
สรุป รีวิว 2025 Triumph Speed Twin 1200 RS ณ สนามพีระฯ ก็ต้องบอกว่า มันเป็นรถตระกูลโมเดิร์นคลาสสิคไฟกลม ที่มีสมรรถนะสูง แรงขี่สนุก ออปชั่นเทียบชั้น Superbike เรียกได้ว่า มันเป็น Modern Classic ที่ขี่ดีเยี่ยมเหมือน Naked Roaster ถือเป็นรถสไตล์นี้ที่ขี่สนุกที่สุดที่ผมเคยขี่มาก็ว่าได่้
2025 Triumph Speed Twin 1200 RS ราคา 6.59 แสน มีสีดำ และ ส้ม
ผู้สนใจติดต่อ Triumph Praram5
อ่านข่าว Triumph เพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่านรีวิวรถอื่น เพิ่มเติมเติมได้ที่นี่
