รีวิว 2025 Triumph Trident 660 รถ Roadster สไตล์โมเดิร์นไฟกลม ค่ายผู้ดี ที่มาครั้งนี้จัดเต็มยิ่งกว่าเดิม เพราะแม้ว่า หน้าตาของมันจะดูคล้ายเดิม แต่สิ่งที่เพิ่มเติมมา นั่นคือ เทคโนโลยีให้มาแบบจัดเต็มไม่กั๊ก

หลังจากที่ Trident 660 ได้ถูกเปิดตัวในไทยครั้งแรกช่วงโควิดต้นปี 2021 ณ ตอนนี้ก็ 4 ปีเข้าไปแล้ว ทาง Triumph Thailand ก็ได้เปิดตัวโฉม 2025 ใหม่ ในไทยกันเสียทีพร้อมประกาศราคา ออกมาเป็นที่เรียบร้อยกับคู่หูของมันคือ 2025 Tiger Sport 660 ร่างทัวริ่งยกสูง ณ สนามพีระฯ แห่งนี้ ซึ่งเราจะได้ทดสอบกันในรูปแบบสนามเท่านั้น
ต้องบอก Trident 660 มันมีความโดดเด่น ด้วยการที่เป็นรถมิดไซส์ 3 สูบ นน. เบา ไซส์คอมแพ็ค จึงทำให้ขี่ง่าย คล่องตัวเป็นมิตรกับผู้ขี่ รวมถึงคนที่มองหา BigBike คันแรก มันเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่โฉม 2025 นี้ ได้ปรับปรุงเพิ่ม ออปชั่นที่น่าสนใจเข้าไป แต่ยืนราคาเดิม ได้แก่
ชุดจอ ที่มาพร้อม Triumph Connectivity ให้มาเป็นมาตรฐาน ของเดิมต้องจ่ายเพิ่ม ประมาณ 12,000-
ครั้งนี้เพิ่ม Sport Mode เข้ามาให้แล้ว จากเดิม ปรับได้แค่ Road, Rain
ไม่เพียงเท่านั้น สวิทช์แฮนด์ด้านซ้าย มีปุ่มครูซคอนโทรล มาให้ด้วย ช่วยให้มันขี่เดินทางยาวๆ ได้สบายมากยิ่งขึ้น แม้จะเป็นรถร่างเปลือย
เพิ่ม Triumph Shift Assist ให้มาเป็นมาตรฐาน รุ่นเดิม ต้องจ่ายเพิ่มประมาณ 10,000-
นอกจากนี้ยังมี Optimised Cornering ABS และ Optimised Cornering TC เข้ามาอีก

สำหรับท่านั่ง
เบาะสูง 805 มม. ผมสูง 175 ซม. สวมเรซซิ่งบูท ยังเหยียบได้เต็มเท้าสบาย เพราะเบาะแคบ รวมถึง ถังน้ำมันขนาดสลิม 14 ลิตร จึงกระชับ และทำให้เราไม่ต้องถ่างขาเยอะ
แฮนด์บาร์ ขนาดพอเหมาะ ไม่กว้างไม่ยาวไป ให้การควบคุมได้ดี และแฮนด์วงเลี้ยวไม่กว้างนัก ทำให้ขี่ในเมืองก็ให้ความคล่องตัวได้ดีด้วย ตำแหน่งไม่ต่ำมากนัก ขี่แล้วไม่เมื่อยเกินไป

โดยรวม ขนาดบอดี้ ไซส์คอมแพ็ค และ นน. Wet แค่ 190 กก. ทำให้ เราพลิกรถคอนโทรลได้อย่างคล่องแคล่ว ในสนามเช่นนี้ มันขี่ง่าย สนุกมากๆ

เครื่องยนต์ Triple 660cc ให้กำลังสูงสุด 81ps@10,250rpm แรงบิด 64Nm@6,250rpm
ทอร์คกว่า 90% หรือกว่า 57Nm มีมาให้ใช้ตั้งแต่ 3,600rpm
ครั้งนี้ QS 2 Ways ไม่ต้องเสียเงินเพิ่มแล้ว เพราะให้มาเป็นมาตรฐาน

ต้องบอกว่า คาแรกเตอร์เครื่อง 3 สูบ 660 โดยรวมขี่สนุก ได้ต้น-กลาง-ปลาย ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นเลย แต่ พอได้ QS เข้ามาทำให้มันขี่ได้สนุกยิ่งขึ้น ต่อเกียร์ได้ไหลลื่น สมูท เครื่องยนต์ ไม่ได้แรกมาก แต่แรงบิดที่รีดออกมาได้ตั้งแต่รอบต่ำ ทำให้มันขี่ได้สนุกเร้าใจ อัตราเร่งดี และ กำลังพอดี ไม่แรง ไม่เบาไป สำหรับการทดสอบในสนามพีระฯ เช่นนี้ ความเร็วปลายสุดทางตรงมันอาจไม่ได้สูงมาก เราได้ค่าบนมาตรวัด ประมาณ 180+ นิดๆ ก่อน ม้วนพับโค้งซ้ายขึ้นเขา

ระบบ กันสะเทือนหน้า อัพเกรด เพิ่มเป็น SHOWA (SFF-BP) จากเดิม เป็นแค่ SFF เฉยๆ ครั้งนี้เป็น Big Piston เพิ่มมา
ส่วนโช้กหลัง Monoshock RSU เหมือนเดิม โดยรวม ยังถือว่า เหมาะสม ขี่ On Road กำลังดี ซับแรงได้ ok ส่วน การขี่ในแทร็กเช่นนี้ สำหรับผมก็ยังถือว่า ควบคุมได้ ok อยู่ ไม่ดีด หรือ ยวบย้วยที่ความเร็วสูง เพียงแต่ ด้วยความที่เป็นรถ Naked Street มันจึงอาจไม่ได้เฟิร์มนัก

ระบบเบรก Hardware เป็นสเป็กเดิมเลย ABS ใช้คาลิปเปอร์จาก Nissin หน้า-หลัง
ด้านหน้าทวินดิสก์ ขนาด 310 มม. (Fix Disc) คาลิปเปอร์เบรก 2 pot ซึ่งก็ต้องบอกว่า
เป็นจุดที่ผมรู้สึกเสียดายที่สุด เพราะ รถที่ได้เทสอีก 2 คัน ในตระกูล Speed Twin นั้น เป็นปั๊ม Radial 4 pots
ซึ่งการที่มันเป็น Roadster ผมเลยคิดว่าถ้าได้ 4 pots มาด้วย จะทำให้เบรกได้ ดียิ่งขึ้น เพราะ เรารู้สึกว่า โค้งที่ต้องใช้เบรกหนัก อย่าง โค้งซ้าย ก่อนขึ้นเขา และ โค้ง U-Turn ขวา บนเขา ที่จะต้องใช้เบรกหนักหน่อย ผมว่ามันยังเบรกลึกมากไม่ได้ ต้องเผื่อระยะสักนิด ไม่งั้น จะกลายเป็นเราต้องเข้าแบบ Late Apex

แต่การที่มันเพิ่ม Cornering ABS ทำให้ เราสามารถ เบรกในโค้งได้มั่นใจยิ่งขึ้น กล้าลง นน. มากขึ้น ในจังหวะเข้าโค้งที่ต้องมีเบรกช่วย หรือ กรณีใครขี่บานโค้งบนถนน ก็ยังสามารถเบรกได้โดยไม่เสียจังหวะล็อก และพับ

ขณะที่ Cornering TC ก็เข้ามาช่วย ในจังหวะที่เราเติมคันเร่งออกจากโค้งเยอะล้นเกินไป ก็จะช่วยเข้ามาจัดการให้เหมาะสม ล้อไม่ฟรี

สรุป รีวิว 2025 Triumph Trident 660 ต้องถือว่า มันยังเป็น มิดไซส์เน็คเก็ท ที่ขี่ดีขี่สนุก เป็นมิตรพอตัวเช่นเคย แต่สิ่งสำคัญ คือ การเพิ่มออปชั่นเทคโนโลยี เข้ามามากมาย แต่ยืนราคาเดิม เพราะ ตัวเก่า Quick Shifter 2Way กับ ระบบ My Triumph Connectivity ต้องเสียเงิน รวมกันเพิ่ม 23,000- แล้ว ยังไม่นับ Cruise Control ที่เพิ่มเข้ามา และ Cornering TC และ Cornering ABS อีก ยิ่งทำให้เจ้าตรีศูล คันนี้ น่าขี่สำหรับคนอยากได้ BigBike คลาสกลาง ที่ขี่ง่าย เบา คล่องตัวสักคัน
2025 Triumph Trident 660 ราคา 319,000 บาท (เท่าเดิม)
มี 4 โทนสีให้เลือก เหลือง, น้ำเงิน, แดง, ดำ
ผู้สนใจติดต่อได้ที่ Triumph Praram 5
อ่านรีวิวอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่านข่าว Triumph เพิ่มเติมได้ที่นี่