รีวิว 2025 Yamaha Nmax TechMax ชามไฟฟ้า เป็นไงบ้าง หลังจากที่ เราเพิ่งนำเสนอ ข่าวการเปิดตัวพร้อมประกาศราคา กันไปแล้ว ในคอนเทนต์ ก่อนหน้า ทางเราก็ได้มีโอกาสทดสอบ All New Nmax มาเป็นที่เรียบร้อย เราจึงจะขอมา รีวิว ให้เพื่อนๆ คุณผู้ชมได้รับชมกัน
ก่อนอื่น อย่างที่ได้บอกไปว่า เราได้พรีวิว สเป็กรายละเอียด ของตัวรถ พร้อมเปิดราคา ไปคร่าวๆ แล้ว (รับชมได้ที่นี่) ดังนั้นในคอนเทนต์นี้ จะขอมาเข้าเรื่องที่ รีวิว การทดสอบสัมผัสแรกในสนามกันเลย
เริ่มที่ท่านั่ง
2025 Nmax ต้องเรียนตามตรงว่า ท่านั่งนั้น ดูคล้ายเดิม ทั้งความสูงเบาะ ตำแหน่งแฮนด์ Floorboard ด้วยความสูงเบาะที่ไม่สูงมาก 770 มม. ทำให้ คนที่สรีระไม่สุงมาก ช่วง 170cm ลงมายังสามารถขี่ได้ไม่ยากเย็น ส่วน นน.ตัวช่วง 134 กก. (รุ่น STD 131 kg) ก็ถือว่า ไม่มากไม่น้อย ยังให้การคอนโทรลที่ดีอยู่ ตำแหน่งพักเท้าบน Floorboard นั่งได้ 2 แบบ ตั้งเข่าชัน และ เหยียดตรงไปด้านหน้า ซึ่งก็จะช่วยผ่อนคลายช่วงขาได้มาอีกระดับหนึ่ง
ต่อกันที่ขุมกำลัง อย่างที่บอกเราขอรีวิว เป็นหลักที่รุ่น Nmax TechMax รุ่นท็อป มากับเทคโนโลยี YECVT ชามไฟฟ้า ซึ่งก็ต้องเรียนตามตรงว่า การขี่ในรอบแรก Session แรกของเรายัง งงๆ อยู่
สำหรับผม ถ้าใครเป็นมือใหม่ หรือ ต้องการขี่เน้นใช้งานสะดวก และได้สมรรถนะที่ดี คือ กด Mode S (Sport) เพราะ S จะมีรอบเครื่องสูงกว่า T Mode อยู่ 1,000rpm ดังนั้น ใช้ S Mode แล้วกระแทกหมดปลอกเอาเลย ง่ายกว่า ไม่ต้องมาคอย Shift เพื่อเพิ่มรอบ อัตราทด เพราะเอาจริงๆ ฟีลมันก็เหมือนขี่ เครื่องยนต์ 155 VVA ในรุ่น STD ซึ่งก็ต้องบอกว่า แรงอยู่แล้ว อีกทั้งการที่เราขี่ในสนาม นั้นจะเค้นรอบเครื่องสูงตลอดเวลา ซึ่งการ Shift ที่รอบเครื่องสูงๆ นั้นตามที่ Yamaha เคลมว่า 7000rpm+ จะไม่มีผลแล้ว เพราะระบบรถจะ Safe เครื่องยนต์
แต่ถ้าใครอยากเล่นระบบ YECVT ด้วยการ Shift เพื่อ เพิ่มอัตราเร่ง จะมี 3 ระดับ ซึ่งถ้าเปิดรคันเร่งทันที หรือ กระแทกคันเร่ง มันจะ Shift Auto ให้ขึ้นมาที่ ระดับ 1 และ หลังจากนั้น รอบมาถึงช่วง 5500-6000rpm ก็สามารถ Shift เพิ่มมาเป็นระดับ 2 และ ช่วง 6500-7000rpm ก็สามารถ Shift เพิ่มขึ้นมาเป็นระดับ 3 ได้ ซึ่งเราก็ต้องบอกก่อนว่า ถ้าเราขี่เค้นในสนามเช่นนี้ การ Shift เพิ่มเข้าไป มันไม่ค่อยจะช่วยอะไรมากนัก เพราะเราบิดลาดรอบสูงกันตลอด จนมันสูงเกินรอบที่ ควรจะ Shift ไปแล้ว ซึ่งต่อให้ใช้งานบนถนน ถ้ากระแทกหมดปลอก รอบก็อาจจะขึ้นเร็วทะลุเกินรอบที่ควร Shift ไปได้เช่นกัน ดังนั้น มันอาจจะเหมาะสำหรับ คนที่ขี่ใช้งานทั่วไป แบบค่อยๆ เปิดคันเร่งขึ้นเรื่อยๆ และ Shift เพิ่มเข้าไป แบบนี้จะเห็นผลชัดเจนกว่า เพราะกดเข้าไป จะสังเกตุ เห็นได้ว่า Shift เพิ่มเข้าไป 1 ระดับ รอบจะ +1000rpm โดยประมาณ ขึ้นมา
จะเปรียบเสมือนคล้ายๆ กับการขับรถยนต์เกียร์ CVT และ Shift Down ลดเกียร์ลง รอบก็จะสูงขึ้นเพื่อให้มีอัตราเร่งให้ใช้ในมือมากยิ่งขึ้น
สำหรับความเร็วแรงนั้นก็ต้องบอกว่า ส่วนตัวผมคิดว่ามันเร็วกว่าตัวเก่าอีกหน่อย เพราะ ตัวเก่าที่ผมเคย Test TopSpeed ได้ประมาณ 124kmph แต่ในตัว 2025 Nmax ผมทำได้ช่วง 125-127 kmph ในรุ่น YECVT ได้สูงสุด 125kmph ส่วน STD ได้สูงสุด 127kmph
ข้อสังเกตุ คือ STD ผมทำความเร็วปลายได้มากกว่า YECVT ซึ่งอาจเป็นผลมาจาก การที่ผม ไป Shift Down ในจังหวะ ก่อนเข้าโค้ง เพื่อเพิ่ม Engine Brake ก่อนเข้าทางตรงยาว ก็เป็นไปได้
ขณะที่ การ Shift Down สามารถใช้งานได้อีกรูปแบบ คือ เพิ่ม Engine Brake ซึ่ง เมื่อเราปิดคันเร่ง หรือ ยกคันเร่งระดับ Shift ที่ไม่ว่าเรากดมาอยู่ที่ระดับเท่าไร มันจะหายหมด ดังนั้น ถ้าต้องการเพิ่ม Engine Brake ก็ให้เรากดเข้าไปใหม่ ในจังหวะที่ผ่อนคันเร่ง เพื่อเพิ่มแรง Engine ซึ่งจุดนี้ จะเห็นผลได้ทันที และ เสียงรอบเครื่องจะมาแบบเร้าใจ แบบขี่ในสนาม เรื่อง Shift Down สำหรับใช้งานเพิ่ม Engine Brake ผมมองว่า ดูจะเห็นผลและใช้งานได้จริงกว่าการเพิ่มอัตราเร่ง
ด้านของฟีลลิ่ง ระบบกันสะเทือน จากที่ Yamaha เคลมว่ามีการปรับเซ็ทช่วงล่างใหม่ แต่จากการใช้งานของผม คิดว่า ไม่ได้แตกต่างจากเดิมมาก คือ ส่วนหนึ่งต้องบอกว่าเราเทสในสนามด้วย ในตัวเก่า ช่วงล่างหลัง ถือว่าแข็งพอสมควร เหมาะกับการขี่สปอร์ตอยู่แล้ว แต่ ส่วนด้านหน้าก็ไม่ถึงกับยวบย้วย เพียงแต่ ช่วงยุบมันน้อยไปหน่อยทำให้ เวลาเจอลูกระนาดต้องเบรกให้เยอะๆ หน่อย ป้องกันโช้กยัน ซึ่งในตัว 2025 ผมยังไม่ได้ลองขี่ถนนเลยไม่ได้สัมผัสว่าต่างจากเดิมมากน้อยเพียงใด แต่ความรู้สึกคือ ด้านหน้าเหมือนจะเฟิร์มขึ้นนิดหน่อย ส่วนด้านหลังนั้น แทบไม่ต่างจากเดิม
ขณะที่ระบบเบรกนั้น Hardware Spec คือเหมือนเดิมเลย ไม่มีอะไรแตกต่าง ซึ่งจากการใช้งาน ผมมองว่าเมื่อเทียบกับความแรงแล้ว สเป็กเบรกหน้า มันน้อยไปหน่อย น่าจะให้ปั๊ม 2pots มาเพราะรถแรง แต่ยังโชคดีที่รุ่น YECVT มี Shift Down เข้ามาช่วยเพิ่ม Engine Brake ได้ จุดนี้ดีงามสำหรับ ใครชอบขี่ออกทริป หรือ ขี่บนเขา ไม่ต้องมาคอยเลีย เบรก ค้างไว้แล้ว
สรุป รีวิว 2025 Yamaha Nmax TechMax ตัวใหม่ นี้ มากับลูกเล่น YECVT ซึ่งต้องบอกว่า ถ้าจะเน้นใช้เพิ่มอัตราเร่ง ผมมองว่า ใครที่ไม่ชำนาญเรื่องจังหวะ Shift ตามรอบให้เหมาะสม กระแทกคันเร่งใน Mode S เอาเลยง่ายกว่า แต่ ข้อดีของ Shift Down จริงๆ สำหรับผม คือ การเพิ่ม Engine Brake ซึ่งหาไม่ได้ในรถ AT คันอื่นๆ ส่วนรุ่น STD ถ้าใครไม่ซีเรียสว่าต้องเทคโนโลยีใหม่ หรือ ไม่คิดจะใช้ลูกเล่น Shift คุณก็เลือก STD เอาก็ได้ ประหยัดงบ เพราะมันแรงเหมือนกัน แค่ปรับอัตราทดช่วงต้นไม่ได้ แถม STD ทำความเร็วปลายได้มากกว่าอีก เอาเป็นว่าเพื่อนๆ ชอบระบบ YECVT ไหม ก็ลองดู ว่ามันจะเป็นหรือ สำคัญกับคุณมากน้อยแค่ไหน
2025 Yamaha Nmax TechMax ราคา 98,500 บาท
2025 Yamaha Nmax Standard ราคา 113,500 บาท
อ่านรีวิว เพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่านข่าว Yamaha เพิ่มเติมได้ที่นี่