รีวิว Aprilia SR GT200 Replica คอ MotoGP ไม่ควรพลาด Supersport Scooter ที่ให้การคอนโทรลดีเยี่ยม
ต้องบอกว่า ผมเป็นเจ้าของ SR GT200 มาร่วมๆ 1 ปีแล้ว และทีมเราก็ได้มีโอกาส รีวิว มันไปด้วยกันหลายครั้ง ตั้งแต่ ครั้งแรกที่สนาม Impact Speed Park ยันออกทริป เขาใหญ่
ไปจนถึง การที่ผมรีวิว ทำไมถึงเลือก มันเป็นรถคู่ใจผมในปี 2023 มาแล้ว ในวันนี้ครับ ผมได้มีโอกาส มาอยู่กับเจ้า SR GT200 Replica กัน
หลังจากที่งาน ThaiGP 2023 ทีผ่านมาทาง Aprilia Thailand ได้เปิดตัว Aprilia SR GT200 Replica โดยได้ 2 นักบิด Aprilia Racing Team มาร่วมเปิดตัว ต้องบอกว่า มันช่างโดนใจคอ MotoGP อย่างผมเป็นอันมาก เพราะเปรียบเสมือน เราได้ขี่รถที่ถอดแบบลายตัวแข่ง RS-GP ออกมาเลย ซึ่งเราเลยจะขอมารีวิว เจ้าตัว Replica คันนี้กันอีกสักครั้ง
สำหรับจุดแตกต่าง กับรุ่น Sport ที่ผมใช้อยู่ ได้แก่
1. ลวดลาย จะเป็นการใช้รถรุ่น Standard ที่เป็นตัวสีดำด้าน มาติดสติกเกอร์ของลายทีมแข่ง MotoGP
2. ยาง เปลี่ยนซีรีย์ จาก Dual Purpose มาเป็น ยางสปอร์ต เหมาะกับการขี่ On Road และ เอาใจคนชอบซิ่งมากยิ่งขึ้น ล้อดำ แต่จะให้สติกเกอร์ขอบล้อแดง
3. สปริงโช้กหลัง นอกจากกลับสปริงถี่มาอยู่ด้านบนแล้ว ค่า K ยังแข็งขึ้นอีกเล็กน้อย
4. เบาะ จากตัว STD คือ ดำหมด แต่ด้าย เปลี่ยนจากแดง เป็นเทา
5. จะมี Welcome Kit แถมให้ ประกอบไปด้วย กระเป๋า และ พวงกุญแจ Be A Racer รวมถึงสติกเกอร์ตัวเลข 12 และ 41 ของ 2 นักบิด Aprilia Racing
นอกจากนั้น รายละเอียด หลักๆ ก็ยังคงเหมือนเดิม
คือ ไฟหน้าเอกลักษณ์ จากเจ้า 3 ตัว Supersport และ Superbike ของค่าย
แฟริ่ง ก็ได้รับ DNA Be A Racer แฟริ่ง 2 ชั้น แรงบันดาลใจจาก Winglet MotoGP ซึ่งก็ถอดแบบออกมาจากรุ่นพี่อย่าง RSV4 และ RS660 เช่นกัน
พลาสติก หลายส่วนทำลวดลายเคฟลาร์ ได้แก่ พลาสติกมใต้ชิลด์หน้า, บังโคลนล้อหน้า, แฟริ่งถังน้ำมัน, การ์ดกันร้อนท่อ, บังโคลนล้อหลัง
จอเป็นแบบ Digital LCD backlight สีดำ
บอกความเร็วเป็นตัวเลข สเกลรอบเครื่องแบบครึ่งวงกลม, เกจ์น้ำมัน, นาฬิกา, Odo Trip A/B, อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย/Realtime, บอกความเร็วเฉลี่ย และ Max Speed
ชุดสวิทช์แฮนด์ ด้านซ้ายมีปุ่ม Start & Stop และ Mode ซึ่งจะเป็นปุ่มเดียวกับ Mode บนมาตรวัด สามารถกดตรงสวิทช์แฮนด์ได้เลย
สวิทช์ขวา มีปุ่ม Run-Off และ Engine Start
ลิ้นชักซ้าย มี Port USB ซึ่งจะมีช่องเล็กๆ แต่ลึกพอ ทางด้านบนไว้วาง Smartphone พอได้
กุญแจให้มา 2 ดอก อีกดอกเป็นกุญแจ Immobilizer สีน้ำตาลแบบ Vespa
ช่องเก็บของใต้เบาะความจุ 25 ลิตร วางหมวก Full Face ได้ 1 ใบ
มิติตัวรถ SR GT200 Replica
น้ำหนัก 148 กก.
ความสูงเบาะ 799 มม.
ความจุถังน้ำมัน 9 ลิตร
ท่านั่ง
เบาะสูงราวๆ 800 มม. ถือว่าสูงพอสมควรเลย เพราะมันเป็น Scooter ยุโรป และ Clearance ที่สูง ผมเองสูง 175 ซม. สวมรองเท้าบู๊ท ยังพอลงได้เต็มเท้า แต่ระยะหย่อนขาแทบไม่เหลือแล้ว
Floorboard กำลังดี วางเท้าได้ทั้งแบบตั้งเข่าชัน และ ยันขาไปด้านหน้า
แต่ถ้าใครตัวสูงมากๆ อาจพบว่า เวลาหมอบขี่ อาจต้องร่นก้นไปด้านหลังเบาะผู้ซ้อน
ตำแหน่งแฮนด์บาร์ ไม่กว้าง และงุ้มเข้าหาลำตัวหน่อย ทำให้คอนโทรลรถลัดเลาะได้ง่าย เหมาะกับการขี่ในเมือง แต่แน่นอน อาจไม่เหมาะกับสายทางฝุ่นสักเท่าไร
อย่างไรก็ดี การที่ตัวรถมีช่วงโช้กสูง แม้แฮนด์จะแคบ ไม่สูงมาก แต่ ระยะของมัน พอๆ กับกระจกรถเก๋งเลย จึงอาจทำให้ เวลารถติดหนักๆ อาจจะลัดเลาะรถติดลำบากหน่อย เพราะตัวรถสูง และยิ่งควรตัวไม่สูงมาก อาจต้องเขย่งเท้าหน่อย
ตำแหน่งผู้ซ้อน พักเท้าคนซ้อน ออกแบบมาใช้งานได้สะดวกจริงๆ อันนี้ขอชม และผู้ขี่ในหลายครั้งที่ผม เจอลูกระนาดบ่อยๆ ผมก็มีแอบเอาเท้าไปวางและยกก้นขึ้น เปิดคันเร่งใส่ได้เลย
เบาะนั่งคนซ้อน เหมือนจะเล็ก แต่ก็นั่งได้เต็มก้นอยู่ และระนาบแบนพอดี
มือจับกันตก ก็กำลังดีจับได้เต็ม Grip มือ
เครื่องยนต์ i-GET200 1 สูบ SOHC 4 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ พิกัดจริง 174cc ที่มีกำลัง 17.6 PS@8500rpm และแรงบิด 16.5 นิวตันเมตร@7000rpm ส่งกำลังด้วยสายพาน CVT มาพร้อมระบบ Start&Stop System
ผมต้องเรียนว่า ฟีลลิ่งเครื่องตัวนี้ จะเน้นความสมูท เป็นหลัก ซึ่งจะแตกต่างจากรถญี่ปุ่น ใน Segement เดียวกัน ที่ต้นอาจจะดูจี๊ดจ๊าดกว่า แต่ความนิ่มนุวล ก็จะสู้เจ้า SR GT ไม่ได้ แต่อย่างไรก็ดี แม้มันจะ ต้นไม่จัดจ้าน แต่ถ้าบิดถึงรอบเครื่องของมัน กำลังมาแล้วก็จะมาเลย ซึ่งก็จะทำได้ดีในช่วงกลาง-ปลาย
จากการทดสอบ TopSpeed ที่ผมได้ลองจะอยู่ในช่วง 120ปลาย – 130 ต้นๆ ขึ้นกับสภาพถนน และลม
ระบบกันสะเทือน ถือว่าเป็นจุดเด่นของเจ้า SR GT เลย
ด้านหน้าเป็นโช้กอัพหัวตั้ง SHOWA ขนาดแกน 33 มม. มีระยะยุบตัวสูงถึง 122 มม.
ด้านหลังเป็นโช้คคู่ SHOWA ปรับได้ 5 ระดับ มีระยะยุบ 102 มม. แต่ ตัวนี้ จะกลับสปริงถี่อยู่ด้านบนและมีค่า K ที่แข็งขึ้นนิดหน่อย
ภาพรวมการใช้งาน ต้องบอกว่า SR GT ผมถือว่ามันเป็นรถที่มีการควบคุมได้ดีเยี่ยมสุดๆ คันหนึ่งใน Scooter สายสปอร์ตแล้ว
แต่ ถึงอย่างไรก็ดี ตัวปกติ ก็อาจมี บางจุดที่เป็นข้อสังเกตุ ที่ผมเคยบอกไปว่า โช้กหลังเดิมมันอาจจะ นิ่มเกินจนใครที่ซ้อน 2 อาจจะพบว่า มันไม่เหมาะกับการโหลด นน. มาก ตัวนี้ ค่า K แข็งขึ้นอีกหน่อย ฟีลผมว่าใกล้เคียงเดิม ไม่ได้รู้สึกว่ามันแข็งกว่าเดิมมากจนกระด้าง
แต่ พอจับอาการได้เวลาที่เราเจอ Bump พวกรอยต่อต่างๆ รู้สึกเฟิร์มขึ้น ชัดเจน
นอกจากนั้น เรื่องการควบคุมตัวรถ ในตัวที่ผมใช้ยาง Dual Purpose สำหรับผมที่ขี่ On Road เป็นหลัก เวลาขี่เร็วๆ และเจอลอนถนน อาจมีอาการหน้าส่ายออกมาให้เห็น แต่ตัวนี้เป็นซีรีย์สปอร์ต พบว่าอาการเหล่านั้นลดลง สำหรับผม ชอบเลยขี่ได้ดีขึ้น
เพราะจุดนี้ผมได้มีโอกาสลองในแทร็กพีระ คาร์ท ก่อนหน้านี้ที่ Bike of the year 2024 รู้สึกว่ายางนี้ทำให้ขี่แบบซิ่งได้มั่นใจยิ่งกว่าเดิม
ระบบเบรก ด้านหน้าเป็นจานดิสก์เดี่ยวแบบ Wavy Disc ขนาด 260 มิลลิเมตร ทำงานร่วมกับปั๊ม Nissin 2 pot
และด้านหลังจานขนาด 220 มิลลิเมตร ทำงานร่วมกับปั๊ม 2 pots
สำหรับ ABS มีเฉพาะด้านหน้า และให้สายเบรกมาเป็นสายถักจบเลย
ภาพรวมการทำงาน ตามที่ผมได้บอกไปหลายครั้งว่า เบรกมันดูติดฟีลลิ่งแม่ปั๊มแข็งๆ ไปหน่อย ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะแม่ปั๊มบน เขาให้มาเบอร์ค่อนข้างใหญ่ เมื่อเทียบกับปั๊ม 2 pots และก้านเบรก ที่ดูจะถ่างห่างนิ้วมือไปหน่อย เลยทำให้กดเบรกได้ไม่เต็มที่นัก สำหรับใครที่นิ้วไม่ยาวมาก
สำหรับการทำงานของ ABS อาจจะยังมีอาการดิ้นสู้ขึ้นนิ้วมือให้เห็นอยู่บ้าง
ส่วนเบรกหลังก็มีน้ำหนักที่พอดี แล้ว แต่กดหนักๆ ก็เเบรกหลังล็อกได้เหมือนกัน ซึ่งถ้าใครเป็นสายซิ่งเอาไปกดล้อล็อกเล่นท้ายปัดก่อนเข้าโค้งในสนามก็สนุกได้ไม่แพ้กัน
สรุป รีวิว Aprilia SR GT200 Replica เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับ คนที่ชอบ MotoGP ต้องการรถ Scooter สายสปอร์ต ที่หล่อไม่เท่ แต่ยังใช้งานได้สบายๆ แถมการคอนโทรลดีเยี่ยมสมจิตวิญญาณ Supersport Scooter
ถอดแบบมาจากตัวแข่ง RS-GP (MotoGP) เลย
ราคา Aprilia SR GT200 Replica อยู่ที่ 1.499 แสนบาท จะได้โปรโมชั่น ดอกเบี้ย 0% นาน 36 เดือน พร้อมของแถมมากมาย มูลค่า 16,000- ได้แก่
– Voucher 10,000 บาท
– ฟรีประกันรถหาย จดทะเบียน และ พรบ. มูลค่า 3,500 บาท
– ฟรีค่าซ่อมบำรุงรักษา 1,000 กิโลเมตร แรก
– Aprilia Welcome Kit มูลค่า 1,200 บาท
นอกจากนี้ สำหรับผู้ที่สนใจพรีเมียมสกู๊ตเตอร์ Aprilia SR GT 200 สามารถเลือกสีได้ทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีดำ Aprilia Black สีเทา Street Grey และสีน้ำเงิน Infinity Blue ราคาจำหน่าย 143,900 บาท* และ Aprilia SR GT 200 (Sport) มีทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีเหลือง Street Gold สีเทา Iridium Grey สีแดง Red Raceway ราคา 148,900 บาท*
อ่านรีวิว เพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่านข่าว Aprilia เพิ่มเติมได้ที่นี่