รีวิว Ducati Scrambler Sixty2 และ Scrambler Icon แบบ 1st Impression สัมผัสแรก Modern Scrambler ยุคใหม่

0
Showing 1 of 2

เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทาง Ducati Thailand ได้จัดกิจกรรม Scrambler in the City ซึ่งเป็นทริปขี่รถท่องเที่ยวให้กับลูกค้า Ducati Scrambler เป็นครั้งแรก ในรูปแบบ 1 day trip ขี่ท่องเที่ยวในกรุงฯ สบายๆ และทาง MotoRival ของเราก็ได้รับเกียรติเข้าร่วมทริปนี้ด้วย ดังนั้นเราไม่พลาดที่จะมารีวิวรถอีกหนึ่งตำนานที่ถูกรื้อฟื้นกลับมาใหม่ในรถสไตล์ Modern Scrambler คันนี้กัน กับรีวิว Ducati Scrambler Sixty2 และ Icon กันแบบ 1st Impression สัมผัสแรกกันครับ

Ducati-Scrambler_2_1
เริ่มแรกทางเราได้ลองขี่รถ Scrambler Icon กันก่อน ซึ่งในคันนี้จะเป็นคันที่ถูกตกแต่งเป็นตัวถังสีดำ (รุ่น Icon จะมีเพียงสีเหลือง และแดง เท่านั้น)

Ducati-Scrambler-Sixty2_05
Ducati Scrambler Icon 803cc มีไฟหน้าทรงกลม ที่มาพร้อมไฟ DRL แบบ LED ดูทันสมัย ไฟท้ายแบบ LED

Ducati-Scrambler-Icon_07
ท้ายโล่งขายึดทะเบียนติดตั้งที่ล้อหลัง

Ducati-Scrambler-Icon_01
นอกจากนี้ ยังโดดเด่นด้วยการตกแต่งถังน้ำมันอลูมีนัม

Ducati-Scrambler-Icon_04
ล้ออัลลอย 10 ก้าน ด้านหน้าขนาด 18” ด้านหลัง 17” สวมยางแบบ Dual Sport จาก Pirelli MT 60 RS ไซส์ 110/80/R18 และ 180/55/R17

Ducati-Scrambler-Sixty2_08มาตรวัดถ้วยกลม LCD แสดงผลความเร็วเป็นตัวเลขดิจิตอล ขณะที่วัดรอบเครื่องยนต์เป็นสเกล ครึ่งวงกลมด้านล่าง
แสดงผล Odometer และ Trip 1,2 นาฬิกา, อุณหภูมิภายนอก บอกเซ็นเซอร์ขาตั้ง

Ducati-Scrambler-Sixty2_20

แฮนด์บาร์กว้าง และสูง
Ducati-Scrambler-Icon_09
ก้านเบรกปรับได้ 4 ระดับ

Me-Scrambler-Icon_resize

Scramber Icon มีน้ำหนักตัว Wet Weight 186 กก.
ความสูงเบาะ 790 มม. ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกออปชั่น Low Seat 770 มม. และ High Seat 810 มม. ได้
ถังน้ำมันจุ 13.5 ลิตร

Scrambler-in-the-city_08
ในด้านของท่านั่งขี่นั้นเราพบว่า ความสูงแฮนด์สูงกว่ารถยนต์เก๋งขนาดเล็ก แต่อยู่ระดับเดียวกับ รถกระบะ และ SUV ยกสูง  ทำให้การมุดแทรกรถติดนั้น หากไม่เจอรถขนาดใหญ่ดังกล่าว ก็สามารถผ่านไปได้ไม่ยาก

เมื่อขี่ด้วยความเร็วอาจต้องทำใจเนื่องจากแฮนด์ที่กว้าง และยกสูงทำให้มันดูโต้ลมมากทีเดียว ขณะที่การขี่ในเมืองที่อาจต้องเกร็งบ้างนั้น อาจทำให้เมื่อยแขนเล็กน้อย

Ducati-Scrambler-Icon_02
เครื่องยนต์ L-Twin 803cc (บล็อกเดียวกับ M795-796) มี Oil Cool ทางฝั่งซ้าย
ให้กำลัง 75 แรงม้า@8250rpm และ แรงบิด 68Nm@5750rpm (ตอนแรงม้าลงจาก M795 12 ตัว และ แรงบิดลง 10Nm) ถ่ายกำลังด้วยเกียร์ 6 Speed

Ducati-Scrambler-Icon_08
ด้วยสไตล์เครื่องยนต์ที่อิงพื้นฐานมาแบบเดียวกัน ทำให้ช่วงออกตัวนั้นกระชากเอาเรื่องทีเดียว ร่วมกับระบบเกียร์ที่ดูชิดกันในช่วงเกียร์ต้นๆ ทำให้โดยรวมแล้วช่วงออกตัวอัตราเร่งไม่ได้ดูด้อยกว่า M795-M796 แต่อย่างใด การขี่ในเมืองที่รถติดอาจต้องระมัดระวังในการเปิดคันเร่งตามสไตล์ L-Twin ดิบๆ ออกตัวแรง ทอร์คจัด

Me-Scrambler-in-the-city_resizeขณะที่ไอร้อนนั้น เราพบว่าไอร้อนนั้นออกมาพอสมควร ที่หน้าขาฝั่งขวา แต่สัมผัสได้ว่าน้อยกว่า M795-796 ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการที่ติดตั้งระบบ Oil Cooler ทางฝั่งซ้ายของตัวรถ และท่อเสียออกข้างสั้น จึงไม่สัมผัสไอร้อนบริเวณช่วงก้น หรือด้านหลังขา

Ducati-Scrambler-Icon_05
ในด้านของระบบกันสะเทือน
โช้คหน้า UpSideDown จาก KYB ขนาดแกน 41 มม.
โช้คหลังเดี่ยววางนอนจาก KYB ปรับ Preload ได้

Ducati-Scrambler-Icon_11
โดยรวมแล้วให้การโดยสารที่นุ่มนั่งสบาย ไม่มีอาการตึงตังให้ปวดหลัง ซึ่งเราบอกได้เลยว่ามันนุ่มกว่าช่วงล่างรถสไตล์ Classic เสียอีก
ขณะขี่ผ่านมาทางรถไฟ ช่วงล่างยุบตัวลงอย่างมั่นคง ตัวรถไม่โคลงเคลงตามสไตล์โช้ค USD และซับแรงอย่างดีเยี่ยมไม่มีดีดดิ้น

Ducati-Scrambler-Icon_03
ระบบเบรกมาพร้อม ABS ทั้งหน้า-หลัง เบรกหน้าจานเดี่ยว Semi-Floating จานเดี่ยวขนาด 330 มม. ปั๊ม Radial Mount Monobloc คาลิปเปอร์ 4 สูบ จาก Brembo มาพร้อมระบบเบรก ABS เป็นมาตรฐาน  เบรกหลังจานเดี่ยวขนาด 245 มม. คาลิปเปอร์ 1 สูบ จาก Brembo เช่นกัน
การใช้งานต้องบอกว่าเพียงพอเหลือเฟือ แม้จานเบรกจะมีเพียงด้านเดียว แต่การใช้เบรกสมรรถนะสูงนั้นทำให้การเบรกแต่ละครั้งทำได้ดีมั่นใจ ขณะที่ระบบ ABS ยังคงช่วยป้องกันหากคุณต้องเบรกหนักบนพื้นที่ลื่น หรือ เบรกกระทันหันมันยังคงให้ความละเอียดในการทำงานที่ดี

อ่านรีวิว Scrambler Sixty2 ต่อที่นี่

Share.

About Author

Background EXP in Automotive journalists more than 10 Years Writer & Test Driver @Pantip Garage 2018-Present @9carthai 2015- 2017 @Torque & VIPStyle Magazine 2015 @Autospinn 2012-2015 @GTmania.tv 2009-2010

error: Content is protected !!