รีวิว EM Owen มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เปิดตัวล่าสุด ในงาน Motor Expo 2023
สวัสดีคุณผู้ชมทุกท่านอยู่กับผม ภณ MotoRival กันอีกเช่นเคย แน่นอนว่าหลังๆ มานี้เทรนด์รถ EV Bike กำลังมาแรง มีทางเลือกเยอะแยะมากมาย ทั้งแบรนด์ไทย จีน ราคาหลักหมื่น ยันหลักแสน
ในวันนี้ ผมจะขอมารีวิว EV Bike น้องใหม่ สัญชาติไทย EM Owen ที่เพิ่งเปิดตัวกันสดๆร้อนๆ ในงาน Motor Expo 2023
โดยก่อนอื่นผมต้องขอท้าวความถึง EM EV Bike กันก่อน เป็นแบรนด์มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสัญชาติไทย ที่มีโรงงานประกอบในประเทศ ดังนั้นไม่ต้องกังวลในเรื่องของอะไหล่มีให้พร้อม ไม่ต้องรอนาน
นอกจากนั้นยังมีบริการซ่อมรถถึงหน้าบ้านแบบ On Site Service ทั่วประเทศ พร้อมราคาอะไหล่ที่เป็นมาตรฐานเดียวกับศูนย์บริการทั่วประเทศ
กลับมาที่ EM Owen มันมาทำตลาดแทรกกลางระหว่างรุ่น Legend และ Enzo ซึ่ง 2 รุ่นนั้นจะเป็นสไตล์โมเดิร์นคลาสสิค Scooter แต่ Owen มากับสไตล์ Minimal ดีไซน์เรียบหรูทันสมัย
ทางด้านหน้า ชุดบังลมจะเรียบง่าย ดูคลีนๆ มีโลโก้ EM เพียงเท่านั้น
มีชุดไฟหน้า LED เป็นเส้นแถบแนวนอน มีไฟเลี้ยว Built in อยู่ที่ขอบด้านข้าง
ตัวโคมไฟหลักเป็นโปรเจ็คเตอร์ตาเดียวทางด้านบน
แฟริ่งด้านข้างจะเป็นโป่งโค้งในสไตล์รถสปอร์ตตัดด้วยสีเงิน
ไฟท้ายรูปทรงตัว M ดูแปลกตา ชุดไฟเลี้ยวอยู่ต่ำลงมา เป็นแถบไฟแนวตั้ง
ตำแหน่งขายึดทะเบียนเป็นบังโคลนล้อหลังปิดปกคลุมทั้งล้อ เป็นกันดีดทางด้านท้ายได้เป็นอย่างดี และยังมีไฟส่องทะเบียนมาให้ด้วย
นอกจากนั้นยังติดตั้งแถบทับทิมสะท้อนแสง มาถึง 3 ตำแหน่งทางด้านท้าย และซ้าย-ขวา
มาตรวัด Digital LCD แสดงผลตัวเลขความเร็ว, Mode ขับขี่ 3 ระดับ, ประจุแบตเตอรี่
และ Trip ซึ่งเวลาเราบิดกุญแจขึ้นมาทุกครั้ง ตัวเลขจะรัน 0 ใหม่ เสมอ
แฮนด์ให้มาเป็น Fatbar แต่จะสั้นกว่าปกติ
ชุดสวิทช์แฮนด์ซ้าย ก็จะมีปุ่มไฟสูง-ต่ำ, Pass, ไฟเลี้ยว, แตร
ด้านขวา มีปุ่มไฟ Hazard, ปรับ Mode การขี่ และตำแหน่งเกียร์
กุญแจแบบ Remote Key ใช้เป็นชุดกุญแจ Keyless ได้พร้อมสัญญาณกันขโมย แต่ถ้าใครอยากใช้แบบง่ายๆ ก็สามารถใช้ดอกไขได้
ช่องเก็บของด้านหน้าแบบเปิด มาพร้อม port USB และแน่นอนรถทรงนี้จะให้ตะขอเกี่ยวของมาด้วย
ตัวเบาะนั่งชิ้นเดียว แบ่ง 2 Step
เมื่อเปิดเบาะขึ้นจะพบกับ ช่องเก็บของที่ขนาดไม่ใหญ่มาก เพราะเสียพื้นที่ไปกับตัวแบตเตอรี่ทางด้านใต้ โดย EM Owen คันนี้ จะไม่สามารถถอดแบตออกมา Swap ได้
และช่องเสียบปลั๊กชาร์จไฟจะอยู่ที่ใต้เบาะ โดยเราจะต้องชาร์จผ่านตัว Adaptor
ไซส์ล้อ ให้มาเป็นมาตรฐานกับรถแนว AT Scooter ขอบ 12″
สวมยางหน้า 110/70 และหลัง 120/70
ท่านั่ง
เนื่องจากเป็น EV Size Minimal ต้องบอกว่า ทั้งคันเล็ก และเบาะก็ถือว่าเตี้ย จากที่ผมได้ลองวัดค่าดูอยู่แถวๆ 750 มม. เท่านั้น ดังนั้นใครสรีระตัวเล็กๆ ไม่มีปัญหาแน่นอน
เบาะนั่งไม่เล็กไม่ใหญ่ มีความยาวพอประมาณให้ผู้ขี่ขยับตัว ยืดช่วงขาได้ไม่เมื่อย และข้อดี คือ ช่วง Clearane ของเข่ากับแฮนด์ และคอนโซลหน้า ถือว่ามีให้มากพอประมาณดังนั้นคนที่ช่วงขายาวๆ ก็ยังสามารถขี่ได้โดยที่ไม่ติดเข่า
แฮนด์ Fatbar ที่แคบทำให้ ขี่ลัดเลาะได้คล่องตัว แต่ผมแอบรู้สึกว่าการที่แฮนด์มั้นสั้นมากเพียง 660 มม. ทำให้เวลาขี่ด้วยความเร็วจะรู้สึกแฮนด์แกว่ง สักหน่อยอาจจะเริ่มคอนโทรลยากต้องกดจับแฮนด์ให้มั่น
นน.รถเปล่า 95 กก. แบตเตอรี่ 18.75 กก. ทำให้ นน.รถทั้งคัน อยู่ที่ 113.75 กก.
ส่วนตำแหน่งเบาะคนซ้อนก็ถือว่ากว้าง แต่ระยะดูจะสั้นไปหน่อย
พักเท้าคนซ้อนมีแง่งออกมาให้ใช้ส้นเท้าเกี่ยวออกมาได้เลย
ตัวมือจับกันตกเป็นเหล็กท่อนกลม จากการใช้งานพบว่าระยะของตัวมือจับจะใกล้กับตัวเบาะไปสักหน่อย
ขุมกำลังเป็น Hub มอเตอร์กำลัง 2,500W ติดตั้งที่ล้อหลัง
ตัวแบตเตอรี่แบบ Li-ion ซึ่ง EM บอกว่าได้มาตรฐาน UNR 136 ซึ่งถือเป็นมาตรฐานความปลอดภัยของระบบไฟฟ้าในตัวรถ
ขนาด 72V 45 AH ใช้เวลาชาร์จไฟเต็มประมาณ 3-4 ชม.
ทาง EM เคลมว่า ต่อ 1 การชาร์จวิ่งได้ระยะ 80-90 กม. เฉลี่ย 50 สต./กม.
ด้าน Performance สำหรับรถทีี่ใช้ Hub Motor เวลาเปิดคันเร่งออกตัวจะพบว่า มันกระชากใครไม่ชินอาจต้องระวังสักหน่อย อัตราเร่งตอนแบตเต็มๆ ถือว่าแรงดีทีเดียว แต่หลังจากนั้นความเร็วก็จะมาแบบเรื่อยๆ เพราะมอเตอร์ 2500W ก็ถือว่าเป็นมอเตอร์ไฟฟ้า ขนาดกลางสำหรับ EV Bike ในปัจจุบัน
จากที่ผมได้ลอง Mode ทั้ง 3 โหมด พบว่า ความแรงในช่วงออกตัวไม่ต่างกัน จุดที่ต่างคือ ล็อกความเร็วปลาย
ผมลอง TopSpeed ทั้ง 3 โหมด
1 ได้ประมาณ 47 kmph (GPS 46)
2 ได้ประมาณ 64 kmph (GPS 63)
3 ได้ประมาณ 81 kmph (GPS 78) GPS จริงได้เท่าไรก็สามารถรับชมได้ที่คลิป
ตรงนี้ต้องย้ำก่อนนะครับว่าเทส ช่วงที่แบตเต็มๆ เพราะถ้าขีดแบตลดลงไป ความเร็วที่ได้จะลดลงต่ำกว่านี้
นอกจากนั้น ผมต้องบอกเอาไว้ก่อนครับว่า เวลาขี่ที่ความเร็วสูง อาจพบอาการหน้าสั่นๆ ซึ่งอาจมีสาเหตุจากช่วงแฮนด์ที่สั้น ดังนั้นอาจจะต้องกดน้ำหนักที่แฮนด์หน้าให้มั่นกันหน่อย
ระบบกันสะเทือน
ช่วงล่าง ด้านหน้าหัวตั้ง ด้านหลังเป็นโช้กสปริงคู่จาก YSS
เรื่องของประสิทธิภาพช่วงล่าง นั้นก็ต้องบอกว่ามันไม่ใช่รถที่เน้นสมรรถนะอะไรมากมาย
จะพบว่าช่วงล่างให้ตัวน้อย มีอาการดีดคืนกระแทกออกมาให้เห็นอยู่
โดยรวมช่วงล่างติดแข็ง ทั้งหน้า-หลัง ถ้าขี่ผ่านลูกระนาด หรือพื้นผิวขรุขระ คงต้องเบากันหน่อย
นอกจากนั้นช่วงฐานล้อสั้น แฮนด์แคบพลิกรถถือว่าไวพอสมควร แต่ก็อาจะต้องระมัดระวังสักหน่อยหากต้องการจะเล่นโค้ง เพราะ Grip อาจจะมีไม่มากนัก
ระบบเบรกจานดิสก์เดี่ยว ทั้งหน้า-หลัง
ด้านหน้าทำงานร่วมกับปั๊มคาลิปเปอร์ 2pots และ หลัง 1 pot มาพร้อมระบบ CBS ช่วยกระจายแรงเบรก
และยังให้สายเบรกมาเป็นแบบสายถัก
จากการใช้ จะพบว่าแม้ฟีลลิ่งการกดเบรกจะดูแข็งๆ ไปหน่อย แต่การออกแบบตัวการเบรกที่ดูหนา คล้ายๆ พวกแนวครุยเซอร์ขนาดใหญ่ จึงทำให้เรากดเบรกลงได้แบบไม่ปวดนิ้วมือมากนัก
และพละกำลังของเบรก ก็ถือว่าใช้งานได้พอเหมาะกับไซส์ และขนาดตัวรถ อย่างไรก็ดี จังหวะที่เรากำเบรกหนักๆ ก็ยังไม่มีอาการล้อล็อก ออกมาโดยตรง จากการที่มีระบบกระจายแรงเบรกช่วยเอาไว้ กฺ็ถือว่าเพียงพอกับ EV Bike ไซส์นี้
สรุป รีวิว EM Owen ถือเป็น EV Bike ไซส์ Minimal ขี่ง่ายคล่องตัว เหมาะกับทุกคน
มาเพื่อเพิ่มทางเลือก สำหรับคนที่ไม่ได้ต้องการขี่ทำความเร็วสูง เอาไว้ใช้งานในหมู่บ้าน ในซอย หรือ ถนนที่การจราจรหนาแน่น
ช่วยเซฟค่าใช้จ่ายได้เฉลี่ย 50 สต./กม.
EM Owen ราคา 77,900- แต่เนื่องจากมีนโยบายภาครัฐช่วย ทำให้เหลือ 58,640- มี 3 สี ให้เลือก คือ แดง, เทา, ดำ
นอกจากนั้นเลย EM Bike ยังโดดเด่นเรื่องของการรับประกัน
ในส่วนตัวถัง และระบบไฟฟ้า รวมถึงตัวที่ชาร์จแบตให้ 1 ปี หรือ 5,000 กม. (ต้องไม่ดัดแปลงระบบไฟของตัวรถ)
ประกันตัวแบตเตอรี่ และคอนโทรลเลอร์ 3 ปี หรือ 20,000 กม.
ประกัน มอเตอร์รับประกัน 5 ปี หรือ 30,000 กม.
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดต่อได้ทางเว็บไซค์, Facebook, Tiktok, Line และเบอร์โทร ตามรายละเอียดทางด้านล่างนี้
https://www.em-bike.com/
https://www.facebook.com/embikethailand
https://www.tiktok.com/@emevbikethailand
Line : @emevbike
โทร : 02-136-2079 , 065-524-2890