เมื่อวานนี้ทางเราได้ลง รีวิว Honda CB1100EX, NC700X ซึ่งเป็นโมเดลนำเข้าไปแล้ว 2 รุ่น จากการไปทริปทดสอบ Honda 500 Series ใหม่ เมื่อวันที่ 23-24 ธค. เส้นทาง กทม.-นครนายก-เขาใหญ่ ที่ผ่านมานี้ และตามนัด วันนี้เราจะขอมารีวิว Honda 500 Series ใหม่ นี้กันต่อครับ
Honda 500 Series ทั้ง 3 โมเดล ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางเดียวกัน ก็คือ การปรับโฉมรูปลักษณ์ให้ดูทันสมัยมากยิ่งขึ้น ได้แก่ ไฟหน้าแบบ LED, ไฟท้าย LED ใหม่, แฟริ่งท้ายใหม่ ที่ดูสวยงามทันสมัย รุ่น F, R มือจับท้ายที่ยื่นออกมาเหมือนปากแมลงทั้ง 2 ข้างหายไป มีหูหิ้วลากรถที่เบาะท้าย และมีช่องใต้แฟริ่งท้ายให้จับเพื่อเข็นรถได้สะดวกยิ่งขึ้น, เบาะนั่งใหม่ R, F สวยงามสปอร์ตมากกว่าเดิม, ฝาถังน้ำมันแบบบานพับ, กุญแจ Wave Key ใหม่, ท่อใหม่ (รุ่น R และ F), วินชิลด์หน้าสูงขึ้น (รุ่น X), ปั๊มเบรกหน้ารูปแบบใหม่, แคร้งเครื่องยนต์พ่นสีใหม่ (R, F), ติดสติกเกอร์ขอบล้อเพิ่ม
ในการขับขี่ออกทริปนี้ เราได้มีโอกาสทดสอบรถทั้ง 3 คัน
ซึ่งแน่นอนว่าในด้านของเครื่องยนต์ 471cc แบบ 2 สูบ นี้ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ทำให้ฟีลลิ่งภาพรวมของการขับขี่ ไม่ทำให้เราสัมผัสถึงความแตกต่างนัก จากที่เคยควบเจ้า Honda 500 มาก่อน Torque ที่มีให้ใช้งานเดินทางจากเครื่องยนต์ 2 สูบ ถือว่ามีเพียงพอในการขี่รูปแบบขบวนใช้ความเร็วเฉลี่ย 100-120 กม./ชม. มีจังหวะที่ได้หวดความเร็วสูงในระดับ 160 กม./ชม. บ้าง ก็ยังทำได้ไม่เครียดจนเกินไปนัก
แต่ก็ยังรู้สึกเช่นเคย ว่าตระกูล Honda 500 นี้ อาจไม่เร้าใจในช่วงรอบเครื่องยนต์ปลายนัก จากการที่รอบมาไวหมดไว เพราะมี Redline เพียง 8,500rpm แต่ข้อดีคืออัตราสิ้นเปลืองที่อยู่ในเกณฑ์น่าประทับใจ
สำหรับท่านั่งนั้นต้องบอกได้ว่า Honda CB500X เหมือนเดิมแทบทุกประการมีความสูงเบาะที่ 810mm (785mm ในรุ่น R,F 2 รุ่นนี้อาจแตกต่างเล็กน้อยจากผิวสัมผัสของเบาะ) น้ำหนัก curb weight X 197 กก., R 195 กก., F 193 กก. มีระยะฐานล้อ X 1,421 มม. (1,409 มม. รุ่น R,F)
CBR500R ถือเป็นรถสปอร์ที่มีท่านั่งที่เป็นมิตร ไม่ต้องก้มหลังกันมากจนเมื่อย เดินทางไกลทำได้ดี และการที่มีแฟริ่งและวินชิลด์ ช่วยลดลมปะทะไปได้มากพอควรจึงทำให้การเดินทางไกลไม่เหนื่อยกับแรงลมนัก
CB500F ขี่สนุกสไตล์ Naked Sport หักวงเลี้ยวง่าย ท่านั่งการขี่ดูสปอร์ตมากกว่ารุ่นพี่อย่าง CB650f จากแฮนด์บาร์ที่เตี้ยและกางกว่า จึงทำให้รู้สึกได้ถึงการควบคุมที่สนุกสนาน แต่แน่นอนการเดินทางไกลคุณต้องพบกับความเครียดมากหน่อย แต่ถ้าพูดถึงการหมอบลงเพื่อลดลมปะทะ ด้วยตำแหน่งแฮนด์ เราพบว่า CB500F นี้ กลับทำได้ดีกว่า CB650F เสียอีกนะ
CB500X คงไม่ต้องพูดกันมากถึงโมเดลนี้ ท่านั่งที่เป็น Touring ชัดเจน และเบาะก็ไม่สูงมากจนเกินไปทำให้มันขี่และควบคุมได้ง่ายสบาย และยิ่งความสูงวินชิลด์เพิ่มอีก 10 มม. และมีช่องให้ลมเข้าได้เล็กๆ ช่วยให้รู้สึกเย็นสบายยิ่งขึ้น
สำหรับระบบกันสะเทือน ที่มีให้ปรับ Preload ทางด้านหน้านั้น ช่วยให้หลายคนสามารถปรับเซ็ทได้ตามสไตล์ที่ตนเองต้องการ ในรุ่น 500X จะมีระยะยุบตัวที่มากกว่า F และ R ซึ่งช่วยให้การขี่ผ่านลูกระนาดนั้น หรือ พื้นผิวขรุขระ นั่นก็ทำได้ดีกว่าอีกด้วย และความนุ่มนวลในการนั่งก็ดีกว่าด้วยเช่นกัน
ขณะที่ระบบเบรก ปั๊มเบรกหน้า Nissin ปรับรูปแบบตัวคาลิปเปอร์ใหม่ จาก ตัวหนังสือนูน มาเป็นแบนเรียบ ยังคงทำหน้าที่ได้ดีเช่นเคย ผู้ขี่ยังกำเบรกลงน้ำหนักได้อย่างเต็มที่ เพราะมีระบบ ABS ช่วย ขณะที่ลูกเล่นเพิ่มคือ ก้านเบรกปรับระดับได้ แต่น่าเสียดาย ที่น่าจะใส่ก้านคลัชปรับระดับได้ให้ด้วย
สรุป Honda 500 Series ใหม่ ทั้ง 3 คัน มากับค่าตัวที่แพงขึ้น 5,000 บาท แต่ได้รายละเอียดที่เพิ่มมาเกินราคา แม้สมรรถนะอาจไม่เห็นแตกต่างอย่างชัดเจน แต่ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่มองเห็นได้ด้วยตาว่ามันสวยงามทันสมัย โดยใจคอสปอร์ตยิ่งขึ้น ร่วมกับ อุปกรณ์รายละเอียดต่างๆ ที่ช่วยให้ความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น อาทิก้านเบรกปรับระดับได้ และตัวปรับ Preload หน้า ต้องบอกเลยว่า คุ้มค่า ที่สำคัญ Honda 500 Series ถือเป็น รถ Bigbike ในตระกูล Honda ที่เป็นมิตรต่อผู้ขับขี่มากที่สุด จนสามารถใช้เป็น Everyday Bike ได้ทำให้ผู้ที่อยากจะเริ่มจับ Bigbike สักคัน มองข้าม Entry Bike มายัง Honda 500 Series นี้ได้เลย ไม่น่าแปลกใจที่มันมียอดขายที่ดีมากใน Motor Expo 2015 ที่เพิ่งผ่านมา
ท้ายที่สุด คุณต้องเลือกทางของตัวเองแล้วล่ะ ว่าจะ Sport, Naked หรือ Touring
Honda CBR500R ใหม่ ราคา 215,000 บาท มีให้เลือกสี แดง, ดำ, เทา
Honda CB500f ใหม่ ราคา 210,000 บาท มีให้เลือกสี ส้ม, ดำ, เหลือง
Honda CB500X ใหม่ ราคา 220,000 บาท มีให้เลือก 2 ลายกราฟฟิค แดง, น้ำตาล กับ 2 สีพื้น ขาว, ดำ
ขอขอบคุณ AP Honda และ Honda BigWing สำหรับทริปทดสอบในครั้งนี้
ภณ เพียรทนงกิจ Test Driver
อ่านข่าว Honda เพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่นี่
เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ